พระราชปณิธาน​ ร.๙ สู่​ ร.๑๐ สู่การผลิตวัคซีนสู้โควิด-๑๙ “ถ้าคนเรามีสุขภาพเสื่อมโทรม ก็จะไม่สามารถพัฒนาชาติได้ เพราะทรัพยากรที่ สำคัญของประเทศชาติ ก็คือ พลเมืองนั่นเอง”

พระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ว่า “ถ้าคนเรามีสุขภาพเสื่อมโทรม ก็จะไม่สามารถพัฒนาชาติได้ เพราะทรัพยากรที่ สำคัญของประเทศชาติ ก็คือ พลเมืองนั่นเอง

ในปี ๒๕๕๒ น้อยคน ที่จะทราบอย่างลึกซึ้งว่าพระมหากษัตริย์ของเราทรงจัดตั้งโรงงานผลิตยาและเวชภัณฑ์ในพื้นที่ ๓๗ ไร่ ที่บางใหญ่ นนทบุรี หลายๆ คนอาจไม่เคยรู้ เป้าประสงค์ของพระราชปณิธานของพระองค์คือ การผลิตยา ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูง ในราคาที่ถูกลง ลดการพึ่งพาการนำเข้ายาจากต่างประเทศ สร้างความมั่นคงทางยาแก่สาธารณสุขของไทย
พระองค์ไม่ใช่เป็นแต่เพียงนักปกครองเท่านั้น แต่ยังทรงดำเนินตามรอยพระบาทของสมเด็จพระราชบิดาอีกด้วย พระองค์รัชกาลที่ ๙ ทรงมองการณ์ไกลเพื่อให้การแพทย์ เภสัช และสาธารณสุข พึ่งตนเองได้ แม้ขณะนั้นภาพเหล่านี้ยังเห็นไม่ชัดเจน
ด้วยพระราชดำริที่ลึกซึ้งทรงจัดตั้งบริษัทผลิตยา และบริษัทจำหน่ายยาอย่างครบวงจร ในนามว่า “บริษัท สยามไบโอโซ เอนซ์ จํากัด (Siam Bioscience) ดำเนินการวิจัย พัฒนา และผลิตยา เครื่องมือแพทย์ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต่างๆ โดยภารกิจสำคัญ คือการผลิตตั้งแต่ตัวยาสำคัญและสารออกฤทธิ์ จนถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป และ บริษัท เอเพ็กซ์เซลา จำกัด” (Apexcela)
ตั้งขึ้นในปี ๒๕๕๓ เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการตลาด และการขายทั้งในประเทศและส่งออก รวมทั้งการ พัฒนาธุรกิจสร้างเครือข่ายพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ความนี้แม้รัชกาลที่ ๑๐ ก็ทรงรับพระบรมราโชบายต่อจากรัชกาลที่ ๙ ด้วยเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ แม้พระองค์จะปิดทองหลังพระ แต่ก็เป็นผู้ผลักดันอย่างเงียบ ๆ ที่ทรงเป็นพันธมิตรกับนานาชาติ แอสตร้าเซนเนก้า (Astra Zeneca) อธิบายว่าบริษัทยินดีร่วมกับพันธมิตรในหลายประเทศก่อตั้งเครือข่ายความร่วมมือระดับโลกขึ้นเพื่อให้สามารถผลิตวัคซีนให้มีความปลอดภัยได้สำเร็จภายในระยะเวลาอันรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
นี่เป็นเหตุให้ราชอาณาจักรไทยได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีและกระบวนการผลิตวัคซีนโควิด-๑๙ และโรงงานสยามไบโอไซเอนซ์ ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้เป็นสถานที่ผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-๑๙ ของ แอสตร้าเซนเนก้า และขณะนี้วัคซีนป้องกันโควิด-๑๙ ที่ผลิตในประเทศ โดยสยามไบโอโซ เอนซ์ ได้ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพตามเกณฑ์ข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และได้ผ่านเกณฑ์การตรวจสอบคุณภาพจากห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ของแอสตร้าเซนเนก้าทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้ว
วัคซีนชุดแรกที่ผลิตโดยบริษัทของไทยจะเริ่มส่งมอบได้ในเดือนพฤษภาคมนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ และจะทยอยส่งมอบจนครบ ๖๑ ล้านโดส ซึ่งสอดคล้องกับแผนการฉีดวัคซีนของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกลกับแพทย์ที่เข้าร่วมโครงการจึงทำให้ไทยสามารถผลิตทั้งวัคซีนและตัวยาดังกล่าว เพราะพระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ ๙ และรัชกาลที่ ๑๐ สร้างขึ้นมาก็เพื่อความมั่นคงของชาติและประชาชนมีความสุข
ขอบคุณข้อมูล ศ.ดร.สุรพงษ์ โสธนะเสถียร
ติดตามข่าวสารและกิจกรรมเทิดทูนสถาบันได้ที่ : พระลาน
Written By
More from pp
จุฬาฯ เปิดมิติใหม่ปลุกไทยต้านคอร์รัปชัน ประยุกต์กลยุทธ์ตลาดสู่โมเดลสร้างพลเมืองตื่นรู้สู้โกง
คณะวิจัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำเสนอผลงานวิจัย “กลยุทธ์ในการสื่อสารด้านการต่อต้านคอร์รัปชันที่เหมาะสำหรับคนไทย 4.0” ชูแนวคิดใหม่ในการกำหนดรูปแบบและวิธีการกระตุ้นประชาชนต้านโกงอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งริเริ่มเครื่องมือชี้วัดการต่อต้านคอร์รัปชันแต่ละบุคคลอีกด้วย
Read More
0 replies on “พระราชปณิธาน​ ร.๙ สู่​ ร.๑๐ สู่การผลิตวัคซีนสู้โควิด-๑๙ “ถ้าคนเรามีสุขภาพเสื่อมโทรม ก็จะไม่สามารถพัฒนาชาติได้ เพราะทรัพยากรที่ สำคัญของประเทศชาติ ก็คือ พลเมืองนั่นเอง””