วันจันทร์ที่ 14 กันยายน 2563 เวลา 14.00 น. ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญการหารือ ดังนี้
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับ และยินดีที่ได้พบเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ผู้ซึ่งมีบทบาทอย่างแข็งขันในการกระชับความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐให้แน่นแฟ้น มีความร่วมมือที่ใกล้ชิดในทุกมิติ รัฐบาลไทยพร้อมร่วมมือ เพื่อสนับสนุนการทำงานของเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เป็นอย่างดี เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ฉันท์มิตรที่มีมาอย่างยาวนานให้ก้าวหน้าต่อไป เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทราบว่า เอกอัครราชทูต เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ที่มาจากเอกชนคนแรกในรอบ 45 ปี
ด้านเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ขอบคุณที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอนุญาตให้เข้าเยี่ยมคารวะ พร้อมยืนยันว่าสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ และความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับไทยโดยการมาปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญ 2 ประการ คือ ยกระดับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน และส่งเสริมโอกาสและความร่วมมือในด้านการค้าและการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ สหรัฐฯ ถือเป็นคู่ค้าและนักลงทุนอันดับต้นๆ ของไทย
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมมือฟื้นฟูเศรษฐกิจ ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการค้าการลงทุนของทุกประเทศทั่วโลกคลี่คลายลง และหวังที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านต่าง ๆ
ซึ่งสหรัฐฯ ยินดีที่ไทยเป็นฐานการดำเนินธุรกิจของบริษัทสหรัฐฯ รายสำคัญ มีการลงทุนในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ช่วยสร้างงานให้ชาวอเมริกันกว่า 70,000 ตำแหน่ง
โดยโอกาสนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังได้กล่าวชื่นชมบทบาทที่แข็งขันของเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในการหารือกับภาคเอกชนสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อความร่วมมือในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย
ในตอนท้าย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณความช่วยเหลือ รวมถึงความร่วมมือที่สหรัฐฯ มีให้ไทยมาโดยตลอด ไทยพร้อมดูแล และอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนสหรัฐฯ และพร้อมส่งเสริมการขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่ายเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป