23 สิงหาคม 2563 นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 พร้อมด้วยนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย และนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าในการตรวจสอบการจัดซื้อเรือดำน้ำของรัฐบาล
โดย นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า จากการที่คณะอนุ กมธ.ฯ มีมติเห็นชอบในการจัดซื้อเรือดำน้ำไปเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา หากนายกรัฐมนตรียืนยันจะซื้อเรือลำน้ำให้ได้ ก็เชื่อว่าการซื้อเรือดำน้ำครั้งนี้จะเป็นจุดจบของรัฐบาล และต้องถามไปยังนายกรัฐมนตรีประเทศไทยว่าหัวใจทำด้วยอะไร
ในวันที่พี่น้องประชาชนอดอยากเดือดร้อน ฆ่าตัวตายกันทุกวัน และรัฐบาลก็ไม่มีเงินที่จะไปช่วยเหลือ แต่นายกรัฐมนตรีกลับเดินหน้าซื้อเรือดำน้ำจีนเพิ่มอีก 2 ลำ ซึ่งมีมูลค่า 22,500 ล้านบาท และการซื้อเรือดำน้ำไม่ได้จบแค่นั้น ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกมหาศาล ที่เพิ่มขึ้นหลังจากที่ซื้อ
ในเวลานี้เรือดำน้ำกับความอดอยากของพี่น้องประชาชน อะไรสำคัญกว่ากัน ถ้าท่านยังยืนยันที่จะซื้อเรือดำน้ำ ถึงแม้เราจะเป็น กมธ. เสียงข้างน้อย แต่เราจะสู้ไม่ถอย ขอทำหน้าที่ ส.ส. ถึงแพ้ในสภา เราก็จะขอสู้ต่อไปร่วมกับพี่น้องประชาชน
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังพบความไม่โปร่งใสในสัญญาการซื้อเรือดำน้ำ เพราะไม่มีการลงนามของรัฐบาลจีน มีเพียงบริษัทเอกชนเท่านั้น แล้วจะเป็นการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ได้อย่างไร
รวมทั้งยังพบข้อสังเกตผู้ลงนามในสัญญาฝ่ายไทยด้วย ซึ่งอาจทำให้สัญญาดังกล่าวเป็นโมฆะ ซึ่งในที่ 26 สิงหาคม คณะ กมธ.งบประมาณฯ ชุดใหญ่ จะให้อนุ กมธ.ฯ ชี้แจงเรื่องเรือดำน้ำ ก็จะขอเสนอให้คณะ กมธ.ชุดใหญ่ทบทวน พร้อมขอให้กองทัพเรือนำหนังสือสัญญามาแสดง หากไม่สามารถนำมาแสดงได้ ก็อาจตั้งข้อสังเกตได้ถึงความไม่โปร่งใสและไม่ชอบมาพากล
หากคณะ กมธ.งบประมาณ ดึงดันให้ผ่าน ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย ทั้งนี้จะเสนอให้ลงมติในคณะ กมธ.ชุดใหญ่ โดยให้ กมธ. ลงชื่อเป็นรายบุคคลแบบเปิดเผยชื่อ เพื่อดูว่าใครเห็นความสำคัญของเรือดำน้ำ มากกว่าความอดอยากของพี่น้องประชาชน
ขณะที่ นายครูมานิตย์ กล่าวว่า ได้ตั้งข้อสังเกตและบันทึกไว้ชัดเจนว่าจะขอนำไปต่อสู้ในสภา ทั้งในวาระสองและการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ซึ่งเรื่องนี้น่าตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็นใบสั่งหรือไม่ เพราะคนอภิปรายไม่มีใครเห็นด้วย แต่พอลงมติกลายเป็นคนละเรื่อง สิ่งที่รัฐบาลเคยพูดไว้ว่าพี่น้องประชาชนต้องรัดเข็มขัด ต้องประหยัด การ์ดต้องสูง แต่รัฐบาลกลับมาดันเรื่องเรือดำน้ำ