เปลว สีเงิน
“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เอ้ย….!
จบฮาร์วาร์ดเหรอ?
มานี่….คนจบ “ศาลาวัด” จะสอนให้ จะได้ไม่เป็นกระบือผูกโบในสนามการเมืองอย่างเมื่อวานนี้อีก(๒๘ เมย.๖๔)
ที่ทำเท่ ไปแถลงว่า….
“พวกผมหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านทั้ง ๖ พรรค ไม่อาจฝืนทนมองเห็นความสูญเสียที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยตอนนี้ได้อีกต่อไป
จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลยุติบทบาทในการบริหารประเทศทันทีด้วยการลาออก
เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความสูญเสียต่างๆ ที่ไม่อาจประเมินค่าได้ที่พวกท่านได้ทำต่อประเทศไทยตลอด ๗ ปีที่ผ่านมา
และ ๑ ปีที่มีเเต่ความล้มเหลว ผมขอเสนอให้ พลเอกประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่ง ยุติบทบาทโดยทันที
และเปิดโอกาสให้รัฐบาลมืออาชีพ เข้ามาบริหารประเทศแทน นั่นน่ะ
มัน “บ้องตื้น-บ้องตัน” แท้ๆ!
นายกฯแบหน้าไพ่ให้เห็นขนาดนี้แล้ว ทั้งในมือพวกคุณมีแค่ไพ่คิงโทนี่กับควีนดอกท้อร่องแร่ง ยังสะเออะไปเกไล่เขาอีก
ถ้าคิดจะจับไก่….
ก็ดู “กองกลาง” ซะก่อน เห็นมั้ย?
นายกฯ “เทหมดหน้าตัก” อำนาจทางกฎหมายตั้ง ๓๐ กว่าฉบับ ที่อยู่ในมือรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง
รวบมา “ทุ่มเดิมพัน” ตานี้-ตาเดียว ทั้งหมด!
พิธาหน้าอ่อนแล้ว ยังเดือยอ่อนอีก
แค่นี้ ก็ยังอ่านเกมไม่ออก แล้วยังจะทะลึ่งไปไล่เขา ซึ่งมันประจานความซื่อบื้อตัวเองแท้ๆ
ในเมื่อนายกฯ เอาทั้งตำแหน่งและสถานะรัฐบาล “วางเป็นเดิมพัน” ไม่ต้องบอก ใครๆก็เห็น
การรวบอำนาจตามกฎหมาย ๓๑ ฉบับมาอยู่ในมือตน บรรดารัฐมนตรีนั่งเฉยๆ นายกฯ เล่นเอง “รัฐผนึกราษฎร์” CEO ภาคเอกชน ๔๐ บริษัท จัดทัพทำศึกพิชิตโควิดขั้นแตกหัก
ในรูปแบบ “ข้าพเจ้ารับผิดชอบแต่ผู้เดียว”
แบบนี้………..
มันมีคำตอบเป็นทางเดินสำหรับนายกฯ ๒ ทางเท่านั้น
๑.สำเร็จ อยู่ต่อ
๒.ล้มเหลว ลาออก!
แต้มจะจะอย่างนี้ ฝ่ายค้านยังจะเหี้ยนกระหือรือให้น.หนูหาย ด้วยการแถลงการณ์ไล่นายกฯ ไปหาสวรรค์วิมานอะไร?
โน่น….
ไปต่อสายประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทยเตรียมไว้ ไปตกลงกันให้สะเด็ดน้ำ ว่าถ้าประยุทธ์พ่ายศึกโควิด
ตกลง “มืออาชีพ” อย่างที่ยกหางในแถลงการณ์นั่น จะเอาใคร-พรรคไหน ถ้าประชาธิปัตย์ ก็อดีตนายกฯ อภิสิทธ์
ถ้าภูมิใจไทย ก็ต้องอนุทิน “คุณหนู” ของผมแห่งภูมิใจไทย
อย่าลืมตั้ง “หมอสุภัทร ฮา” แก๊งหมอชนบทเอ็นจีโอสามนิ้ว ขึ้นเป็นปลัดกระทรวงฯ ด้วยละกัน
เพื่อไทย นั้น เสียดาย “คุณหญิงสุดารัตน์” ออกไปตั้งพรรคซะก่อน เลยถึงคิว “นายชัยเกษม นิติศิริ” อดีตอัยการใหญ่ใจเสื้อแดง
แต่ “ธนาธร” ลูกแม่สมพร น่าเสียดายกว่า….
