ผักกาดหอม
น่ากลัว
เห็นภาพพลเรือนอเมริกันติดอาวุธสงครามแล้วบอกได้คำเดียว…เสียว
สื่ออเมริกาพาตีข่าวกันว่า….
กลุ่มผู้สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ มาตามนัด เริ่มรวบรวมไพร่พลตามรัฐต่างๆ แล้ว
พร้อมอาวุธสงครามแบบจัดเต็ม
เป้าหมายอยู่ที่พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของ โจ ไบเดน ในวันที่ ๒๐ มกราคมที่จะถึงนี้
ก่อนนี้ FBI เตือนว่าอาจเกิดเหตุจลาจล หรือจู่โจมอาคารรัฐสภาประจำรัฐต่างๆ ทั้ง ๕๐ รัฐ
๒๐ มกราคมนี้จะเกิดอะไรขึ้นตอบยากจริงๆ
ถ้ายังจำกันได้เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ในการชุมนุมประท้วงต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ที่รัฐมิชิแกน มีกลุ่มติดอาวุธที่พกพาปืนมาร่วมชุมนุมด้วย
และติดสัญลักษณ์สนับสนุนทรัมป์
ย้อนไปวันที่ ๑๕ เมษายน ปีเดียวกัน ผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มากกว่า ๓,๕๐๐ คน ขับรถมารวมตัวกันที่เมืองแลนซิง เมืองเอกของรัฐมิชิแกน ร่วมใน “ปฏิบัติการรถติด”
ส่วนหนึ่งลงมาชุมนุมกันด้านนอกที่ว่าการรัฐและหลายคนพกพาอาวุธปืนสั้นและปืนยาวมาด้วย
ถัดมาประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตให้ท้ายว่า “ปลดปล่อยมิชิแกน” และกระตุ้นให้คนอเมริกันอีกหลายรัฐออกมาชุมนุมประท้วงมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐต่างๆ
จะเห็นว่าทรัมป์ และมวลชนติดอาวุธ เคลื่อนไหวด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้ว หากวันที่ ๒๐ มกราคม เกิดเหตุจลาจล และจู่โจมอาคารรัฐสภาประจำรัฐต่างๆ อเมริกาก็จะเป็นประเทศประชาธิปไตยที่ล้มเหลวแทบจะทันที
และจะเป็นโมเดลไปยังประเทศประชาธิปไตยอื่นๆ ทั่วโลกในการแย่งชิงอำนาจกัน
อาจรวมถึงไทย
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมอเมริกาถึงต้องเกณฑ์ ทหารกองกำลังเนชันแนลการ์ดนับหมื่นนาย เข้ารักษาความปลอดภัยที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
บางส่วนเข้าไปตรึงพื้นที่ในอาคารรัฐสภา
บรรยากาศตึงเครียดคล้ายกับแดนสงคราม
นโยบายอาวุธและความคิดแบบคาวบอย ทำให้ปัจจุบันมีอาวุธปืนสะพัดอยู่ในมืออเมริกันประมาณ ๓๐๐ ล้านกระบอก
National Rifle Association of America (NRA) บริจาคเงินนับล้านให้นักการเมืองในพรรครีพับลิกัน เพื่อตอบสนองความบ้าคลั่งในอาวุธของชาวอเมริกัน
โดนัลด์ ทรัมป์ เองก็ได้รับเงินมากกว่า ๓๐ ล้านดอลลาร์จากสมาคม ใช้เป็นเงินสนับสนุนการหาเสียงเลือกตั้ง
นั่นคือจุดเชื่อมโยงที่สร้างความกังวลใจว่า หลังวันที่ ๒๐ มกราคม อเมริกาจะไม่เหมือนเดิม
แต่ก็มีแนวโน้มว่าทั้งหมดนี้แค่ขู่ วัฒนธรรมอเมริกัน จบคือจบ
กลับมาที่ประเทศไทย
มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองในรูปแบบที่ต่างไปจากในอดีต
ชัดๆ ล่ะ “ล้มเจ้า”
ปีที่แล้วม็อบ ๓ นิ้วภายใต้การสนับสนุนของพรรคการเมือง ขึ้นถึงจุดพีกสุด ชุมนุมป่วนไปทั่วกรุง สุดท้าย ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ใช้รถใช้ถนน
