ช่วงนี้มีข่าวโด่งดังเรื่องขนมเปี๊ยะ ประกอบทั้งเดือนสิงหาคมนี้มีวันสำคัญของชาวไทยเชื้อสายจีน คือ วันสารทจีน ผมจึงขอแนะนำร้านขายขนมเปี๊ยะที่สะอาด รสชาติอร่อย ราคาไม่แพง ที่ครองใจนักชิมมานานกว่า 40 ปี คือร้านมณฑลเบเกอรี่
ผมรู้จักร้านมณฑลเบเกอรี่มานานมากจนจำไม่ได้ว่ากี่ปีแล้ว เคยซื้อไปฝากพรรคพวกที่เป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย เพื่อไว้กินกับน้ำชาตอนเช้าๆ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อร่อย
ก็จะไม่ให้อร่อยได้อย่างไร ไส้แต่ละอย่างของขนมเปี๊ยะของที่นี่เลือกใช้แต่วัตถุดิบอย่างดีที่สุด ไม่ใช้สารกันบูด หรือสารกันเชื้อรา แต่มีวิธีการทำด้วยประสบการณ์อย่างยาวนาน ทำให้เก็บไว้ได้นาน ที่สำคัญมากที่สุด ไส้แต่ละอย่างของขนมเปี๊ยะที่นี่จะใส่ไส้มากเป็นพิเศษอย่างชนิดที่ไม่กลัวขาดทุน
วิธีการทำนั้น คุณสิริกร ศรีเกตุนิ่ม หรือชื่อเล่นๆ ว่า เพ็ญ เจ้าของร้านที่คลุกคลีกับขนมเปี๊ยะมาตั้งแต่เด็กจนปัจจุบันมีบุตรสาวเรียนจบการศึกษาทางด้านอาหารจากวิทยาลัยดุสิตธานีมาช่วยอีกแรง
ได้เล่าให้ฟังว่าวิธีการทำนั้นยุ่งยากไม่น้อย เริ่มตั้งแต่ เปลือกนอก ก็ต้องเอาแป้งหมี่มาผสมกับน้ำมันพืช น้ำตาล ไข่ นวดให้เข้ากันจนแป้งเนียนพักเอาไว้ ส่วน เปลือกใน ก็เอาแป้งหมี่กับน้ำมันนวดให้เข้ากัน พอเนียนลื่นมือแล้วจึงเอาเปลือกนอกที่ทำไว้แล้วเอามาห่อเปลือกในทำให้เป็นชิ้นๆ อีกที แล้วจึงเอามาห่อไส้ต่างๆ
ส่วนไส้นั้น ถ้าเป็น ไส้ถั่วกวน ก็จะเอาถั่วเหลืองแช่น้ำแล้วนำไปนึ่ง นึ่งเสร็จแล้วก็เอาไปโม่ให้ละเอียด นำไปผัดให้แห้งแล้วจึงกวนใส่น้ำมัน น้ำตาล กวนนานจนแห้งเงาๆ เป็นใช้ได้
ส่วนไส้ฟัก นั้น ต้องนำฟักไปปอกเปลือกเอาไส้ออกแล้วสับเป็นชิ้นเล็กๆ เอาไปแช่ในน้ำปูนใสประมาณ 4 ชั่วโมง เสร็จแล้วตักออกมาล้างน้ำปูนให้สะอาด นำไปต้มกับน้ำเปล่าแล้วเทน้ำทิ้ง ตักขึ้นมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ นำไปเชื่อมน้ำตาลให้น้ำตาลเข้าไปในเนื้อฟัก จนฟักฉ่ำไปด้วยน้ำตาลก็จะกลายเป็นไส้ฟัก เสร็จแล้วนำต้นหอมสด หอมแดงเจียวมาใส่เครื่องโม่จนเป็นเม็ดเล็กๆ เอาไปผสมกับฟัก ใส่แป้งข้าวเหนียว งาคั่ว ไข่แดงเค็ม ที่อบพอสุกเอาไปใส่ในไส้ฟัก แล้วนำเปลือกนอกห่อไส้ นำไปอบไฟร้อนจัดขนาด 200 องศา นาน 15 นาที ขนมเปี๊ยะก็จะสุก ดึงถาดออกมาพลิกขนมเปี๊ยะอีกด้าน แล้วอบต่ออีก 15 นาที เมื่ออบเสร็จแล้วก็เอาออกมาทาด้วยไข่แดงผสมไข่ขาว เพื่อให้หน้าขนมสวย เพียงแค่นี้ก็จะได้ขนมเปี๊ยะที่แสนอร่อยหอมน่ากินมาก
