30 มิ.ย.63 เวลา 14.30 น. ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้คณะสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทย
เข้าพบ นำโดยนายคฑาวุธ ทองไทย ประธานสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมศิลป์หอไตร นายบริพันธ์ ชัยภูมิ นายกสมาคมนักเพลงลูกทุ่งแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ นายกิตติ ปักษี นายกสมาคมศิลปินตลก (ประเทศไทย) นายประยงค์ ชื่นเย็น ศิลปินแห่งชาติ เพื่อยื่นหนังสือข้อเสนอถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ประกอบด้วย
1. ขอให้รัฐบาลเชื่อมั่นผู้ประกอบการสถานบันเทิง ผับ บาร์ ที่ได้ตระหนัก และเตรียมการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เช่นเดียวกับผู้ประกอบกิจการกิจกรรมอื่น ๆ ที่ได้รับการผ่อนปรนไปก่อนหน้านี้
2. ทบทวนการสนับสนุนเงินเยียวยาเพื่อให้กลุ่มคนบันเทิงได้รับสิทธิเยียวยาหรือมีมาตรการอื่นในการช่วยเหลือ
3.รัฐบาลควรสนับสนุนเงินทุนให้กับคนบันเทิงให้สามารถกู้เงินไปสร้างงานอื่น หรือฟื้นฟูกิจการ แบบปลอดดอกเบี้ยหรือดอกเบี้ยต่ำ
โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จะนำข้อเสนอดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ยืนยันรัฐบาลมีความพยายามอย่างเต็มที่ที่จะช่วยเหลือบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากแพร่ระบาดโรคโควิด-19 รวมถึงกลุ่มสถานบันเทิงต่างๆ
ซึ่งขณะนี้ได้มีการปลดล็อกสถานบันเทิง ผับ บาร์ให้สามารถดำเนินการเปิดกิจการได้แล้ว เพียงแต่ขอความร่วมมือผู้ประกอบการสถานบันเทิง รวมทั้งกิจกรรมการแสดงดนตรีหรือการร้องเพลงในสถานบันเทิง ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐกำหนด ทั้งเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลในการเข้าไปในพื้นที่สถานบันเทิง ผับ และบาร์ ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลไม่ใช้ภาชนะหรือแก้วเครื่องดื่มร่วมกัน การแสดงดนตรี ร้องเพลงต้องเป็นไปในลักษณะชอร์ฟ ผ่อนคลายเบา ๆ ไม่ครึกครื้นจนเกินไป เพื่อไม่ให้ผู้ชมส่งเสียงกรี๊ดและมีการเต้นเบียดเสียดกัน หลีกเลี่ยงการกระจายและการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ได้
เพราะหากมีการติดเชื้อก็จะต้องสั่งปิดทันที สำหรับการผ่อนปรนการแสดงคอนเสิร์ตเอาท์ดอร์หรือคอนเสิร์ตกลางแจ้งนั้น จะต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้วย เพื่อลดความเสี่ยงของการระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ขึ้นมาอีก ทั้งนี้ มาตรการของรัฐบาลคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนในประเทศเป็นสำคัญ