6 ก.ย. 2564 เวลา 13.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางโกโลนเน อัปปุหามิลาเค จมินทะ อิโนกา โกโลนเน (H.E. Mrs. Colonne Appuhamillage Chaminda Inoka Colonne) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตศรีลังกาฯ ในการดำรงตำแหน่งในประเทศไทย พร้อมกล่าวถึงความประทับใจในมิตรภาพและการต้อนรับที่อบอุ่นเมื่อครั้งไปเยือนศรีลังกาเมื่อปี 2561 โดยทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือถึงความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านต่างๆ มาโดยตลอด ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศมีความใกล้ชิด โดยเฉพาะความสัมพันธ์ทางด้านศาสนาและวัฒนธรรม โดยเมื่อปี 2562 รัฐบาลศรีลังกาได้มอบหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ให้ไทยด้วย ซึ่งรัฐบาลได้ดูแลเป็นอย่างดี
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวชื่นชมความสามารถของเอกอัครราชทูตศรีลังกาฯ และเชื่อมั่นว่าจะทำหน้าที่ส่งเสริมความสัมพันธ์และกระชับความร่วมมือระหว่างไทย – ศรีลังกาให้แน่นแฟ้นกันยิ่งขึ้นในทุกมิติ รัฐบาลไทยพร้อมจะสนับสนุนการทำงานและสถานเอกอัครราชทูตศรีลังกาฯ อย่างเต็มที่
เอกอัครราชทูตศรีลังกาฯ กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาดำรงตำแหน่งในประเทศไทย พร้อมได้นำความปรารถนาดีจากประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีศรีลังกาถึงนายกรัฐมนตรี โดยไทยและศรีลังกามีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมิติศาสนาและวัฒนธรรมที่มีมายาวนาน โอกาสนี้ เอกอัครราชทูตศรีลังกาฯ กล่าวยืนยันที่จะกระชับความสัมพันธ์ไทย – ศรีลังกาให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นสานต่อความร่วมมือที่อยู่บนผลประโยชน์ร่วมกันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในทุกมิติ ทั้งด้านการเมือง การส่งเสริมมูลค่าการค้าและการลงทุน การเจรจาจัดทำความตกลงFTA ระหว่างกัน ศาสนา และความร่วมมือระดับภูมิภาค
นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตศรีลังกาฯ ต่างเห็นพ้องว่า ไทยและศรีลังกายังมีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจอีกมาก หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะเร่งเจรจาการจัดทำความตกลง FTA ไทย – ศรีลังกา เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันในอนาคต ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังยินดีที่นักลงทุนของไทยเข้าไปลงทุนในศรีลังกาในหลายสาขา หวังว่ารัฐบาลศรีลังกาจะอำนวยความสะดวก และคุ้มครองดูแลการลงทุนของไทย เพื่อดึงดูดให้นักลงทุนไทยไปลงทุนในศรีลังกาเพิ่มขึ้น ด้านเอกอัครราชทูตศรีลังกาฯ ยินดีที่จะหารือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อแสวงหาความร่วมมือในการเสริมสร้างการค้าและการลงทุนระหว่างทั้งสองฝ่ายในสาขาที่มีผลประโยชน์ร่วมกันต่อไป
สำหรับความร่วมมือในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณรัฐบาลศรีลังกาที่ได้อำนวยความสะดวกในการจัดเที่ยวบินอพยพนำคนไทยในศรีลังกากลับประเทศ โดยรัฐบาลไทยพร้อมสนับสนุนศรีลังกาในการอพยพชาวศรีลังกาในไทยเช่นกัน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังยินดีที่มีส่วนช่วยเหลือรัฐบาลศรีลังกาในการรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งไทยได้บริจาคเครื่องมือทางการแพทย์ผ่านสถานเอกอัครราชทูตศรีลังกาฯ ไปแล้วด้วย ด้านเอกอัครราชทูตศรีลังกาฯ กล่าวขอบคุณความร่วมมือจากไทย หวังว่าสถานการณ์โรคโควิด-19 ในไทยและศรีลังกาจะดีขึ้นในเร็ววัน พร้อมกล่าวเชิญนายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนศรีลังกาอย่างเป็นทางการภายหลังสถานการณ์โรคโควิด-19 คลี่คลาย
ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงความร่วมมือในภูมิภาค โดยนายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีต่อศรีลังกาในการดำรงตำแหน่งประธานกรอบความร่วมมือความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation: BIMSTEC) ซึ่งไทยพร้อมจะเข้าร่วมการประชุมฯ ที่ศรีลังกาจะเป็นเจ้าภาพในปลายปีนี้ โดยไทยจะรับตำแหน่งประธาน BIMSTEC ต่อจากศรีลังกา หวังว่าศรีลังกาจะสนับสนุนไทยในการเป็นประธาน BIMSTEC โดยเฉพาะด้านความเชื่อมโยง และความร่วมมือระหว่างท่าเรือ
ในช่วงท้าย ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่ไทยและศรีลังกามีความร่วมมือทางวิชาการครอบคลุมหลายสาขา โดยเฉพาะด้านการเกษตรและประมง ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีแลกเปลี่ยนข้อมูลทางด้านวิชาการระหว่างกันเพิ่มเติม