“กระมิด-กระเมี้ยนอยู่ทำไม?”

วานซืน…….

๑๒๐ คณาจารย์ โผลหัวจากง่ามตูดเพนกวิน
ออกมาหนุน
๑๐ ข้อเสนอ “ล้มสถาบันกษัตริย์” ที่เวทีธรรมศาสตร์ ของฮองเฮาเกศินี ที่นายปริญญาเป็นโปรโมเตอร์ เมื่อ ๑๐ สิงหา.ยุคก่อน ยี่ห้อมหา’ลัยและคำว่าอาจารย์ใช้หลอกเด็กและหลอกแดกสังคมได้ เข้าชื่อออกมาเมื่อไหร่ หมาเห่าเกรียว

แต่ยุคนี้ วันนี้ ……
พอโผล่หัว-แพลมชื่อปุ๊บ ชาวบ้านก็รู้ปั๊บว่าสายพันธุ์ไหน จึงไล่เหยียบหางกันมันตีน
ก็ทีตอนทักษิณ-ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ “ชำเราบ้าน-ชำเราเมือง” ขนาดไหน สมคบไอ้กันให้ใช้ประเทศเป็นฐานขนาดไหน
ไม่เห็นมีหมาในคราบคณาจารย์กลุ่มนี้ซักตัวบอกให้นักศึกษาออกมาละลายการ “แช่แข็งสังคม” อย่างที่นายอนุสรณ์ อุณโณ จานธรรมศาสตร์ อ้างตอนนี้เลย

กระทั่งคำว่า “ขอพื้นที่ประชาธิปไตย” ทั้งจานและศิษย์ ก็ไม่เคยแอะ
เป็นเพราะนโยบายโกงแล้วแบ่งกันถูกใจ หรือเพราะกระโปรงบังตา หรือเพราะจักรวรรดินิยมตะวันตกขุนเลี้ยงผ่าน “ทุนวิจัย” แลกการบ่อนไส้ประเทศหนำใจหรืออย่างไร?
จึงกระดิกหางหมอบเงียบ

ไม่อ้างประชาธิปไตย ไม่ตรวจสอบอะไรเพื่อสังคมเลย ไม่ชวนกันลงถนน ไม่เปิดพื้นที่มหาลัย ขับไล่โน่น-นี่

แต่พอรัฐบาลประยุทธ์เข้ามาเท่านั้นแหละ ขวางทางโจรไปหมด ก็ขุดคำว่า “นักวิชาการ-จานมหาลัย” ขู่สังคม เพื่อล้มโต๊ะ
คำก็เผด็จการ สองคำก็ เสรีภาพ-เสมอภาค-ภราดรภาพ สามคำก็ กู…รุ่นใหม่ ต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดิน

“ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์” ที่ก่อเกิดกำเนิดไทยมาแต่บรรพกาล ไม่มีอะไรดีเลย ต้องล้ม ต้องล้างให้หมด

แม้กระทั่ง “สถาบันพระมหากษัตริย์”!

นี่…แบบนี้ มันวอน นะเนี่ย
ในทุกเรื่องทางการเมือง ปกติ “ภาคประชาชน” จะเป็นฝ่ายตามดูอยู่วงนอก
แต่ครั้งนี้แหละ ที่ผมเห็น “ภาคประชาชน” ออกตัวแรง ไม่วางตำแหน่งเป็นคนวงนอกอีกต่อไป

รับรู้-รู้สึกทันทีว่า “ทนไม่ได้” กับการเหิมเกริม จ้วงจาบหยาบช้าต่อสถาบัน ของพวกขบวนการชังชาติ

ประกอบด้วยทุนนอกชาติ, กลุ่มไอ้สัส, พรรคการเมือง, คณาจารย์มหาลัย ที่ใช้นิสิต-นักศึกษาพวกหนึ่งเป็นตัวเดินเกมเปิดหน้า

ในขณะที่ขบวนการล่มชาติ ใช้แผนยั่วยุต่างๆ ผ่านเยาวชนปลดแอก เพื่อให้รัฐบาลหลุด และใช้อำนาจเข้าจัดการ
แล้วเขาจะใช้ตรงนี้เป็นเงื่อนไข เรียกร้องให้ “อำนาจนอกชาติ” เข้ามา
เหมือนที่ “ฮ่องกง”

แต่รัฐบาลพยายามอดทน อดกลั้น ประนี-ประนอม ใช้การป้อง-ปราม มากกว่าการปราบปราม

เมื่อนายกฯ ไม่หลงกลเข้าแผน แก๊งไอ้สัสกับคณาจารย์ จึงงัด “แผนตาย” อันเป็นแผนสุดท้ายมาใช้

มันรู้ว่า “จุดอ่อน-จุดแข็ง” อยู่ที่สถาบันฯ
และวัดใจแล้วว่า กับนักศึกษา รัฐบาลไม่กล้าใช้ความรุนแรง
๑๐ สิงหา. “เวทีธรรมศาสตร์จะไม่ทน” จึงเปรี้ยง..

