วันที่ 19 กันยายน 2564 09.30 น. นางมัลลิกา บุญมี ตระกูลมหาสุข ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการติดตามนโยบายด้านการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์นั้น ขณะนี้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ที่ทำหน้าที่เซลล์แมนประเทศไทยประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ได้ดำเนินการเร่งรัดการส่งออกในยุค New Normal โดยใช้นวัตกรรมใหม่ทางการตลาดเน้นการจัดงานแสดงสินค้าในรูปแบบ Hybrid และ Mirror Mirror ตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ตัวอย่างเช่น รายงานล่าสุดของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จากสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ระบุว่ามีการเดินหน้าเทคนิคการส่งเสริมการค้าแบบใหม่ในงาน CENTRESTAGE ครั้งที่ 6 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าแฟชั่นชั้นนำของเอเชีย เมื่อวันที่ 10 – 12 กันยายน 2564 ณ ศูนย์การประชุมและการจัดงานแสดงฮ่องกง (HKCEC)
นางมัลลิกา กล่าวว่า ธุรกิจแฟชั่นเป็นธุรกิจหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่ได้รับผลกระทบหนักจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นผลกระทบที่ต่อเนื่องยาวนานมากกว่าหลาย ๆ ธุรกิจ เนื่องจากชาวจีนซึ่งเป็นกลุ่มผู้ซื้อรายใหญ่ต้องหยุดเดินทางท่องเที่ยว ตามด้วยยุโรปซึ่งเป็นแหล่งศูนย์กลางแฟชั่นโลกที่เกิดการระบาดอย่างหนัก
ซึ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ตระหนักถึงข้อจำกัดในการส่งเสริมการส่งออกให้กับธุรกิจ จึงปรับแผนนโยบายในการเร่งรัดการส่งออกในยุค New Normal โดยใช้นวัตกรรม เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการที่ไม่สามารถเดินทางไปแสดงสินค้าในต่างประเทศได้
และหนึ่งในการ ส่งเสริมการค้าแบบใหม่ คือการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการในงานแสดงสินค้าระหว่างประเทศโดยไม่ต้องทางเข้าร่วมงานด้วยตนเอง แต่ใช้ ตัวแทนผู้ขายในประเทศ หรือล่าม เพื่อนำเสนอ สินค้า และอำนวยความสะดวกในการพูดคุยกัน ระหว่างผู้ซื้อและเจ้าของแบรนด์ผ่านช่องทางออนไลน์เมื่อมีผู้ซื้อมาที่บริเวณงานได้ ซึ่งเราเรียกเทคนิคการส่งเสริมการค้าแบบใหม่นี้ว่า Mirror-Mirror ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่การเกิดโควิด-19 ปีที่แล้วจนกระทั่งบัดนี้ ได้ดำเนินการไปหลายประเทศทั้งญี่ปุ่น จีน อเมริกา
“ที่ฮ่องกงช่วงนี้ก็ใช้เทคนิค “Mirror-Mirror” ในงานแสดงสินค้าแฟชั่นชั้นนำของเอเชีย ที่ชื่อว่า “CENTRESTAGE” ที่จัดโดยองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง หรือ HKTDC มีแบรนด์สินค้าเข้าร่วมจัดงานกว่า 200 ราย จาก 24 ประเทศ และมีผู้เข้าชมงานกว่า 17,200 ราย โดยครั้งนี้มีการช่วยส่งเสริมให้สินค้าแฟชั่นจากแบรนด์ไทยทั้งสิ้น 17 แบรนด์ได้เข้าแสดงสินค้าภายในงานนี้ด้วย” นางมัลลิกา กล่าว
ทางด้าน นางชณันภัสร์ พิศาลอภิพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง กล่าวเสริมว่า สินค้าแฟชั่นจากแบรนด์ไทยทั้งสิ้น 17 แบรนด์ ที่เข้าร่วมงานเป็นผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจากโครงการ Qurated Fashion Incubation Project ซึ่งเป็นโครงการเตรียมพร้อมผู้ประกอบการแฟชั่น เพื่อผลักดันผู้ประกอบการไทยสู่การพัฒนาศักยภาพด้านการแข่งขันในตลาด และเข้าสู่ตลาดนานาชาติ
การดำเนินการเพื่อส่งเสริมการค้าในภูมิภาคฮ่องกง ถือว่าเดินหน้าไปได้อย่างรวดเร็วเพราะกระทรวงพาณิชย์ติดตามการขับเคลื่อนนโยบาย “เซลล์แมนประเทศไทย”โดยใกล้ชิดและต่อเนื่อง ทีมทูตพาณิชย์มีการบูรณาการทำงานร่วมกับเซลล์แมนจังหวัดจากเมืองไทยในการเฟ้นหาสินค้าในท้องถิ่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดฮ่องกง และจับคู่ผู้ประกอบการนำเข้าในฮ่องกง
“รวมถึงการระบายผลผลิตการเกษตรตามฤดูกาลที่มีจำนวนมากในประเทศไทยด้วย เช่น มะม่วง ลำไย ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่ห่วงใยเกษตรกร มีการสร้างเครือข่ายเพิ่มเติมผ่านการลงนามต่ออายุบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางการค้าและธุรกิจ แลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการค้าและเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างฮ่องกงกับไทย โดยมีการลงนามไประหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง HKTDC อีกด้วย” นางชณันภัสร์ พิศาลอภิพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง กล่าว
รายงานกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุด้วยว่า ปัจจุบันสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในฮ่องกงอยู่ภายใต้การควบคุมแล้วและไม่พบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นติดต่อกันมากกว่า 3 สัปดาห์ (ข้อมูล ณ วันที่ 17 ก.ย. 64) ทำให้การจัดงานแสดงสินค้าต่าง ๆ สามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ ซึ่งการเข้าร่วมจัดงาน CENTRESTAGE ในฮ่องกง ก็เป็นการจัดงานแฟชั่นไทยโดยหน่วยงานราชการไทยในฮ่องกงเป็นครั้งแรกซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และมีผู้เข้าชมการแสดงแฟชั่นโชว์กว่า 250 ราย
โดยมีลูกค้ารายย่อยที่ต้องการซื้อสินค้าไว้ใช้เอง และมีการขอข้อมูลของผู้ประกอบการในการติดต่อขอสั่งตัด นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการนำเข้าของฮ่องกงที่สนใจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์แบรนด์ไทยเพื่อจำหน่ายในตลาดฮ่องกงซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา สินค้าที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ได้แก่
สินค้าที่มีเอกลักษณ์ไทย ประเภทผ้าไหมแต้มหมี่ ผ้าฝ้ายทอมือ ผ้าบาติก ที่มีลวดลาย และสีสันแปลกตา โดยเทรนด์ของสินค้าในตลาดฮ่องกง จะเป็นเสื้อผ้าที่ใส่สบาย มีเอกลักษณ์ โดดเด่น และมีการตัดเย็บที่ประณีต ผู้ประกอบการไทยที่ผลิตสินค้าแฟชั่น สามารถติดต่อ สคต. ณ เมืองฮ่องกง เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ตลาดฮ่องกง เนื่องจากสินค้าแฟชั่นไทย ได้รับความนิยม และความสนใจจากชาวฮ่องกงเป็นอย่างมาก และชาวฮ่องกงเป็นลูกค้าชั้นดีที่มีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะสินค้าที่มีเอกลักษณ์ไทยที่แตกต่างจากสินค้าทั่วไปในตลาด
