มันเป็นเช่นนั้นเอง

อ่านแล้วนึกถึง “เพื่อน” …

อ่านกี่ครั้งก็ชอบและอยากขอบคุณผู้ที่ส่งมาให้อ่าน…

เรื่องมีอยู่ว่า….

เมื่อยังอยู่ในวัยคะนอง เรามองว่า ..

  • คนที่คิดไม่เหมือนเรานั้นผิด
  • คนที่ใช้ชีวิตไม่สอดคล้องกับความเชื่อของเรานั้น ไม่ได้เรื่อง
  • คนอื่นนั้นโง่ไปหมด มีแต่เราที่ฉลาดอยู่คนเดียว

….ใจเราแคบเหลือเกิน เที่ยวตัดสินผู้คนไปทั่ว

แต่เมื่อเติบโตขึ้น (ไม่ใช่อายุ แต่คือความคิด) .. เราจะ “ตัดสิน” ผู้คนน้อยลง .. เราจะเข้าใจว่าชีวิตนั้นมีหลากหลายรูปแบบ… ไม่มีใครดีกว่าใคร เราแค่แตกต่างกัน

เป้าหมายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และถึงแม้จะมีเป้าหมายเดียวกัน แต่หนทางไปสู่เป้าหมายนั้นก็มีอยู่ล้านวิธี

ใครกันจะบอกได้ว่าทางไหนดีกว่า?

ผมคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะเมื่อคืนมีโอกาสได้นั่งดื่ม พูดคุย กับเพื่อนสมัยเรียน…. หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานมาก บางคนไม่เจอกันเป็นสิบปี… พวกเราบางคนอยู่หอพักห้องเดียวกัน กินนอนร่วมกันมาหลายปี แล้วก็แยกย้ายไปมีชีวิตของใครของมัน

วันนี้กลับมารวมกันอีกครั้ง เราจึงนั่งอัพเดทชีวิตกัน…

  • คนนึงทำงานประจำที่เดียวตั้งแต่เรียนจบ
  • อีกคนนึงแทบไม่เคยทำงานประจำเลย
  • คนนึงลูกน้องเป็นร้อยๆ อยู่บริษัทมหาชน
  • คนนึงใช้ชีวิตเรียบง่าย พอเพียง slow life
  • คนนึงทำงานเพื่อสังคม เพื่อคนอื่น
  • อีกคนนึงตั้งบริษัทของตัวเอง ลูกน้องแทบไม่มี ทำงานเองเกือบทุกอย่าง
  • คนนึงทำกำไรจากพอร์ตหุ้นเดือนละเป็นล้าน
  • อีกคนพอใจลงทุนง่ายๆ ไปช้าๆ ในกองทุนรวม
  • คนนึงทำงานหนักทั้งวัน ตำแหน่งใหญ่โต
  • คนนึงกำลังโมโหโทโสกับลูกน้องอยู่
  • อีกคนทำงานสบายๆ ขอแค่มีเวลาออกกำลังกาย
  • คนนึงชอบชีวิตกลางแจ้ง ขี่จักรยานไปทุกที่
  • อีกคนนึงชอบความหรูหรา ขับรถไม่ต่ำกว่าเบนซ์
  • ยังมีเพื่อนคนนึงที่ไม่ได้มาเพราะออกธุดงค์กลางป่าเพื่อค้นหาสัจธรรมของชีวิต

วันนี้เราต่างมีชีวิตที่ไม่เหมือนกันเลย แต่กลับลงตัวในแบบของเราเอง…. ไม่มีใครมีชีวิตดีกว่าใคร…. เราแค่มีชีวิตที่ดีแตกต่างกัน

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เราอาจจะถกเถียงกันว่า

เฮ้ย ทำไมไม่ทำแบบนั้น ไม่ทำแบบนี้ซะ

เฮ้ย ใช้ชีวิตแบบนี้สิ ทำงานแบบนี้สิ ดีกว่าตั้งเยอะ

แต่ครั้งนี้เรากลับพบว่า ใจเรา “กว้าง” มากขึ้น…. เราเข้าใจว่าแต่ละคนมีที่ทางของตัวเอง… แต่ละคนมีรูปแบบชีวิตในแบบของตัวเอง จะทำงานอะไรก็ได้ จะใช้ชีวิตแบบไหนก็ได้…. ขอแค่ให้ชีวิตรู้สึกว่ามีความสุขก็พอแล้ว

ถ้าพูดแบบภาษาสมัยนี้ก็คงต้องบอกว่า “เอาที่สบายใจ”

เมื่อคืน นอกจากจะได้พบปะเพื่อนฝูงแล้ว ผมจึงได้บทเรียนบทนี้ ติดตัวกลับมาที่บ้านว่า “การตัดสินผู้อื่น ทำให้เราเป็นทุกข์ ทั้งตัวเราและผู้อื่น”

ที่หลายๆ คนทะเลาะกันอยู่ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะในโลกออนไลน์หรือโลกจริง ก็เพราะดันไป “ตัดสิน” คนอื่นว่าผิดที่คิดไม่เหมือนฉัน ทำไม่เหมือนฉัน เป็นไม่เหมือนฉัน

แต่ถ้าเราจะลองผลักผนังหัวใจออกไปให้กว้างๆ ขึ้น แล้วทำความเข้าใจว่า….

เราไม่ใช่ศูนย์กลางจักรวาล….เราไม่ใช่ผู้คุมกฎที่จะบอกได้ว่าแบบนั้นถูก แบบนี้ผิด… หนทางชีวิตนั้นมีมากมายเกินกว่าจะต้องเลือกว่าทางไหนใช่ ทางไหนผิด

ขอให้มีความสุขบนเส้นทางของตัวเอง… โดยไม่ต้องไปตัดสินใจใคร…ไม่ต้องฟังคำใครมาตัดสินเรา เท่านี้ชีวิตก็ดีมากๆ แล้วหล่ะ

อ่านมาแล้วชอบ เลยนำมาฝากทุกคน..

ขอให้มีความสุขกับหนทางชีวิตที่เลือกเดิน เลือกทำในวันนี้

ภาพประกอบ IG : suanmokkh_bangkok

 

Written By
More from pp
นายกรัฐมนตรีให้นโยบายทุกหน่วยงานร่วม “พลิกโฉมประเทศไทย” พร้อมการเปิดประเทศ ททท.ขานรับเปิดตัว “พลิกโฉมการท่องเที่ยวใหม่” Amazing Thailand, Amazing New Chapters
วันที่ 3 พ.ย. 2564 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม...
Read More
0 replies on “มันเป็นเช่นนั้นเอง”