มันให้นักศึกษา “เพนกวิน” ออกหน้า ส่วนคณาจารย์และไอ้สัสซุกหลัง
ประกาศ ๑๐ ข้อเสนอ “ล้มสถาบันกษัตริย์”!

ก็ข้อเสนอของมันนั่นแหละ จริง-ไม่จริง ไปถามปิยบุตร ศิษย์เอก “สมศักดิ์ เจียม” ดูก็ได้
กระหยิ่มกันยกใหญ่ เปิดไวน์ฉลองและรอข่าวกันทั้งคืน ขนาดนี้แล้ว รัฐบาลจะไม่ทน ต้องออกมาจัดการแหงๆ

ปรากฏว่า รัฐบาลถือศีลในข้อ “ตบกระบาลเด็กเป็นบาป” ด้วยรู้ทันในเกมตื้น
มันก็ยังอุตส่าห์ สร้างสตอรี่ ปลุกประสาทเหมือนหนังผีให้คนติดตาม

นักศึกษาแรดตัวเก่ง เมคเหตุการณ์ โพสต์เป็นระยะๆ ตำรวจเข้ามาแล้ว มาล้อมหอแล้ว จะมาจับแล้ว อ้าว…เงียบไปแล้ว
เดี๋ยวคงเปิดบัญชี รอรับบริจาค เป็นการบำรุงขวัญ ตามสไตล์จนได้!


ไอ้สุนัข ฮิวแม่น-ฮิวหมา ไม่รอช้า จัดการชักน้ำเข้าลึก-ชักศึกเข้าบ้าน โพสต์ตามแผนทันที

“เข้าพื้นที่ธรรมศาสตร์รังสิตหลังมีรายงานแจ้งเตือนว่า ตำรวจเตรียมบุกจับเพนกวินและรุ้ง แกนนำ #เยาวชนปลดแอก เช้านี้ /ประสานงานกับยูเอ็นและสถานทูตประเทศฝ่ายประชาธิปไตยแล้ว/นานาชาติกำลังจับตามองประเทศไทย #หยุดคุกคามประชาชน #savePenguin #SavePanusaya”
ปรากฏว่า วืด!

ทั้งแก๊งไอ้สัส แก๊งคณาจารย์ แก๊งเปิดประตูเมืองให้ต่างชาติ เพราะ “นักศึกษาเหมือนลูกหลาน รัฐบาลเอ็นดู”

นายกฯ ท่านก็ชักลูกปะคำร้อยแปดนอนหลับสบาย (ยัง) ไม่จัดการอะไร ดึกๆ ก็ตื่นขึ้นมาฮัมเพลง “เสือ” ของภัสสร บุญเกียรติ

“เก็บความร้าย จนหดหาย ไม่เห็น
ซ่อนอะไรข้างในที่เป็น ซ่อนลายไว้คอยขย้ำใคร เล่าเสือ
ออกลายมาเลย ออกลายให้เห็น เผยที่เป็น ว่าจะร้ายสักเท่าไหร่
ออกลายมาเลย
ออกลายให้เห็น เผยที่เป็นตัวจริงอัน น่ากลัว…..”


ทำไมจะไม่หลับสบายล่ะ ก็ภาคประชาชนบอก รัฐบาลยังไม่ต้อง งานนี้ ประชาชนจะจัดการเอง

เพราะเรื่องสถาบัน เป็นเรื่องของชาติ-ประชาชน เมื่อธรรมศาสตร์จะไม่ทน ประชาชนก็จะไม่ทนกับธรรมศาสตร์เหมือนกัน
“รวมทั้งแก๊งไอ้สัสด้วย”

อย่านึกว่าชาวบ้านโง่ จนไม่รู้ประสี-ประสานะว่า งานนี้แก๊ง ๓ ไอ้สัส นั่นแหละ ตัวการเป่าตูดเด็กโดยตรง!