เคยชิงตำแหน่งนายกฯ แต่แพ้พลเอกประยุทธ์ไปรอบนั้น นี่ถ้ายังอยู่ละก็
ถ้าพลเอกประยุทธ์แพ้ศึกโควิด ได้เป็นนายกฯ “รัฐบาลมืออาชีพ” แทน สานต่อประชาธิปไตยคณะราษฎร ๒๔๗๕ ณ ๓ นิ้วแน่
แต่กรรมมันบัง…เนอะ จากลุ้นเก้าอี้นายกฯ ก็ต้องไปลุ้นคดี-ลุ้นคุกแทน!
เอาหละ มาดูเกม “ล้มเดิมพัน” ในศึกโควิดของนายกฯ กันบ้าง เมื่อวาน “รัฐ-เอกชน” ประชุมกระชับแผนขั้นสุดท้าย
พรุ่งนี้ ๒๙ เมษา.ดีเดย์ทันที
นายกฯ นำทีมฝ่ายรัฐนั่งหัวโต๊ะ ขนาบด้วยนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและรมว.พลังงาน นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาฯ สภาพัฒนาฯ คุณหมอปิยสกล สกลสัตยาทร และฯลฯ
พรั่งพร้อมด้วยเอกชน นำโดยนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้า นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรม และฯลฯ
ตกลงแบ่งการทำงานเป็น ๔ ทีม อย่างที่คุยกันไปวันก่อน ซึ่งนายกฯ โอเค.ตามนั้น
ผมอยากเน้นด้านต่างจังหวัด นายกฯ สั่งการ ดังนี้
ในจังหวัดต่างๆ การเร่งจัดทำสถานที่ฉีดวัคซีน และการจัดบุคลากรมาเสริม
จะทำงานผ่าน กรอ.ระดับจังหวัด และสาธารณสุข
นายกฯ มอบให้รองนายกฯ สุพัฒนพงษ์ เป็นแม่งานประสานภาคเอกชน
มีนายดนุชา เลขาฯ สภาพัฒนาฯ กับเลขาฯสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นทีมปฏิบัติงาน ประสานงานกันในรายละเอียดต่างๆ
ด้านกระจายวัคซีน คุณสุพันธุ์ ประธานสภาอุตฯ บอกไม่ต้องห่วง เรื่องสถานที่สำหรับฉีดวัคซีน จัดเตรียมไว้แล้ว ทั้งในกทม. และต่างจังหวัด
ต่างจังหวัดนั้น “กรอ.จังหวัด” เจ้าภาพ, ภาคอุตสาหกรรมก็เตรียมสถานที่นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ไว้รองรับเช่นกัน
ย้ำอีกที ๑๐๐ ล้านโดส
จากมิถุนา-ธันวา. “ระดมปูพรม” ฉีดให้ได้ วันละ ๓ แสนคน ภายในสิ้นปีนี้ คนกว่า ๗๐% ของประเทศ ได้ฉีดคนละ ๒ เข็มแน่นอน
คือคนไทย ทั้งหมดตีซะว่า ๗๐ ล้านคน ๕๐ ล้านคนได้ฉีดแน่ เมื่อฉีดครบ ๕๐ ล้านคน ที่ยังไม่ได้ฉีด จะเกิดภูมิต้านทานหมู่ขึ้นเอง
แต่ไม่ต้องกลัวอดฉีด เลยกรกฏา.ไป วัคซีน “ทุกยี่ห้อ” จะไหลมา-เทมา ฉีดกันไม่หวัด-ไม่ไหว
“รัฐ-เอกชน” มีพิมพ์เขียวจัดหาวัคซีนไว้ลงตัวแล้ว!
ที่ผมเคยเน้น “ต่างจังหวัด” กลัวจะเป็นลูกเมียน้อยในการฉีดวัคซีน อยากให้นายกฯกระชับมหาดไทยจัดหาสถานที่นั้น
แฟนคลับผม อ่านจากวันก่อน ส่งข้อความมาว่า
pinjuta 886
หอการค้าจังหวัด และสภาอุตสาหกรรมจังหวัด มีทุกจังหวัดครับ บริหาร/บริการสอดคล้องกับส่วนกลางได้ทันที
และองค์กรนี้ในแต่ละจังหวัด ส่วนใหญ่ผู้บริหาร/คณะกรรมการ ก็เป็นคณะบริหารในมูลนิธิสาธารณะกุศล
มีอาสาสมัครฯ ที่ผ่านการอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้น+รถพยาบาล
จนท.เหล่านี้ มีจำนวนมากพอ ให้เตรียมฝึกฉีดวัคซีน+มีพยาบาลวิชาชีพ ควบคุมงานหน่วยละ 1-2 คน สามารถกำหนดแผนไว้ก่อนได้เลย จังหวัด/อำเภอละกี่หน่วยพยาบาล จะเอาสถานที่ใด?
