12 ส.ค.64 – ที่กองบังคับการ 3 กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.3 บช.สอท. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท.(กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง ผบก. 3 บช.สอท. ร่วมกันแถลงข่าว ผลการจับกุม นายดนุนัย (เจ้าตัวไม่ขอเปิดเผยชื่อและนามสกุล) อายุ 38 ปี ชาว จ.ขอนแก่น,
นายสรวีย์ (เจ้าตัวไม่ขอเปิดเผยชื่อและนามสกุล) อายุ 43 ปี ชาว จ.เชียงราย ,นางกุลธิรัตน์ (เจ้าตัวไม่ขอเปิดเผยชื่อและนามสกุล) อายุ 43 ปี ชาว จ.เชียงราย พร้อมของกลางอาวุธปืนเถื่อนกว่า 2,000 กระบอก ลูกกระสุนปืนรวม 1,000,000 นัด รวมมูลค่าของกลางกว่า 50 ล้าน หลังถูกกำลังเจ้าหน้าที่ บก.3 บช.สอท. ทำการตรวจยึดได้ในเจตพื้นที่ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น และ ในเขต จ.เชียงราย
พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. กล่าวว่า กำลังเจ้าหน้าที่ตํารวจ บช.สอท. ร่วมกับ บก.สส.ภ.4 และ สภ.เมืองขอนแก่น ได้ทำการสืบสวนสอบสวนกลุ่มผู้ค้าอาวุธปืนเถื่อนทางออนไลน์จนกระทั่งพบผู้ค้ารายใหญ่จำนวน 2 ราย ทำการเสนอจำหน่ายอาวุธปืนผ่านช่องทางเว็บไซต์และเพจเฟซบุ๊ค จึงได้ทำการพิสูจน์ทราบตัวบุคคล และสถานที่ที่ใช้สำหรับซุกซ่อนอาวุธปืนเพื่อรอจำหน่าย ในเขต จ.ขอนแก่น และ จ.เชียงราย จนกระทั่งในวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาพร้อมกันทั้งในเขต จ.ขอนแก่น และ จ.เชียงราย
โดยจุดแรกในเขต จ. ขอนแก่น 3 จุด ทาวเฮาส์แห่งหนึ่งซึ่งดัดแปลงเป็นโกดังเก็บของที่ ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น พบอาวุธปืนยาวไม่มีทะเบียน 1,114 กระบอก , อาวธุ ปืนสั้นไม่มีทะเบียน 30 กระบอก และกระสุนปืน 400,000 นัด จุดที่ 2 ที่บ้านทาวเฮาส์แห่งหนึ่งซึ่งเป็นโกดังเก็บของเช่นกัน ในเขต ต.ศิลา อ.เมือง ในจุดนี้ ตรวจยึด ปืนยาวไม่มีทะเบียน 258 กระบอก,อาวธุ ปืนสั้นไมมีทะเบียน 84 กระบอกและกระสุนปืนประมาณ 320,000 นัด จุดที่ 3 บ้านพักภายในหมู่บ้านวราศิริหนองไผ่ ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น พบอาวธุปืนยาวไม่มีทะเบียน 42 กระบอก, อาวุธปืนสั้นไม่มีทะเบียน 8 กระบอก และกระสุนปืนประมาณ 200,000 นัด โดยทั้ง 3 จุดของขอนแกน มีนายดนุนัย เป็นเจ้าของ
“ขณะที่กำลัง บก.3 บช.สอท. อีก 1 ชุดได้เข้าทำการตรวจค้นภายในเขต อ.เมือง จ.เชียงราย 2 จุด คือจุดแรกที่ บ้านพักแห่งหนึ่งที่มีการต่อเติมให้เป็นโกดังเก็บของ พบอาวุธปืนยาวไม่มีทะเบียน 173 กระบอก , อาวุธปืนสั้นไม่มีทะเบียน 51 กระบอก และกระสุนปืนประมาณ 54,000 นัด และจุดที่ 2 ที่ร้านจำหน่ายอุปกรณ์บีบีกัน พบอาวุธปืนยาวไม่มีทะเบียน 13 กระบอก และกระสุนปืนประมาณ 3,500 นัด อาวุธปืนยาวไม่มีทะเบียนจำนวน 1,600 กระบอก,อาวุธปืนสั้นไม่มีทะเบียน 173 กระบอก และกระสุนปืนตะกั่ว จำนวน 977,510 นัด
ซึ่งจากการสอบสวน นายดนุนัย ให้การว่าได้สั่งอาวุธปืนมาจากผู้ค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่ภาคใต้โดยปืนดังกล่าวนำเข้ามาจากต่างประเทศ ทั้งจากอินโดนีเซีย,สวีเดน,สหรัฐอเมริกา, ตุรกี,สเปนและจีนโดยไม่ผ่านวิธีการทางศุลกากร ผ่านทางบริษัทขนส่งเอกชนรายหนึ่งที่กำลังเจ้าหน้าที่กำลังเข้าสอบสวน ในส่วนอุปกรณ์ส่วนควบและกระสุนปืน จะสั่งซื้อมาจากร้านค้าในเขตพื้นที่ กรุงเทพฯ โดยอาวุธปืนและอุปกรณ์ส่วนควบทั้งหมดจะถูกส่งมาที่โกดังทั้ง 3 แห่งในเขต จ.ขอนแก่น เพื่อทำการประกอบตามออเดอร์การสั่งซื้อ และสร้างเว็บไซต์เป็นช่องทางจำหน่าย คือ http://xn--l3c0al.com/ เพื่อโพสต์แสดงสินค้าเมื่อมีลูกค้าสนใจจะทำการ ติดต่อผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ และให้ลูกค้าทำการชำระเงินผ่านวิธีการทางธนาคาร ก่อนที่จะจัดส่งสินค้าให้ทาง บริษัทขนส่งเอกชน โดยมีลูกค้าอยู่ทั่วประเทศไทย”
ผบช.สอท. กล่าวว่า ขณะที่แนวทางการสอบสวนยังคงพบอีกว่านายดนุนัยนั้นใช้ขอนแก่นเป็นฐานการผลิต และใช้พื้นที่เชียงราย เป็นจุดจำหน่ายสินค้าเพื่อเลี่ยงการตรวจสอบ โดยกลุ่มขบวนการดังกล่าวได้ทำการค้าขายมาแล้วประมาณ 5 ปี มีลูกค้ามากกว่า 50,000 ราย มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 300,000 บาทต่อเดือน โดยมียอดของการสั่งซื้อทุกวันๆละหลายร้อยกระบอก ทั้งยังคงมีการเปิดช่องยูทูป ชื่อ “AirgunRifle” สำหรับการใช้รีวิว สินค้า โดยมีบริษัทเอกชนขนส่งที่กลุ่มขบวนการดังกล่าวนี้เลือกใช้โดยเฉพาะ ซึ่งทั้งหมดเจ้าหน้าที่มีข้อมูลที่จะทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลจับกุมต่อไป
อย่างไรก็ตามภายหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จจึงตั้งข้อกล่าวหาว่า มีและจำหน่าย ซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน,จำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนแก่ผู้ไม่ได้รับใบอนุญาตให้ซื้อหรือมีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนฯพ.ศ.2490 , ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซึ่งรับจำนำหรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันพึงรู้ว่านำเข้ามา โดยไม่ถูกต้องตามพิธีการทางศุลกากรตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 ก่อนควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่นและ สภ.เมืองเชียงราย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข้อมูล+ภาพ เพจเฟซบุ๊ก โปลิศไทยแลนด์ – Police Thailand News