27 ก.ค.63 นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องคดีสำคัญในขณะนี้ ว่า กระบวนการยุติธรรมไทยใกล้ถึงจุดวิกฤติศรัทธาแล้ว เพราะผู้คนในสังคมกังขาว่ามีการบังคับใช้กฎหมายอย่างบิดผัน (abuse) ทำให้ประชาชนทั้งในและต่างประเทศสูญเสียความเชื่อมั่นในฐานะเป็นที่พึ่งสุดท้ายแห่งความยุติธรรมของสังคม
โดยเห็นว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมาย และตีความกฎหมายเพื่อประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง ยิ่งกว่าประโยชน์แห่งความยุติธรรมและความสงบสุขโดยแท้จริง ซึ่งถือว่าเป็นความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ความยุติธรรมตามใบสั่งเช่นนี้ดำรงอยู่ในกระบวนการยุติธรรมไทยมาหลายทศวรรษ ที่การบังคับใช้กฎหมายถูกใช้เป็นเพียงเครื่องมือในการพิทักษ์ประโยชน์แห่งผู้มีอำนาจ ไม่ใช่ประโยชน์แห่งความยุติธรรมตามที่ควรจะเป็น
สำหรับการบังคับใช้กฎหมายในทางการเมืองและการบริหารประเทศ ได้มีการทำรัฐธรรมนูญโดยมีบทบัญญัตินิรโทษกรรมให้ตนเองกับพวกที่กระทำผิดกฎหมายบ้านเมืองอย่างชัดแจ้ง มีการตรากฎหมาย ขึ้นใช้เพื่อให้เป็นไปตามความประสงค์ของผู้มีอำนาจ มีการบังคับใช้กฎหมายในลักษณะสองมาตรฐานค่อนข้างชัดเจน ส่งผลให้หลักนิติรัฐและหลักนิติธรรมพังทลายลง
“ขณะนี้เรามีคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ โดยเฉพาะด้านกระบวนการยุติธรรม จึงขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องเร่งสังคายนา และปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมอย่างจริงจังทั้งระบบ ทำให้กระบวนการยุติธรรมไทยเป็นเสาหลักสำคัญของประเทศชาติ และเป็นที่พึ่งสุดท้ายของ ประชาชนอย่างแท้จริง”