ทางลัดการจัดการวัคซีน-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

พักเรื่องม็อบครับ

เพราะทำไปทำมา กลายเป็นสนามให้เด็กช่างกลปล่อยของ
ระเบิดปิงปอง ประทัดยักษ์ ปืนไทยประดิษฐ์ ที่เคยใช้รถเมล์ ขสมก.เป็นสนามรบ วันนี้หันมาใช้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

สามเหลี่ยมดินแดง เป็นที่โชว์งานวิจัยชิ้นเอก

https://shp.ee/idqa8id Yuyao Moon Landing เครื่องวัดออกซิเจน Oxygen Inhaler Buoy เครื่องวัดการไหลของออกซิเจนในครัวเรือนผู้สูงวัยถังออกซิเจน I สินค้าสุขภาพผู้สูงวัยราคาพิเศษ ซื้อออนไลน์ ส่งฟรีทั่วไทย

ประเทศไทยยังมีเรื่องสำคัญต้องทำมากครับ
ด้วยพลานุภาพของโควิดสายพันธุ์เดลตา บวกกับข่าวปลอม น่ากลัวกว่าม็อบประทัดยักษ์เยอะ
อันตรายมาก….
มีคนเชื่อว่าประเทศนี้ต้องขับเคลื่อนด้วยการด่า
ทำให้การด่าผ่านสื่อโซเชียลกลายเป็นเรื่องปกติ
สังคมคนรุ่นใหม่จึงใช้ภาษาต่างจากคนรุ่นก่อน คือ “หยาบคาย” เป็นที่ตั้ง

ฉะนั้นการท่องโลกออนไลน์ จึงต้องเตรียมใจ และมีภูมิคุ้มกันมากพอ ด้วยการสร้างความรู้ ที่เป็น Fact ไม่ใช่ Fake

ยกตัวอย่าง กรณีการแจกจ่ายวัคซีน Pfizer ที่อเมริกาบริจาคให้ ๑.๕ ล้านโดส เกิดความสับสนแบบไม่น่าจะเกิดขึ้น

มีโรงพยาบาลบางแห่งโวยวายว่า ได้วัคซีนไม่ครบ แทนที่จะพูดคุยกันภายใน กลับประจานออกสื่อ จะมีเจตนาอื่นแอบแฝงหรือไม่ ไม่ทราบได้

แต่ผู้บริหารโรงพยาบาลไม่เป็นมืออาชีพ
ถ้าติดตามข่าวสาร วันที่ ๔ สิงหาคม นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงนามในเอกสารจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ไปยัง ๗๖ จังหวัด รวม ๓๒๒,๘๐๐ โดส กทม.อีก ๑.๒ แสนโดสในสถานพยาบาล ๑๖๒ แห่ง

เป็นการจัดส่งในรอบแรก ๔-๖ สิงหาคม
อัตราการจัดส่งคิดเป็น ๕๐-๗๐%
หมายความว่า ไม่ได้จัดส่งทีเดียว ๑๐๐%

ล็อตแรกฉีดเสร็จใน ๑ สัปดาห์ จากนั้นจะส่งล็อตสอง
ทำไมไม่ส่งล็อตเดียวให้หมดไปเลย

บุคลากรทางการแพทย์น่าจะมีข้อมูลว่า วัคซีนไฟเซอร์มีข้อกำหนดในการส่งและการเก็บรักษาที่ละเอียดกว่าวัคซีนยี่ห้ออื่น

เก็บรักษาไม่ดี ฉีดไม่ทัน มีโอกาสเสียของ

ครับ…เมื่อบางโรงพยาบาลทวงได้ครบ สังคมโซเชียลเคลมว่า เห็นมั้ยต้องด่าจึงจะปล่อยวัคซีน
หรือแม้กระทั่งการปั่นข่าวว่า Pfizer หาย ล้วนเป็น Fake ไม่ใช่ Fact

มาดูของจริงกันครับ
ในการแถลงข่าวของคุณหมอทวีศิลป์ วิษณุโยธิน วานนี้ (๑๓ สิงหาคม) ได้แสดงแผนภูมิการคาดการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อ และจำนวนผู้เสียชีวิต ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ถึงต้นเดือนกันยายน

หากไม่มีการล็อกดาวน์ใดๆ เกิดขึ้น จะมีผู้ติดเชื้อวันละ ๖-๗ หมื่นคน
ผู้เสียชีวิตกว่า ๘๐๐ คน
แต่ถ้ามีการล็อกดาวน์แบบมีประสิทธิภาพ ๒๐ เปอร์เซ็นต์ เหมือนที่เป็นอยู่จะมีผู้ติดเชื้อประมาณ ๔๕,๐๐๐ คน
เสียชีวิตประมาณวันละ ๕๐๐ คน

และถ้าล็อกดาวน์อย่างมีประสิทธิภาพ ๒๕ เปอร์เซ็นต์ นาน ๒ เดือน รวมถึงเร่งฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุและกลุ่มเป้าหมาย ๗ โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์

จะมีผู้ติดเชื้อประมาณ ๒ หมื่นคน
และเสียชีวิตต่ำกว่า ๒๐๐ คน

ก็ตามที่เขียนถึงวานนี้
สายพันธุ์เดลตา ๕-๑๐ วินาทีก็ติดได้
๑ คน แพร่เชื้อได้ ๙ คน
เอา ๙ คูณ ๙ สัก ๘ ครั้ง ตัวเลขชวนขนลุก

