นายอนุชา บูรพชัยศรีโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าขณะนี้ประชาชนที่ผ่านการลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งสามารถใช้จ่ายได้แล้วโดยเริ่มวันนี้เป็นวันแรกจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563
ทั้งนี้ประชาชนสามารถจ่ายค่าอาหารเครื่องดื่มและสินค้าทั่วไปไม่รวมสลากกินแบ่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยาสูบและบริการต่างๆในลักษณะการร่วมจ่าย (Co-pay)
นายอนุชากล่าวเพิ่มเติมว่า ณ ปัจจุบัน มีประชาชนลงทะเบียนแล้วจำนวน 6,733,557 คน ในจำนวนนี้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบซึ่งได้รับสิทธิใช้จ่ายตามโครงการจำนวน 6,402,927 คน ดังนั้น จึงยังคงเหลือสิทธิให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้อีกกว่า 3 ล้านคน
ประชาชนที่ได้รับ SMS ยืนยันสิทธิแล้ว ขอให้ติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย จากนั้นเติมเงินจำนวนเท่าใดก็ได้ตามต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องเติมครั้งเดียว 3,000 บาท
จากนั้นจึงเข้าไปในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ก็จะสามารถใช้สิทธิจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่มและสินค้าทั่วไป กับผู้ประกอบการร้านค้าที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการได้ทันที ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ในช่วงเวลา 06.00 น. – 23.00 น.
โดยสำหรับการใช้จ่ายแต่ละครั้งรัฐจะร่วมจ่ายครึ่งหนึ่ง แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อวัน และไม่เกิน 3,000 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการ เช่น การใช้จ่ายในครั้งแรกหากต้องการจ่ายค่าอาหาร 200 บาทก็ต้องมีเงินใน “เป๋าตัง” อย่างน้อย 100 บาทเพื่อสแกนจ่ายเงินกับร้านค้า “ถุงเงิน” และรัฐจะร่วมจ่ายให้ร้านค้าอีก 100 บาท หรือหากจะใช้จ่าย ค่าสินค้าจำนวน 400 บาท ก็ต้องมีเงินใน “เป๋าตัง” อย่างน้อย 250 บาท รัฐจะร่วมจ่ายให้ร้านค้า 150 บาท
สำหรับร้านค้าที่ผ่านการตรวจสอบเข้าร่วมโครงการและมีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” แล้ว ขอให้อัพเดท แอปพลิเคชันให้เป็นปัจจุบันและกดปุ่มยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขโครงการผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าวก่อนด้วย เพื่อให้พร้อมรับการสแกนจ่ายเงินด้วยแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ของประชาชนได้อย่างราบรื่น
โดยขณะนี้มีร้านค้า ที่สมัครเข้าร่วมโครงการจำนวนกว่า 300,000 ร้านค้าทั่วประเทศ ซึ่งประชาชนสามารถสังเกตร้านค้าดังกล่าว จากสัญลักษณ์โครงการคนละครึ่งที่หน้าร้านค้า หรือค้นหารายชื่อและที่ตั้งร้านค้าได้จากเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com อีกทางหนึ่ง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำว่า “ขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ได้ต่อเนื่องทุกวัน ในช่วงเวลา 06.00 – 23.00 น.จนกว่าจะครบ10 ล้านคน ส่วนผู้ประกอบการร้านค้าสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือณ สาขาและจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยกำลังเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์ และอำนวยความสะดวกในการรับสมัครผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจโดยเฉพาะหาบเร่ แผงลอยเข้าร่วมโครงการในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อให้มีร้านค้ารองรับการใช้จ่ายของประชาชนจำนวนมากที่สุด“