ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนชาวคีร์กีซสถาน ได้รับรางวัลผู้ลี้ภัยนานเซ็น ของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR)

"Citizenship is not a privilege, it is a necessity." 2019 UNHCR Nansen Refugee Award Winner Azizbek Ashurov, Director of Ferghana Valley Lawyers Without Borders, gives legal advice to a member of the Lyuli community in Osh. ; Ferghana Valley Lawyers Without Borders, headed by Ashurov, was first established in 2003 to offer free legal advice. It began tackling statelessness in 2007 and, in 2014, funding from UNHCR, the UN Refugee Agency, helped to set up mobile legal clinics and map the problem. Working with the Kyrgyz government, they have helped well over 10,000 people to gain Kyrgyz nationality after they became stateless following the dissolution of the Soviet Union. Among them, some 2,000 children will now have the right to an education and a future with the freedom to travel, marry and work. For his efforts helping the country become the first country in the world to end statelessness, Director Azizbek Ashurov has won the 2019 UNHCR Nansen Refugee Award. Statelessness limits access to basic rights such as employment, education and healthcare. UNHCR is striving to meet the goal of its #IBelong Campaign to End Statelessness by 2024.

ทนายความผู้ร่วมขับเคลื่อนความสำเร็จของสาธารณรัฐคีร์กีซในการยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ ได้เป็นประเทศแรกของโลก ได้รับเลือกให้เป็นผู้ได้รับรางวัลผู้ลี้ภัยนานเซ็น (Nansen Refugee Award) ประจำ พ.ศ. 2562 ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ ของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR)

อซิซเบค อชูรอฟ (Azizbek Ashurov) และองค์กรของเขา Ferghana Valley Lawyers Without Borders (FVLWB) ได้ช่วยเหลือผู้คนจำนวนมากกว่า 10,000 คน ให้ได้รับสัญชาติคีร์กีซ หลังจากที่ต้องตกอยู่ในภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ซึ่งรวมถึงเด็กจำนวนกว่า 2,000 คน ที่ปัจจุบันได้รับสิทธิในการศึกษา และจะได้สิทธิในการเดินทาง แต่งงาน และทำงาน เพิ่มอีกในอนาคต

 ภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติส่งผลต่อผู้คนหลายล้านคนทั่วโลก ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิทางกฎหมายหรือบริการขั้นพื้นฐาน ทำให้พวกเขาต้องตกอยู่ในสถานะของคนชายขอบทั้งในทางการเมืองและเศรษฐกิจ     ถูกเลือกปฏิบัติและอยู่ในภาวะเปราะบาง ที่เสี่ยงต่อการถูกกดขี่และเอารัดเอาเปรียบ

 เรื่องราวของ อซิซเบค อชูรอฟ เป็นตัวอย่างของบุคคลที่มีความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาฟิลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ กล่าว

 ความมุ่งมั่นของเขาในการยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติในคีร์กีซสถาน คือ ความสำเร็จจากความร่วมมือกันของรัฐบาลคีร์กีซสถานและทุกภาคส่วนภายในประเทศ เป็นตัวอย่างที่น่าชื่นชมที่แสดงถึงพลังของปัจเจกบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจและขับเคลื่อนการทำงานร่วมกัน

 ในสมัยที่ยังเป็นสหภาพโซเวียตที่ไม่มีการแบ่งเขตแดน ผู้คนสามารถเดินทางไปมาภายในเขตเอเชียกลางได้ด้วยเอกสารประจำตัวภายในประเทศ สามารถขออนุญาตอาศัย และแต่งงานได้ แต่หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียตใน พ.ศ. 2534 และการก่อตั้งรัฐใหม่ๆ ประชากรจำนวนมากถูกละทิ้งอยู่บริเวณชายแดน     ที่ถูกกำหนดขึ้นใหม่ ส่วนใหญ่ถือหนังสือเดินทางโซเวียตที่หมดอายุแล้ว หรือบางคนไม่สามารถพิสูจน์สถานที่เกิดได้ ทำให้ผู้คนหลายแสนคนทั่วทั้งภูมิภาครวมทั้งในคีร์กีซสถานตกอยู่ในภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ

ผู้หญิงจำนวนมากได้รับผลกระทบ บ่อยครั้งที่ต้องสูญเสียความเป็นพลเมืองหลังการแต่งงานและย้ายออกนอกรัฐของตน ตั้งแต่ก่อนการล่มสลายของสหภาพโซเวียตและการแบ่งเขตแดนของรัฐใหม่ ตามหลักกฎหมายพลเมือง ภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติจะยังตกทอดไปถึงบุตรที่เกิดตามมาในภายหลังอีกด้วย

