หนาวนี้ ถ้าใครยังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน เราขอแนะนำทริปท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่คุณจะได้สัมผัสอากาศเย็นยามเช้าพร้อมดริปกาแฟสดท่ามกลางทะเลหมอกนั่นคือ “บ้านปางขอน” จังหวัดเชียงราย
หมู่บ้านปางขอนเป็นแหล่งปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้าขึ้นชื่อของประเทศไทย ตั้งอยู่บนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,280 เมตร จึงทำให้สภาพอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ช่วงฤดูหนาวจะมีดอกพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งเต็มพื้นที่ นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาจิบกาแฟพร้อมชมความงามของดอกพญาเสือโคร่ง
ซึ่งชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่มีอาชีพหลักคือปลูกกาแฟและทำที่พักโฮมสเตย์รับนักท่องเที่ยว เช่นเดียวกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟอาข่าปางขอน ที่รวมกลุ่มกันเพื่อจำหน่ายและแปรรูปผลผลิตจากกาแฟ และส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชนเพื่อกระจายรายได้ให้สมาชิกมีงานทำ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้รายได้หลักจะมาจากการปลูกและขายกาแฟให้กับผู้ประกอบการกาแฟ แต่ทางกลุ่มยังต้องการสร้างรายได้ในช่องทางอื่นๆ โดยการต่อยอดจากกาแฟที่เป็นผลิตภัณฑ์หลัก จึงเป็นที่มาของโปรเจ็ค “จิบกาแฟดริป แล้วไปออกทริปที่ปางขอน”
“จิบกาแฟดริป แล้วไปออกทริปที่ปางขอน” เกิดจากความร่วมมือของนักศึกษาสาขาดิจิทัลมัลติมีเดีย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (มร.ชร.) กลุ่ม Espresso 1 shot (เอสเปรสโซ วัน ช็อต) ร่วมกับธนาคารออมสิน จัดทำโครงการ “ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น” เพื่อนำความรู้มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนายกระดับมาตรฐานสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ชุมชนให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคและต่อยอดเพื่อนำไปสู่การต่อยอดรายได้ของผู้ประกอบการและชุมชน และความเป็นอยู่ชุมชนให้ยั่งยืนต่อไป
น.ส.ฐิตินาถ ใจมะณา นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ตัวแทนกลุ่มเอสเปรสโซ วัน ช็อต กล่าวว่า
“จากการลงพื้นที่พูดคุยกับผู้ประกอบการพบว่า กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟอาข่าปางขอนต้องการพัฒนาด้านบรรจุภัณฑ์กาแฟเพื่อเพิ่มช่องทางการขายจากกการขายส่งเป็นขายปลีกหน้าร้าน และสื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวโดยเฉพาะช่องทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งสมาชิกกลุ่มยังไม่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้
ดังนั้น กลุ่มเรานอกจากจะช่วยทำสื่อประชาสัมพันธ์แล้วยังช่วยให้ความรู้ด้านการใช้สื่อโซเชียล การถ่ายภาพ ตลอดจนการจัดทำบัญชีครัวเรือนให้กับสมาชิกกลุ่ม พร้อมแนะนำการจองที่พักออนไลน์และการจัดจำหน่ายหน้าร้าน เพิ่มพื้นที่โชว์สินค้า และช่วยออกแบบจุดเช็คอินที่สื่อสารอัตลักษณ์ของปางขอน ที่สำคัญเราอยากจะบอกว่าปางขอนเที่ยวได้ทุกฤดู ไม่ใช่แค่ฤดูหนาวเพราะแต่ละฤดูจะมีเสน่ห์แตกต่างกันค่ะ”
นอกจากนี้ นักศึกษายังร่วมพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยววิถีกาแฟ สำหรับนักท่องเที่ยวขาลุยที่หลงไหลกาแฟและความงดงามของทัศนียภาพบนดอยสูง ซึ่งทริปท่องเที่ยวนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเที่ยวคนเดียวหรือจะมาแบบแบ็คแพคเกอร์ก็ได้ เริ่มจากชมความงามของทะเลหมอกยามเช้าพร้อมดริปกาแฟสดๆ สัมผัสรสชาติความกลมกล่อมของกาแฟปางขอนขนานแท้
จากนั้นเที่ยวชมวิถีชีวิตของชนเผ่าอาข่า ไปเก็บกาแฟและเก็บผักจากสวนเพื่อนำไปปรุงอาหาร ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ทานอาหารอาข่าขนานแท้ อาทิ ลาบหมูห่อใบกาแฟ น้ำพริกทามาลีโล่ ต้มจืดซาโยเต้ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมตำ “ข้าวปุกทอด” ขนมชาวเขาแท้ๆ ที่ปัจจุบันหาทานได้ยาก และมาถึงถิ่นกาแฟทั้งทีถ้าไม่ได้คั่วกาแฟด้วยตัวเองก็เห็นจะมาไม่ถึงปางขอน ซึ่งกาแฟที่คั่วเองนี้ยังมาทำเป็นของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยวนำกลับอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวมักจะนิยมเที่ยวปางขอนเฉพาะในช่วงฤดูหนาวเพื่อมาชมทะเลหมอกและดอกพญาเสือโคร่ง แต่แท้จริงแล้วปางขอนเป็นพื้นที่ที่สามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล มีเส้นทางท่องเที่ยวตามธรรมชาติมากมาย อาทิ น้ำตก การเดินป่า หรือชมความงามของพันธุ์ไม้นานาพันธุ์ที่สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามแนวพระราชดำริบ้านปางขอนฯ ให้บรรยากาศแบบไม่ซ้ำกันไม่ว่าหน้าร้อน หน้าฝน หรือหน้าหนาว หนาวนี้ อย่าลืมไปจิบกาแฟดริป แล้วไปออกทริปที่ปางขอนกัน…
หากสนใจติดต่อบ้านพักและทริปท่องเที่ยว ติดต่อกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟอาข่าปางขอน โทร.09-5243-3884 (คุณภู) หรือติดตามข่าวสารท่องเที่ยวชุมชนแห่งนี้ได้ทางเฟซบุ๊ก “หลงรักปางขอน”