หิ้วกระเป๋า..สู่สวรรค์-สันต์ สะตอแมน

สันต์ สะตอแมน

            ตั้งอยู่-ดับไป!

            ก็..ขอแสดงความอาลัยกับการจากไปของนักร้องลูกทุ่งเสียงดี “แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์” เจ้าของเพลงดังอดีต อย่าง “แห่ขันหมาก”- “รักสาวเสื้อลาย” -“หิ้วกระเป๋า”..

 หรือถ้าเอาแบบซึ้งๆเศร้าๆ ก็.. “สามเณรกำพร้า” แค่ขึ้นท่อนแรก.. “จุดธูปเทียนนั่งลงขมา กราบลงตรงศพบิดา น้ำตาของลูกรินไหล..

พ่อตายเพื่อชาติ ศาสนา มหากษัตริย์ไทย ชีวิตยอมพลีให้ ชาติไทยได้อยู่คู่ฟ้า” ก็ทำเอาน้ำตาซึม ส่วนคนรุ่นหลังฟังแล้วจะรู้สึกอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะถามใคร..

ถ้าถามทอน-ถามบูด หรือถามเพนกวิ้น ก็คงจะโดนย้อน.. “จะตายเพื่อชาติทำไม”?

ครับ..มาย้อนดูประวัติ “แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์” กันหน่อย จากวิกิพีเดีย..ชื่อจริงว่า “เฉลียว ไกอ่ำ” เกิดวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2496 ที่อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา

จากฐานะที่ยากจน และพ่อแม่แยกทางกัน ทำให้เขาจบการศึกษาแค่ประถมศึกษาปีที่4..แสงสุรีย์ เป็นคนที่ชอบการร้องเพลงลูกทุ่งอย่างมาก

และก็ได้เข้าสู่เวทีการประกวดในเขตจังหวัดบ้านเกิดมาตั้งแต่สมัยเรียนชั้น ป.และประกวดเรื่อยมา ซึ่งก็ชนะบ้างแพ้บ้างเป็นธรรมดา

หลังจบการศึกษา เมื่อประมาณอายุ 15 ปี แสงสุรีย์ หิ้วกระเป๋าเข้ามาหางานทำที่กรุงเทพฯ โดยน้าสาวได้ฝากฝังให้เขาได้เข้าทำงานที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ แถวสุขุมวิท ในตำแหน่งล้างจาน ปี

หลังจากนั้นก็ขยับขึ้นมาทำในตำแหน่ง “พ่อครัวอาหารฝรั่ง” และเขาทำหน้าที่นี้อยู่นานถึง 10 ปี ระหว่างนั้นเขาก็ตระเวณประกวดร้องเพลงตามเวทีเล็กๆ ในเขตกรุงเทพฯ

วันหนึ่ง แสงสุรีย์ ได้เข้าประกวดการร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง “ขยะสังคม” ที่มีสรพงษ์ ชาตรี แสดงนำ และมีสายัณห์ สัญญา เป็นผู้ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์

ซึ่งคราวนี้ แสงสุรีย์ ได้รับชัยชนะ และเพื่อนที่มาร่วมประกวดด้วยกัน ได้พาเขาไปพบ “ครูสัมฤทธิ์ รุ่งโรจน์” ครูเพลงตาพิการ เพื่อให้ปั้นแสงสุรีย์ เป็นนักร้อง

เมื่อพบกัน ครูสัมฤทธิ์ บอกว่าถ้าอยากจะเป็นนักร้อง ก็จะขายเพลงให้เพลงละ 600 บาท ซึ่งแสงสุรีย์ก็ตกลงซื้อทันที เพลง

จากนั้นครูสัมฤทธิ์ก็กลับไปแต่งเพลงมาให้เขา เพลง ก่อนจะพาลูกศิษย์คนใหม่ไปเข้าห้องอัดเสียง โดยไปขอแทรกคิวเวลาห้องอัด ชั่วโมง เพื่อผลิตผลงานที่จะพลิกชีวิตของกุ๊กที่รักการร้องเพลงลูกทุ่ง

เพลงที่ว่านั้นก็คือ “แห่ขันหมาก” และ “น่าอร่อย” โดยใจความตอนหนึ่งของเพลง แห่ขันหมาก มีอยู่ว่า..

“ส่วน แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ ไม่มีรถขี่” ก็เท่ากับว่า ครูสัมฤทธิ์ ตั้งชื่อให้กับลูกศิษย์คนใหม่ไปพร้อมกับเพลง ๆ นี้เลยทีเดียว

หลัง เพลงของแสงสุรีย์ ถูกนำออกเผยแพร่ตามสถานีวิทยุ ก็ปรากฏว่าเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากของเหล่าบรรดาแฟนเพลง จึงมีนายทุนเสนอทำวงดนตรีให้เพื่อทำการเดินสาย

ครูสัมฤทธิ์จึงแต่งเพลงให้อีก เพลง สำหรับใช้ในการแสดงที่หน้าเวที และแสงสุรีย์ ก็ออกเดินสายในฐานะหัวหน้าวงโดยที่เขามีเพลงอยู่แค่ เพลงเท่านั้น

ในการแสดงครั้งหนึ่ง วงแสงสุรีย์สามารถเก็บค่าผ่านประตูได้เป็นหลักล้านบาท แม้จะเก็บแค่คนละ 20 บาท วงแสงสุรีย์ ออกเดินสายระหว่างปี 2521 – 2524 ก่อนจะปิดวงไป

ครับ..โลกหมุนให้เราพบกันไม่ได้แค่ชั่วครู่ชั่วคราวแล้วล่ะ และชีวิตที่อยู่กันมาได้จนปูนนี้ก็นับว่ากุศลเพียงพอแล้ว ฉะนั้นขอให้บุญกุศลจงนำพา “แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์” ..

เดินหิ้วกระเป๋า ไปสู่สรวงสวรรค์ด้วยเถิด!

0 replies on “หิ้วกระเป๋า..สู่สวรรค์-สันต์ สะตอแมน”