เริ่มต้นปีวัว สภาพม็อบเหมือนมีสมองไว้คั่นเขา เห็นขี้มูกเป็นเต้าส่วน เคลื่อนไหวทำลายตัวเองเสียเป็นส่วนใหญ่
บวกกับสถานการณ์โควิด ม็อบ ๓ นิ้วจึงอยู่ในสภาพขาลง
ไม่ได้ลงธรรมดา
ลงแบบดิ่งพสุธา
มีหลักฐานม็อบ ๓ นิ้ว ขาลง จากปากของขบวนการ ๓ นิ้วเอง
เขาตอบโต้กันในโซเชียลมันหยดแค่ไหน ตามไปดู
เริ่มต้นที่ “สมบัติ ทองย้อย” หัวหน้าการ์ดเสื้อแดง ที่ชิ่งออกจากม็อบ ๓ นิ้ว เพราะเด็กมันปีนเกลียว
“….จะทำม็อบนอกจากจะต้องขอกับตำรวจแล้ว ต้องขอเจ้าของม็อบด้วยนะเฮ้ย ไอ้พวกม็อบเล็ก…”
มีคำตอบจาก “สราวุทธิ์ เซียนแว่น กุลมธุรพจน์” แกนนำ ๓ นิ้วทางภาคเหนือ
“….แจงให้พี่ สมบัติ ทองย้อย ทราบ
เราปรึกษาหารือกัน ว่าสื่อบอกว่าม็อบมาน้อยม็อบแผ่วเกิดจากอะไรบ้าง
หนึ่งในนั้นก็คือการที่พวกเรา ออกไปทำม็อบเล็กม็อบน้อย (คำว่าพวกเราคือคนที่มาปรึกษาหารือกันนั้นแหละ ไม่ได้เกี่ยวกับคนอื่นหรือกลุ่มอื่น) พอพวกเรา (ที่ประชุมกัน) ออกมาทำ ทำให้เกิดปัญหาขึ้นอีกหลายอย่าง ทั้งทีมงาน ประเด็นที่จะสื่อ อุปกรณ์การสนับสนุนต่างๆ ทุกอย่างมันติดขัดและมีปัญหา และที่สำคัญที่สุดคือ สื่อเอาไปเล่นว่าม็อบแผ่ว คนมาน้อย บลาๆๆๆๆ เราจึงพูดกันในทีมว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่จะไม่จัดม็อบเล็กม็อบน้อยแล้ว
หากใครจะจัดก็ให้มาแจ้งคณะกรรมการกลางก่อน
นั้นก็หมายถึง กลุ่มเราเอง ที่ต้องแจ้งกันก่อน เผื่อใครจะสนับสนุนใครได้ หรือจะได้ผ่านการคิดอีกชั้นนึง ว่าสมควรจัดหรือไม่ ไม่ได้เกี่ยวกับใครกลุ่มไหน ที่อยากจัดก็จัดไปเลย ที่เราแจ้งแบบนี้ก็ใช้เฉพาะกลุ่มนี้เอง ที่อยากให้ขบวนมันไปในทิศทางเดียวกัน
แกนนำม็อบหรือคนจะไปม็อบ มันไม่ต้องขออนุญาตใครหรอกพี่…. แต่หากแกนนำจะทำม็อบ (หมายถึงในกลุ่มนี้) ก็ช่วยบอกกล่าวกันหน่อย ทุกคนในทีมจะได้สนับสนุนถูก
คณะกรรมการกลางคือใคร….
คือแกนนำทุกสารทิศที่มารวมกลุ่มกัน ทุกกลุ่มมีสิทธิ์มีเสียงเท่ากัน ต่อให้ธรรมศาสตร์มีคนเป็นจำนวนมาก แต่กลุ่มอื่นมีน้อย คุณก็มี ๑ เสียงเท่ากัน เพราะเรายึดถือมติกลุ่ม เป็นการตรวจสอบกันเองและให้สิทธิ์ในการเห็นด้วยไม่เห็นด้วย
หากกลุ่มใหญ่ทำอะไรที่กลุ่มเล็กเห็นว่าไม่โอเคร กลุ่มเล็กก็โหวตได้ว่าไม่โอเคร
ย้ำอีกครั้งว่าไม่เกี่ยวกับผู้อื่น
แกนนำอิสระท่านใดอยากทำอะไร เชิญเลยทำได้เต็มที่
สุดท้ายหากพี่สมบัติอยากรู้ประเด็นไหนอีก เรามาปรับความเข้าใจกันได้พี่ ผมก็เห็นพี่มาเป็นสิบปีละ พี่ก็เป็นส่วนหนึ่งในความสำคัญของขบวนการฝ่ายประชาธิปไตย
เดี๋ยวเราค่อยๆ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันครับ…”
ครับ…ก็พอจับประเด็นได้ว่า ม็อบมุ้งมิ้งไม่กี่คน มันเสียฟอร์ม ทางออกคือถ้าคนน้อย อย่าจัด
ถ้าจะจัดต้องแจ้งแกนนำก่อน
อ้าว…ไหนบอกม็อบ ๓ นิ้วไม่มีแกนนำ
ไหนล่ะ…ทุกคนเป็นแกนนำ
พูดในแง่สถานการณ์ จะเห็นว่ามีความพยายามจะสร้างขึ้นมาเพื่อเลี้ยงม็อบ ไม่ให้ล้มหายตายจาก แต่ก็ทำได้แค่ไปตะโกนด่าตำรวจหน้าโรงพัก ชักธงชาติลง
แถมแกนนำทุกคนมีคดี ม.๑๑๒ เป็นชนักปักหลัง
แล้วจะรู้ว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ได้มีไว้ให้ล้ม.