ที่ใกล้ชุมชน โล่งกว้าง อากาศถ่ายเทเหมาะสมฯลฯ แล้วจัดทำทะเบียนผู้รับฉีด ของหน่วยนั้นๆ ไว้ให้พร้อม ประกาศ/ปชส.ให้ชัดเจนทั่วถึงซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง ครั้นถึงวันกระจายวัคซีนตามแผน..พรึ่บ ทั่วถึงตามขั้นตอน พร้อมกันทั่วประเทศ
วัคซีนพร้อม คนฉีดพร้อม คนรับพร้อม คนควบคุมบริหารจัดการพร้อม น่าจะทำง่ายกว่าการเก็บศพหรือผจญเพลิงนะครับผม
เห็นมั้ย แต่ละจังหวัดเขาพร้อม ขอเพียงประสานไป ดูตามแผนงานหอการค้าและสภาอุตฯ แล้ว ทำให้อุ่นใจ-มั่นใจ
อาจไม่ต้องใช้เวลาถึง ๖ เดือน ก็ปูพรมฉีดได้ทั่ว เพราะทุกภาคส่วนตื่นตัว พรึ่บพรั่บดีเหลือเกิน
ฉีดวันละ ๓ แสนคน เท่ากับเดือนละ ๙ ล้านคน ๕ เดือน เอาซัก ๕๐ ล้าน ถ้าทุกอย่างพร้อมตามแผน สบายมาก
เผลอๆ ตั้งธงซะว่า ๑๙ พฤศจิกา……..
ประเทศไทย “ถอดหน้ากาก” เฉลิมฉลอง เอาโควิด “ลอยกระทง” พ้นเมืองไทยฝากไปกับพระแม่คงคา ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้!
เรื่องวัคซีน “ไม่มี-ไม่พอ” ผมไม่ห่วงนะ สำหรับเมืองเรา
เพียงตอนนี้โควิดมันแรง คนกลัว เลยตกตื่น อยากฉีดกันไวๆ ก็เกิดภาวะ “ไม่ทันใจ” ขึ้นเท่านั้น
มิถุนา.ไปแล้วเยอะแยะ!
อย่ามองข้ามความสามารถของคนไทยด้วยกันไปนะ นอกจากแอสตร้าเซนเนก้า ที่สยามไบโอฯจะพรึ่บในเดือนมิย.แล้ว
เรายังมี วัคซีน mRNA “เชื้อเป็น” เหมือนไฟเซอร์ ที่ทีมคณะแพทย์จุฬาฯ วิจัย พัฒนาสำเร็จแล้ว สู่ขั้นตอนทดลองในคนระยะที่ ๒ ครึ่ง ขณะนี้
คือทดลองในคนระดับ ๕,๐๐๐ คน ถ้าผ่านขั้นตอนนี้ได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ขั้นตอนระยะที่ ๓ ก็ได้ ซักกรกฎา.ไปแล้ว เราอาจมีวัคซีนของไทยเราเองใช้ ก็เป็นไปได้
โรงงาน “บริษัท ไบโอเน็ท-เอเชีย จำกัด” ที่อยุธยา ผลิตวัคซีน mRNA ได้ทันที
แล้วยังมี วัคซีนจากใบพืชตระกูลยาสูบ ผลงานบริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด “สตาร์ทอัพ” สัญชาติไทยอีกตัว
ผมยังลงทุนไปกับเขาตั้ง ๕๐๐ บาท นี่ก็เข้าขั้นตอนทดลองระยะที่ ๒ เหมือนกัน
คงต้องคุยเรื่องวัคซีนผลงานไทยเราเองซักวัน ไทยเราเก่งทุกอย่าง เสียอย่างเดียว
“ไทยชอบดูถูกไทย” มากไปหน่อยเท่านั้น!