วันนี้ จึงเห็นภาคประชาชนออกมาทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๕๐ ว่าด้วย “หน้าที่ของปวงชนชาวไทย”

ไม่ใช้อารมณ์และกำลัง ใช้ความรู้สึกผิด/ชอบ/ชั่ว/ดี เดินตามกรอบกฎหมาย
เมื่อกลุ่มนักศึกษา-อาจารย์ “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” ประกาศล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๖ ชัดเจน

บ้านมีกฎบ้าน เมืองมีกฎหมาย ดังนั้น จึงเห็นหลายต่อหลายกลุ่มคนไปยื่นเรื่องร้องทุกข์-กล่าวโทษตามช่องทางที่ถูกต้อง
รวมทั้ง แจ้งความตำรวจให้ดำเนินคดี!
มันวืดอีก…


อุตส่าวางแผนอำมหิต โดยใช้นิสิต-นักศึกษาเป็นเหยื่อล่อ ล่อให้ตำรวจ-ทหาร-ประชาชนโกรธแค้น แล้วฮือออกมาฆ่า-ทำร้ายนักศึกษา
ให้เกิดเป็น “๖ ตุลา.” ภาค ๒

แต่ภาคประชาชนวันนี้ เจริญแล้ว มีสติ มีความคิดรอบคอบ แยกแยะออก ระหว่างเหยื่อปลายเบ็ด กับคนถือคันเบ็ด
อยากได้ปลา กระทืบคนถือคันเบ็ด ก็จะได้ทั้งปลา-ทั้งเบ็ด เบ็ดเสร็จกว่าที่จะต้องดำลงไปได้แค่ปลาตัวเดียวปลายเบ็ด!
อย่างหนังจีนนั่นน่ะ เป๊ะเลย
“ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว” ตัวอย่างชัดที่ฮ่องกง อาม่วย-อาตี๋ กร่าง…ไล่ตี เผาบ้าน-เผาเมือง ฉีกธงชาติตัวเอง ชูธงต่างชาติแสดงตัวเป็นทาส
มันเขาละ ตอนนั้น

แล้วตอนนี้เป็นไง หายมันน่ะซี จีนกางบัญชีรายชื่อ ตามรวบปากแห ทั้งตี๋เล็ก-ตี๋ใหญ่ ทั้งนายทุนทาสไอ้กัน
จาก ๓ นิ้วชูกร่าง เหลือนิ้วเดียว คอตก-หน้าซีด เดินเข้าซังเตไปตามๆ กัน
เมื่องัด ๑๒๐ คณาจารย์มาขู่วันก่อน ปรากฏว่า ไม่ขลังพอ และจู๋สนิท


เมื่อวาน นายอนุสรณ์ อุณโณ จานธรรมศาสตร์ จึงประกาศตนเป็นหัวขบวน ไปขนมาอีกทั้งหน้าเก่า-หน้าใหม่ นับได้ ๓๕๓ คณาจารย์ แถลงการณ์ประดิษฐ์คำซะเก๋

“…………..มหาวิทยาลัยไม่ได้เป็นโรงงานผลิตแรงงานตามความต้องการของตลาด และไม่ได้เป็นหน่วยงานหล่อหลอมเจ้าหน้าที่ตามการบงการของรัฐ”

งั้นถามด็อกเตอร์ซักคำ เงินเดือนคณาจารย์พวกคุณ เงินหล่อเลี้ยงมหาลัยที่พวกคุณสุมหัว มาจากไหน?
ก็ “งบประมาณแผ่นดิน” ที่รัฐบาลจัดให้ รัฐเลี้ยง-รัฐจ่าย ให้ผลิตคนป้อนตลาดตามทิศทางเศรษฐกิจและสังคมชาติ
คนละความหมายที่ตะแบงเป็นโรงงานผลิตแรงงาน เป็นที่หล่อหลอมตามบงการรัฐ

มหาลัยมีคนอย่างนี้เป็นอาจารย์ ก็ไม่น่าแปลกใจ ที่นักศึกษาทุกวันนี้ เป็นอย่างนี้
วันแรก มา ๑๒๐ วันที่สอง มา ๓๕๓ แล้ววันนี้-พรุ่งนี้ จะขนกันมาอีกกี่ร้อยคณาจารย์ล่ะ?

ก็ระดมมาซะทีเดียวพร้อมๆ กัน แล้วประกาศ “ยึดประเทศ-ยึดสถาบัน”
สถาปนา “ธนาธร” เป็นประธานาธิบดี “ปิยบุตร” เป็นนายกฯ เอาให้สุดดากไปซะเลยเป็นไง!

เพิ่มช่องทางรับข่าวสารได้ที่ LineID: plewseengern.com หรือสแกน สแกน QR Code


Written By
More from plew
ในภาวะ “ฝ่ายค้านหลงยุค”
เหลียวหลังไปดู ๔ เดือนก่อน แล้วย้อนดูปัจจุบัน โควิดนี่ ……. ทำลายสิ่งเก่า-สร้างสิ่งใหม่จริงๆ! ถ้าใครไม่ปรับตัวตาม อย่างที่เรียกกันว่า New Normal จะตกยุค-ตกสมัย...
Read More
0 replies on ““กระมิด-กระเมี้ยนอยู่ทำไม?””