พลิกฟื้นผืนดินด้วยพระบารมี ณ โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรม “เขาชะงุ้ม” อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดราชบุรี

“ภาพความทรงจำอันแสนประทับใจตลอด ๓๘ ปี ของชีวิตการรับราชการ คงไม่มีสิ่งใดในชีวิตที่ทำให้เกิดความปลื้มปีติเท่ากับเหตุการณ์นี้อีกแล้ว”

นายสิทธิลาภ วสุวัติ อดีตอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ได้เล่าถึงเหตุการณ์อันเป็นที่มาของความประทับใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ไว้มีความว่า
จำได้ว่า เมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม ๒๕๒๘ ได้รับโทรศัพท์จาก ดร.เถลิง ธำรงนาวาสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แจ้งว่า กระทรวงฯ จะถวายโครงการเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระชนมายุ ๖๐ ชันษา ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
จึงได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลโดยผ่านทางพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์ุ เพ็ญศิริจักรพันธ์ และทรงได้พระราชทานพระราชกระแสว่ามีที่ดินราว ๖๐๐ ไร่ ที่มีผู้น้อมเกล้าฯ ถวายที่จังหวัดราชบุรี ทรงทราบว่าเป็นที่ดินไม่ดี จึงอยากให้กระทรวงเกษตรฯ ไปพัฒนาให้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ จึงได้สั่งให้ไปดูพื้นที่แล้วให้มารายงานพร้อมกับกำชับว่าให้กราบทูลพระองค์เจ้าจักรพันธ์ ให้ทรงทราบอีกทางหนึ่งด้วย
“ต่อมาไม่นาน ผมได้ชวนคุณปรัชญาฯ กองอนุรักษ์ดินและน้ำ และคุณไพโรจน์ฯ กองสำรวจดินไปดูพื้นที่ด้วยกัน ก่อนไปได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับที่ดินว่าเป็นที่ดินของ พล.ต.ต.ทักษ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา เนื้อที่ ๕๙๑ ไร่ ตำบลเขาชะงุ้ม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ติดกับเขาเขียว เคยทำไร่ และทำสวนมะม่วงมาแล้วแต่ไม่ประสบผล จึงได้เปลี่ยนมาเลี้ยงวัว และขุดลูกรังขาย”
นายสิทธิลาภ เล่าว่า หลังจากที่ได้นำคณะไปยังพื้นที่สำรวจแล้วได้ทราบว่าพื้นที่โดยทั่วไปกว่า ๙๐% ได้ถูกชะล้างอย่างปานกลางถึงรุนแรง จนบางแห่งเกิดร่องน้ำและหน้าดินเกือบไม่เหลือ โดยจะเห็นแผ่นลูกรังปรากฏทั่วไป มีพื้นที่ตอนล่างราว ๖% เท่านั้น ที่สามารถใช้เพาะปลูกได้ และมีบ่อขุดซึ่งสามารถเก็บน้ำได้ ๔ บ่อ จึงได้ทำรายงานถึงทั้งพระองค์เจ้าจักรพันธ์ฯ และดร.เถลิงฯ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ให้ทราบว่า ที่ดินแปลงนี้คงพัฒนายาก ทั้งอีกประการหนึ่งก็เป็นแหล่งอับฝน ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยประมาณปีละ ๗๐๐ มม. เท่านั้นและเท่าที่สังเกตในวันนั้น เห็นว่า ดร.เถลิงฯ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ดูท้อๆ กับโครงการนี้
นายสิทธิลาภฯ ได้เล่าต่อว่า หลังจากนั้นอีกประมาณ ๒ อาทิตย์ต่อมา จึงได้รับโทรศัพท์จากพระองค์เจ้าจักรพันธ์ฯ ว่าพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงทราบถึงรายงานที่ได้ถวายไปแล้ว และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กระทรวงเกษตรฯ ดำเนินการฟื้นฟูที่ดินแปลงนี้ และทรงเน้นด้วยว่า
“ที่ดินเลวๆ เช่นนี้ ถ้ากระทรวงเกษตรฯ ไม่ทำแล้วจะให้ใครทำ”
การจัดตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มจึงเกิดขึ้นโดยมี ดร.เถลิง ธำรงนาวาสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธาน และมีพระองค์เจ้าจักรพันธ์ุ เพ็ญศิริจักรพันธ์ เป็นที่ปรึกษา ประกอบด้วยส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายสิทธิลาภ วสุวัติ เป็นกรรมการและเลขานุการ
หลังจากนั้นในวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๒๘ จึงได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และรับพระราชทานพระบรมราโชวาทที่จังหวัดนราธิวาส เกี่ยวกับวิธีการดำเนินการโครงการเขาชะงุ้มว่าให้สร้างอ่างเก็บน้ำ บริเวณดินเลวให้ปลูกต้นไม้ที่สามารถขึ้นได้ และศึกษาวิธีการพัฒนาพื้นที่ส่วนที่ดินดีให้ปลูกพืชเศรษฐกิจเป็นการสาธิตแก่ราษฎร
นายสิทธิลาภ เล่าว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโครงการครั้งแรก เมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๒๙ ได้ทรงตรวจสภาพพื้นที่ทั่วๆ ไป และพระราชทานพระราชดำริว่าให้ศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมให้ใช้ประโยชน์ได้หลายๆ อย่าง บางพื้นที่ให้ปลูกต้นไม้เพิ่มเติมให้เกิดเป็นป่าธรรมชาติ ส่วนบนเขาเขียวให้ช่วยกันดูแลอย่าให้ขึ้นไปตัดไม้
“วันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๓๕ ได้ทราบข่าวด่วนจากสำนักงาน กปร. ว่าพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงปลูกหญ้าแฝกที่โครงการเขาชะงุ้มในวันรุ่งขึ้น พวกเราก็เตรียมการรับเสด็จ ในทันทีโดยเน้นในเรื่องหญ้าแฝก”
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินในครั้งนั้น ได้ทรงปลูกหญ้าแฝกตามสถานที่ที่ได้กำหนดไว้ แล้วจึงเสด็จฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการหญ้าแฝก ก่อนที่จะไปทอดพระเนตรโครงการฟื้นฟูดินลูกรัง ซึ่งที่ดินแปลงนี้แต่เดิมเกือบไม่มีพืชขึ้นได้เลยแม้แต่หญ้า แต่หลังจากที่โครงการได้ปลูกพืช สร้างดินและไถกลบซ้ำซ้อนได้ ๒-๓ ปี จนพอเห็นว่ามีหน้าดิน จึงได้ทดลองปลูกนุ่น ปลูกมา ๒ ปี ๘ เดือนนุ่นก็ได้ผล
“ขณะนั้นผมซึ่งตามเสด็จ ไปติด ๆ กับคุณปราโมทย์ (นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน) ได้ยินรับสั่งพึมพำว่า ‘พัฒนาที่ดินทำงานได้ผล’ พอได้ยิน ผมขนลุกไปทั้งตัวด้วยความปีติ เพราะได้ทำโครงการถวายมาเกือบ ๒๐ ปีแล้ว ไม่เคยได้ยินพระราชดำรัสเช่นนี้มาก่อน”
นายสิทธิลาภ เล่าต่อไปว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเสด็จฯ ถึงแปลงทรงหยุดประทับที่แปลง ณ ที่นั้นขบวนเสด็จของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ มาสมทบ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ทรงรับสั่งอธิบายเรื่องต่าง ๆ ของโครงการให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงทราบในวันนั้นขณะนั้นเป็นเวลาเกือบ ๒๐ นาฬิกา แล้วมืดสนิท ก่อนเสด็จฯ ขึ้นพลับพลาที่ประทับได้รับสั่งแก่พวกเราทั้งหมดที่เฝ้าอยู่ว่า
“โครงการนี้ทำให้เป็นของขวัญวันแซยิดใช่ไหม พอใจมาก และขอบใจมาก แล้วจะมาใหม่เมื่อครบ ๖ รอบ”
นายสิทธิลาภ บอกว่า ก็ได้แต่ถวายคำนับและกราบบังคมทูลว่า “เป็นพระมหากรุณาธิคุณ พระพุทธเจ้าข้า” แต่หัวใจพองโตขึ้นตื้นตันด้วยความปีติ และว่า นี่เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่มีความสุขมากที่สุด จึงอยากให้ผู้อื่นได้รับทราบไว้ด้วย
ผลสำเร็จของโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้จัดทำเป็นแปลงสาธิตในการอนุรักษ์และฟื้นฟูดินด้วยหญ้าแฝกการปรับปรุงบำรุงดินด้วยปุ๋ยพืชสดและอินทรียวัตถุต่าง ๆ การปลูกพืชผักไม้ผลที่เหมาะสม และเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการจัดการป่าไม้โดยวิธี “ปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก” เพื่อให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจ ข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา และเกษตรกร ได้เข้ามาเรียนรู้ ศึกษาดูงาน และฝึกอบรมตามความสนใจ
นอกจากนี้ ยังได้นำผลสำเร็จจากการศึกษาทดลองและวิจัยด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูดินและน้ำ การปรับปรุงบำรุงดินโดยใช้หญ้าแฝก ปุ๋ยพืชสด ปุ๋ยหมัก และปุ๋ยอินทรีย์ จนสามารถนำมาปลูกพืชผัก ไม้ผล ไม้ดอก และพืชสมุนไพร เป็นต้น ไปขยายผลยังชุมชนหมู่บ้านรอบพื้นที่โครงการจำนวน ๑๒ หมู่บ้าน มีประชากร ๒,๕๑๐ ครัวเรือน ๘,๖๓๕ คน พื้นที่การเกษตร ๕,๐๐๐ ไร่
ขอบคุณเรื่องเล่าจากหนังสือ “ร้อยเรื่องเล่า : เกร็ดการทรงงาน” โดย สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ นายสิทธิลาภ วสุวัติ อดีตอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน
ขอบคุณเรื่องและภาพ : เพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ


Written By
More from pp
“ประธาน กมธ.ตำรวจ” ติดตามปมเรือน้ำมันของกลางหาย ล่าสุดได้รับแจงทราบตัวคนนำเรือออกไปแล้ว เตรียมออกหมายจับเร็วๆนี้ ด้าน “ชัยชนะ” เชื่อมีเจ้าหน้าที่เปิดทาง รอติดตามใกล้ชิด หากพบความผิดปกติเล็งนำเข้า กมธ.ทันที
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2567 ส.ส.ชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณี เรือบรรทุกน้ำมันของกลางขนาดใหญ่จำนวน...
Read More
0 replies on “พลิกฟื้นผืนดินด้วยพระบารมี ณ โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรม “เขาชะงุ้ม” อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดราชบุรี”