ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
“ถ้าพูดกันตรงๆ ก็คือ..
มาตรา 112 ไปหนักส่วนไหนของใครของบิดา มารดาใครถึงได้พยายามแก้ไขมาตรา 112”
นี่..เห็นจะต้องมอบ 1 เสียงให้พรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งคราวหน้าแล้วล่ะ เพราะประโยคนี้ คุณราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคพูดได้โดนใจ และจะยิ่งชอบใจขึ้นไปอีก ถ้าหากจะใช้คำว่า..
หนักหัวพ่อ-หัวแม่มึงเหรอ?
ไม่..ไม่หยาบหรอก เพราะขนาด “รุ้ง-ปนัสยา” แจกของลับให้คุณชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ ยังบอกเลย..
“คำหยาบคือเครื่องมืออย่างดีในการทำลายช่วงชั้น…ความหมายใหม่ของคำหยาบคือความเสมอภาค”
เออ..เอากับแกสิ ใครจะเรียก “อาจารย์” ก็ตามสบายเถอะ ส่วนผมแค่เรียก “คุณ” นำหน้า ก็ดูจะให้เกียรติเกินไปแล้วมั๊ง?
อ้อ..แต่ท่านนี้ ผู้คนในวงการ ดูเหมือนจะเรียก “ครู” เรียก “อาจารย์” ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ ผมหมายถึงคุณนพพล โกมารชุน ผู้จัดฯ-ผู้กำกับละครฝีมือจัดจ้านของวงการบันเทิงไทย
วันวาน เห็นโพสต์ข้อความ..“อาหารแสลง เสาะท้อง และเป็นพิษ ไม่ควรบริโภค คือ มะตูม กับ กาละแม”
เล่นเอาชาวโซเชียลคึกคักกันใหญ่ และดูเหมือนจะเข้าใจตรงกัน ว่า “อาหารแสลง” 2 ชนิดที่ว่านี้ คุณนพพลน่าจะหมายถึง “มะตูม” ที่เป็น “ดีเจ” และก็เป็นผู้ที่จัดงานปาร์ตี้..
จนทำให้เกิด “ซูเปอร์สเปรดเดอร์โควิด-19” ให้เหล่าคนบันเทิงพลอยเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้!
ส่วน “กาละแมร์” น่าจะใช่ “คุณพัชรศรี เบญจมาศ” ดารา-พิธีกรดัง ที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงกับการ “รีวิว–โฆษณา” โอ้อวดสรรพคุณผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเกินความจริง
โดยองค์การอาหารและยา (อย.) นอกจากจะ “สั่งระงับโฆษณา” แล้ว ยังได้ส่งเรื่องให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. ดำเนินคดี..
โทษฐาน “หลอกลวง” อีกด้วย!
ซึ่งคุณนพพลก็คงจะรู้สึกไม่ต่างไปจากผู้คนในสังคม ที่มองว่าทั้ง 2 คน ขาดจิตสำนึกที่ดี.. เห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม..
เป็นบุคคลที่น่ารังเกียจ แทบจะไม่มีใครอยากคบค้าสมาคม จนนำมาเปรียบเปรย เป็น “อาหารแสลง” เสาะท้อง และเป็นพิษ!
ผมน่ะ..ยอมรับแรกปรากฏข่าว ได้มองด้วยความเห็นอก-เห็นใจทั้งต่อดีเจมะตูม ทั้งต่อคุณกาละแมร์ แต่ถึงตอนนี้ โดยเฉพาะรายหลัง ที่ยังจะแถ ปากดี-อวดเก่ง ท้าทาย ทำให้เกิดความรู้สึกร่วมไปกับสังคม
จนอยากถามคุณกาละแมร์ ตรงๆ..ไม่ละอายใจ เกรงกลัวบาปบ้างหรือ กับการ..
หลอกลวงคนน่ะ..หือ?