 ด้วยแรงผลักดันจากการที่ครอบครัวต้องเผชิญกับความยากลำบากกว่าที่จะได้มาซึ่งสิทธิความเป็นพลเมืองหลังออกจากอุซเบกีสถานช่วงหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต อชูรอฟได้ร่วมจัดตั้งองค์กร FVLWB ในพ.. 2546 เพื่อให้คำปรึกษาทางกฎหมายและช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นที่อยู่ในภาวะเปราะบาง บุคคลไร้รัฐ       ไร้สัญชาติ และผู้ที่ไม่มีเอกสารแสดงตนใดๆ บริเวณตอนใต้ของคีร์กีซสถาน โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

 ฉันไม่สามารถนิ่งเฉยได้เมื่อพบเห็นความอยุติธรรมอชูรอฟ กล่าวภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ คือ ความ อยุติธรรม และบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติไม่ได้รับการยอมรับจากรัฐใดๆ พวกเขาเหมือนเป็นผี มีตัวตนรูปร่าง   แต่ไม่มีตัวตนในเอกสาร

 หน้าที่ของเราในการลดภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ คือ การช่วยเหลือคนเหล่านี้ทำในสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถทำเองได้ เราไม่ได้ให้ความเป็นพลเมือง แต่เราคืนสิทธิที่พวกเขาควรจะได้รับตั้งแต่แรกเกิดให้ต่างหาก

 ฉันตระหนักดีว่าสำหรับฉันที่มีทั้งความรู้และยังเป็นทนายความ มันยังยากขนาดนี้ แล้วลองคิดดูว่าสำหรับคนทั่วไปแล้วมันจะยิ่งยากลำบากขนาดไหนอชูรอฟ กล่าว

 มีคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ติดต่อ FVLWB เพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องสถานะพลเมือง อชูรอฟจึงตั้งเป้าหมายขององค์กรโดยเน้นไปที่เรื่องภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ ทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อสำรวจปัญหาทั่วประเทศเป็นครั้งแรกและตั้งเป้าหมายที่จะขจัดภาวะนี้ให้หมดสิ้นไป

 อชูรอฟและ FVLWB จัดตั้งทีมกฎหมายเคลื่อนที่เพื่อเดินทางไปยังพื้นที่ห่างไกลทางตอนใต้ของประเทศเพื่อค้นหากลุ่มคนเปราะบางและกลุ่มคนชายขอบที่ถูกกีดกันทางสังคม ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ของประเทศที่เป็นภูเขา ทีมกฎหมายเคลื่อนที่ต้องอาศัยการเดินทางด้วยรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือแม้แต่เดินทางด้วยการขี่ม้า

 ด้วยการทำงานอย่างใกล้ชิดของเขากับเจ้าหน้าที่ทางการของคีร์กีซสถาน รวมถึงการริเริ่ม การนิรโทษกรรมชั่วคราวสำหรับคนที่ไม่มีเอกสารแสดงตนที่ชัดเจน ทำให้สามารถช่วยบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติจำนวนมากให้ได้รับสิทธิพลเมือง

  “วิธีหลักของเราคือทำงานร่วมกับรัฐบาลอชูรอฟ กล่าวเราทำให้รัฐบาลหันมาสนใจและร่วมทำงานกันอย่างเป็นมิตร เราเป็นเพียงนักสู้ตัวเล็กๆ แต่เรามีรถถังคันใหญ่ที่คอยสนับสนุนเราอยู่

 ไม่ต่างจากคีร์กีซสถาน รัฐต่างๆ ในภูมิภาคแถบนี้ ได้ทำการรณรงค์ในการช่วยบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติจำนวน 46,000 คน ให้สามารถพิสูจน์ตัวตนได้ และ กว่า 34,500 รายที่สามารถแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ

Written By
More from pp
“หมูเถื่อน” บิดเบือนกลไกตลาด บั่นทอนความมั่นใจเกษตรกร
ผู้เลี้ยงหมูทั่วประเทศ ชี้ “หมูเถื่อน” ทำราคาหมูในประเทศอ่อนลง ประกอบกับกำลังซื้อชะลอตัวจากผู้บริโภครอจับจ่ายช่วงปีใหม่ ขณะที่ผลผลิตในแต่ละภูมิภาคยังน้อยกว่าความต้องการ
Read More
0 replies on “ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนชาวคีร์กีซสถาน ได้รับรางวัลผู้ลี้ภัยนานเซ็น ของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR)”