คกก.วัคซีนแห่งชาติ เห็นชอบลำดับกลุ่มเป้าหมายฉีดวัคซีนโควิด 19

คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ลำดับกลุ่มเป้าหมายการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แบ่งเป็น 3 ระยะ ระยะที่ 1 เน้นในพื้นที่เสี่ยง กลุ่มเสี่ยง และกิจกรรมเสี่ยง และจะฉีดให้ครอบคลุมทุกคนที่อยู่บนแผ่นดินไทย ตามความสมัครใจ

เมื่อบ่ายวันที่ 28 มกราคม 2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานเกี่ยวกับการจัดหาและการวิจัยพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ของประเทศ โดยมี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมประชุม และนพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เป็นเลขาคณะกรรมการฯ

นายอนุทินกล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายที่จะให้ทุกคนบนแผ่นดินไทยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ตามความสมัครใจ เพื่อให้เศรษฐกิจเดินต่อได้ นักลงทุน นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจ ในวันนี้ คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ได้มีมติเห็นชอบลำดับกลุ่มเป้าหมายตามที่คณะทำงานผู้เชี่ยวชาญกำหนดแผนการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายใต้คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ได้กำหนดไว้ 3 ระยะ คือ

ระยะที่ 1 ช่วงที่วัคซีนมีปริมาณจำกัด เพื่อลดการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต รักษาระบบสาธารณสุขของประเทศฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ทั้งภาครัฐและเอกชน, ผู้มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็ง เบาหวาน และโรคอ้วน, ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคโควิด 19 ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย

ระยะที่ 2 ช่วงที่มีวัคซีนเพิ่มขึ้น เพื่อรักษาเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ ฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่นอกเหนือจากด่านหน้าเจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสซื้อโควิด 19 ผู้ประกอบอาชีพที่มีโอกาสสัมผัสกับคนจำนวนมาก และผู้ที่มีโอกาสสัมผัสผู้เดินทางระหว่างประเทศ

และระยะที่ 3 ช่วงที่วัคซีนมีปริมาณเพียงพอ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในระดับประชากร และฟื้นฟูให้ประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ฉีดให้กับประชาชนทั่วไป

สำหรับวัคซีนลอตแรกที่คาดว่าจะได้รับจากบริษัทแอสตร้าเซนเนกาในเดือนกุมภาพันธ์ จะเน้นในพื้นที่เสี่ยง กลุ่มเสี่ยง และกิจกรรมเสี่ยง ซึ่งจำนวนและรายชื่อเป้าหมายอยู่ระหว่างการสำรวจ โดยสำนักงานสาธารณสุขในขณะเดียวกันหน่วยงานต่างๆ เร่งประชาสัมพันธ์ สื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องให้กับประชาชนในพื้นที่ และเตรียมการจัดส่งวัคซีนไปให้โรงพยาบาลต่าง ๆ ส่วนวัคซีนของบริษัทซิโนแวค อยู่ระหว่างรอเอกสารข้อมูลให้ครบถ้วน เพื่อขึ้นทะเบียน อย.

“วัคซีนที่ดีที่สุดคือ การสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ไม่เข้าไปในสถานที่เสี่ยงและสถานที่แออัดแม้จะมีวัคซีนแล้ว เราก็ยังคงต้องใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง โอกาสติดเชื้อจะลดลงได้มาก” นายอนุทินกล่าว

สำหรับประเทศไทย รัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณการวิจัยพัฒนาวัคซีนโควิด 19 ภายในประเทศ โดยกลุ่มที่ก้าวหน้ามากที่สุดมี 3 ชนิด คือ ชนิด mRNA โดยศูนย์วิจัยวัคซีนแห่งจุฬาลงกรณ์, ชนิด Protein subunit (Plant-based) ของบริษัทใบยา ไฟโตฟาร์ม ร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และชนิด DNA โดยบริษัทไบโอเนท เอเชีย อยู่ระหว่างการแสวงหาความร่วมมือ หรือพัฒนาศักยภาพการขยายขนาดการผลิตเพื่อผลิตวัคซีนต้นแบบสำหรับทดสอบในอาสาสมัคร

ส่วนการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ผ่านโครงการ COVAX Facility อยู่ระหว่างการพิจารณาเงื่อนไขและเจรจาต่อรอง และความร่วมมือแบบทวิภาคี ปัจจุบันได้จัดหาวัคซีนจากการตกลงแบบทวิภาคีกับบริษัทแอสตร้าเซนเนกา ที่ได้สั่งจองไว้ 26 ล้านโดส รัฐบาลมีมติสั่งซื้อเพิ่มอีก 35 ล้านโดส รวมเป็น 61 ล้านโดส และยังมีการดำเนินการจัดหาวัคซีนจากประเทศจีนเพิ่มเติม 2 ล้านโดส

Written By
More from pp
จัดใหญ่! 29 มีนาฯ “อนุทิน” นำ สธ.โชว์ศักยภาพการรักษาผู้ป่วยโควิดฯ เผย เบื้องหลังภารกิจฟื้นชีวิต คุยกับ ผู้ว่าฯ ปู และทีมแพทย์
26 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากระทรวงสาธารณสุข โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ จะนำคณะผู้บริหารฯ เข้าร่วมอีเว้นท์ Smart Living...
Read More
0 replies on “คกก.วัคซีนแห่งชาติ เห็นชอบลำดับกลุ่มเป้าหมายฉีดวัคซีนโควิด 19”