สำหรับขนมเปี๊ยะไส้ถั่วกับฟักนั้นจะอยู่ในก้อนเดียวกัน โดยถั่วจะอยู่ด้านบนฟักจะอยู่ด้านล่าง และยังมีไส้อื่นๆ อีกเช่น ถั่วล้วน ฟัก ถั่วเค็ม ถั่วดำ โดยขนมเปี๊ยะมีราคาตั้งแต่ 10 บาท จนถึงราคา 2,000 บาท แล้วแต่จะชอบใจราคาใดครับ
ขนมเปี๊ยะที่มณฑลเบเกอรี่นี้ ทำออกมาเท่าไรก็ทำไม่ทันขาย เพราะเมื่อทำเสร็จแล้วก็ต้องทิ้งเอาไว้ให้เย็นก่อน ทำวันนี้พรุ่งนี้จึงห่อกระดาษแก้วได้ ทางที่ดีโทรศัพท์จองล่วงหน้าก็จะเป็นการดีที่สุดครับ เพราะจะได้ของ อร่อยๆ สดๆ ใหม่ๆ ที่น่ากินมาก
นอกจากขนมเปี๊ยะแล้ว คุณเพ็ญเธอยังมีขนมอร่อยๆ ที่ลูกค้าติดอกติดใจ บางคนมาซื้อไปขายต่อทำกำไรอีกมากมาย เช่น ขนมเปี๊ยะนมสด มีไส้ คือ ไข่เค็มเต็มใบ ไส้เผือก ไส้สังขยา ไส้ชาเขียว ไส้เค็ม ไส้หวาน รสชาติหอมหวานอร่อยมาก ใส่กล่องเรียบร้อย มี 6 ชิ้น ราคากล่องละ 150 บาท
ขนมโก๋อ่อน ใส่กล่องอย่างดีมี 5 ชิ้น ราคา 40 บาท อร่อยขนาดได้รับเชิญไปออกรายการโทรทัศน์ ครัวคุณต๋อยมาแล้ว
มี ขนมคอเป็ด เปี๊ยะลูกเต๋า ขนมโก๋ ฯลฯ และขนมสำหรับใช้ในงานมงคลต่างๆ สามารถสั่งทำสั่งซื้อได้ที่นี่ เพราะโรงงานที่ทำก็อยู่ด้านหลังของร้านนั่นเอง
หรือถ้าจะให้ผู้รับตกใจแกมประหลาดใจ ผมขอแนะนำให้สั่ง ขนมเปี๊ยะขนาดน้ำหนัก 10 กิโลกรัมใส่ถาดให้เป็นของขวัญ ราคา 2,000 บาท ต้องตัดแจกกันกินหลายบ้านกว่าจะหมด ดีกว่าซื้อช่อดอกไม้ให้มากกว่ากันครับ
วันสารทจีนถ้าจะซื้อเป็ด ไก่ หมู ที่เรียกว่า ซาแซ ผมขอแนะนำให้ขับรถต่อไปอีกนิด จะพบทางเลี้ยวไปถนนพุทธมณฑล สาย 5 เลี้ยวเข้าไปเพียง 300 เมตร จะพบ ร้านร่มไม้ริมนา ที่ช่วงนี้ทุ่งนาสวยมาก ร้านนี้ขี้นชื่อในเรื่องเป็ดพะโล้ ที่ต้มกับเครื่องปรุงสูตรพิเศษได้รสชาติอร่อยมาก จะมีขายในราคาไม่แพง โทรศัพท์สั่งจองล่วงหน้าได้ที่ 08-1700-9960 ครับ
ชื่อร้าน มณฑลเบเกอรี่
เจ้าของ คุณสิริกร (เพ็ญ) ศรีเกตุนิ่ม
สถานที่ ถนนบรมราชชนนี จากปิ่นเกล้าไปตามถนนบรมราชชนนี เลยแยกพุทธมณฑล สาย 4 ลอดใต้สะพาน แล้วชิดซ้ายเข้าเลนซ้ายสุดทันที ตรงไปอีกประมาณ 1 ก.ม.จะพบร้านอยู่ริมถนนบรมราชชนนีด้านซ้ายมือ เปิดบริการตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. โทรศัพท์ 08-7409-7543, 02-482-1638