แต่ก็ต้องยอมรับความจริงครับ
และความจริงในลำดับต้นๆ วันนี้คือ วัคซีน ไม่พอ

ตัวเลขการฉีดวัคซีนล่าสุด ๑๓ สิงหาคม อยู่ที่ ๒๓,๐๔๗,๓๔๒ โดส
ฉีดเข็มแรกสะสม ๑๗,๕๙๒,๘๕๒ โดส
เข็ม ๒ สะสม ๔,๙๙๖,๔๑๗ โดส
เข็ม ๓ สะสม ๔๕๘,๐๗๓ โดส

คิดง่ายๆ มีคนไทยฉีดวัคซีนไปแล้ว ๑๗.๕ ล้านคน
เป้าหมายการฉีดอยู่ที่ ๕๐ ล้านคน
ขณะที่อัตราการฉีดอยู่ที่ประมาณ ๕ แสนโดสต่อวัน

ถ้าจะจบให้ได้ในเดือนตุลาคม เพื่อเปิดประเทศ ตัวเลขกลมๆ ต้องเร่งฉีดวัคซีน ๓๐ ล้านคน ให้ได้ภายใน ๒ เดือน
ฉีด ๒ วัน ได้ ๑ ล้านโดส
๓๐ วันได้ ๑๕ ล้านโดส
๒ เดือนได้ ๓๐ ล้านโดส
แต่ไม่ใช่ ๓๐ ล้านคน

ฉะนั้นทำอย่างไรภายใน ๒ เดือนนี้ ฉีดให้ครบ ๓๐ ล้านคนให้ได้ ซึ่งอาจหมายถึงต้องใช้วัคซีน ร่วมๆ ๘๐ ล้านโดส เพราะต้องรวมเข็ม ๒ และบูสเตอร์เข็ม ๓ เข้าไปด้วย

ปัจจุบันการฉีดเข็ม ๒ และ ๓ ในแต่ละวัน อยู่ในอัตราส่วนครึ่งหนึ่งของเข็มแรก
หมายความว่าใน ๒ เดือนนี้เราต้องมีวัคซีนอีกเท่าตัว

ครับ…จากคำแนะนำทั้งจากนักวิจัย แพทย์ เรื่องนี้มีทางออก!
พอสุรปความได้ตามนี้ครับ

วัคซีนสองโดสสำหรับคนประมาณ ๕๐ ล้านคนต้องการ ๑๐๐ ล้าน
แต่เราฉีดไปแล้วเกิน ๒๐ ล้านโดส จึงต้องการอีก ๘๐ ล้านโดส

ด้วยวิธีการฉีดแบบปกติน่าจะเป็นไปได้ยากที่จะได้วัคซีน ๘๐ ล้านโดสในเวลาสั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนชนิดใดก็ตาม
ขณะนี้มีการทดสอบวัคซีนแบบ intradermal (ฉีดเข้าผิวหนัง) จะได้วัคซีนเพิ่มมาเฉยๆ ๕ เท่า

นั่นคือเราต้องการวัคซีนอีกแค่ ๑๖ ล้านโดสเท่านั้น ซึ่งไม่ยากเดือนเศษน่าจะได้ครบ
หากรอวัคซีนที่จะมาตามปกติและใช้วิธีการฉีดแบบปกติ คงไปจบเอาปลายปี หรือต้นปีหน้า

นั่นหมายความว่า จะมีคนเสียชีวิตหลักหมื่น
ที่สำคัญเศรษฐกิจคงฟื้นยาก

ครับ…มาถึงทางแยกที่รัฐบาล และ ศบค. ต้องตัดสินใจ
แต่ทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานงานวิจัยทางการแพทย์ และความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก

ใครที่คิดว่าสู้กับโควิดไม่เห็นยาก มีวัคซีนก็เอาอยู่แล้ว ก็ให้ดู อเมริกา เป็นตัวอย่าง วานนี้ติดเชื้อไป ๑.๔ แสนคน เสียชีวิต ๖๖๐ คน เข้าสู่การระบาดรอบใหม่ ด้วยสายพันธุ์เดลตาอย่างเต็มตัว

ฉะนั้นนอกจากวัคซีนแล้วยังอยู่ที่ประชาชนด้วย
ถ้าประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ ไม่เห็นถึงภัยที่จะเกิดขึ้น การสู้กับโควิดก็ไม่มีประสิทธิภาพ

อเมริกันอ้างสิทธิทางร่างกายไม่ฉีดวัคซีนกันเยอะ

สำหรับประเทศไทย มีคนเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงต่อการติดเชื้อ รวมตัวกันเรียกร้องประชาธิปไตยไล่รัฐบาลเผด็จการ ที่พวกเขาก่นด่ากันได้อย่างเสรีทุกวัน

ในม็อบ ๓ นิ้วติดเชื้อโควิดหลายคนแล้ว
จะพาเชื้อกลับเข้าบ้านหรือไม่ อันนี้ไม่ทราบ
แต่ปัญหาที่เราเจออย่างหนักหน่วงในขณะนี้คือคลัสเตอร์ครอบครัว.


Written By
More from pp
นับถอยหลังเปิดประเทศ 1 พ.ย. นี้ นายก ฯ มอบหมายงานทำแผน มาตรการเฝ้าระวัง ลั่นมีการติดตามสถานการณ์ หลังเปิดประเทศ 1 พ.ย. นี้ อย่างใกล้ชิด
30 ตุลาคม 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมอบหมายทุกภาคส่วนราชการจัดเตรียมมาตรการเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์  หลังการเปิดประเทศอย่างปลอดภัย ...
Read More
0 replies on “ทางลัดการจัดการวัคซีน-ผักกาดหอม”