13 มกราคม 2564 นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าจากการที่ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัยพรรคประชาธิปัตย์
ที่ได้มีการแถลงข้อเสนอแนะ 6 มาตรการเยียวยาทางเศรษฐกิจ ช่วยไทยพ้นวิกฤติ จากผลกระทบการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ว่า
เป็นการตีกินทางการเมืองนั้น ไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง ไม่แน่ใจว่านายสุภรณ์ อ่านเนื้อหาไม่ครบจึงไม่เข้าใจ หรืออ่านครบแล้วแต่ไม่เข้าใจ จึงตีความอย่างคลาดเคลื่อน เพราะในเนื้อหานายปริญญ์ ได้พูดอย่างชัดเจนว่า
ทีมเศรษฐกิจทันสมัย ปชป. ชื่นชมและเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ขับเคลื่อนนโยบายทุกท่านที่ทำงานหนักอย่างเต็มที่ แต่เมื่อมีวิกฤตทางสาธารณสุขที่ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจร่วมด้วย จึงมีข้อเสนอต่อภาครัฐอย่างสร้างสรรค์ในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยเหลือประชาชน ทั้งการเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายให้ประชาชน ภายใต้ 6 แนวทาง ตามที่ได้มีการแถลงไป
ในสถานการณ์ที่ประเทศเผชิญกับวิกฤต เป็นสิ่งที่ทุกคนทุกฝ่ายควรรวมพลังกันอย่างเต็มที่เพื่อให้ประเทศชาติผ่านพ้นวิกฤตไปได้โดยเร็ว แนวทางต่าง ๆ ที่รัฐบาลกำลังขับเคลื่อนและได้ออกมาตรการเยียวยาออกมาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในเบื้องต้นแล้ว ตามมติ ครม. ในวันที่ 12 มกราคม 2564 ทั้งลดค่าน้ำ – ค่าไฟ และค่าอินเทอร์เน็ตบ้านและมือถือ รวมถึงเพิ่มสิทธิ์โครงการคนละครึ่งอีก 1 ล้านสิทธิ์
และมาตรการเยียวยาผู้มีรายได้น้อยที่เป็นแรงงานนอกระบบ อาชีพอิสระ 3,500บาท ต่อคนต่อเดือน เป็นเวลา 2 เดือนก่อน ถือเป็นเรื่องที่ดี น่าชื่นชมและหลายประเด็นที่ทางทีมเศรษฐกิจทันสมัยนำเสนอก็สอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาล
“ก่อนอื่นต้องขอบคุณนายสุภรณ์ ที่ได้ท้วงติงมา ทีม ศก.ทันสมัย ยืนยันว่าเคารพและพร้อมฟังความเห็นที่เป็นประโยชน์จากทุกฝ่าย การเป็นพรรคร่วมรัฐบาล นอกเหนือจากการร่วมรัฐบาลแล้ว ยังต้องร่วมรับผิดชอบการบริหารบ้านเมืองร่วมกัน จึงอยากให้นายสุภรณ์เปิดใจกว้าง ไม่มีอคติ เชื่อว่าทุกคนมีเจตนาที่ดีต่อบ้านเมืองไม่แตกต่างกัน
การออกมาแถลงข่าวของนายปริญญ์และทีมเศรษฐกิจทันสมัย ไม่ได้มีเพียงแต่ข้อเสนอต่อภาครัฐเท่านั้น แต่ยังมีประเด็นเรื่องโครงการเรียนจบพบงาน ที่จะช่วยเป็นช่องทางให้เกิดการจ้างงาน มีรายได้ มีอาชีพ ให้กับนักศึกษาจบใหม่ที่มีแนวโน้มจะตกงานจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ด้วย จึงจำเป็นต้องสื่อสารผ่านสาธารณะเพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ” นางดรุณวรรณ กล่าว
นางดรุณวรรณ ได้กล่าวเสริมในตอนท้ายด้วยว่าการออกมาชี้แจงในครั้งนี้ไม่ได้ต้องการโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น เพราะทีมงานทุกคนต้องการทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์และขอเป็นกำลังใจให้นายกรัฐมนตรี รัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์ และผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในการเดินหน้าทำงานกันอย่างหนักหน่วงเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติ
ในส่วนของทีมเศรษฐกิจทันสมัยที่เป็นกลไกหนึ่งของพรรค ยืนยันจะทำหน้าที่ต่อไปทั้งการให้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติด้านเศรษฐกิจต่อทุกฝ่าย และไม่เพียงแค่พูดหรือเสนอเท่านั้น แต่ได้ลงมือทำหลายอย่างแล้วที่สำเร็จเป็นรูปธรรม ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องทำได้ไว ทำได้จริง ในทุกเรื่องตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้และเป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาลในคราวนี้
