20 มิ.ย. 63 นายแทนคุณ จิตต์อิสระ เลขานุการคณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎรไทย อดีต ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เดินหน้ารณรงค์เพื่อสิทธิผู้อยู่ร่วมกับเชื้อ HIV โดยได้กล่าวว่า แม้จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สิ่งที่เรายังลืมไม่ได้คือการตั้งการ์ดป้องกันการติดเชื้อ HIV สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อหน้าใหม่ในปี 2563 ในประเทศไทยยังไม่มีการสรุปยอดเป็นทางการ แต่สำนักระบาดวิทยา กองโรคเอดส์ กรมควบคุมโรค คาดการณ์ว่าน่าจะอยู่ที่ 4,263 คน
สิ่งที่ทางพรรคเป็นห่วงว่าเรื่องนี้จะทำให้ “การ์ดตก” ในการป้องกัน เมื่อมีมาตรการผ่อนปรนแล้ว อยากให้ประชาชนใช้สิทธิของตัวเองในการดูแลสุขภาพมากขึ้น พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนการแก้ปัญหาการติดเชื้อ HIV โดยให้ผู้ติดเชื้อหน้าใหม่เป็นศูนย์ในปี 2573 ตามนโยบายขององค์การอนามัยโลก ( WHO )
พรรคสนับสนุนการจัดทำนโยบาย Same day ART (Anti Retroviral Therapy) หรือโครงการคลินิกที่รักษาได้ทุกสิทธิ์โดยไม่ต้องเปลี่ยนสิทธิ์ เมื่อกลุ่มติดเชื้อหน้าใหม่ตรวจพบเชื้อสามารถรับการรักษาได้ทันทีไม่ต้องหาสิทธิ์เดิม และสนับสนุนให้ผู้อยู่กับเชื้อทุกคนรับยาต้านจนผลเลือดเป็น Undetectable= Untransmittable (U=U) คือไม่แสดงอาการของโรคแทรกซ้อนและไม่แพร่เชื้อไปยังคู่นอน ทำให้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
นโยบายที่พรรคส่งเสริมอันดับแรกที่สำคัญคือ “การรู้ผลเลือด” เพื่อระวังรักษาสุขภาพก่อนที่จะเกิดการแสดงอาการของโรคและมีผลกระทบระยะยาวต่อร่างกาย และค่าใช้จ่ายในการป้องกันสูงกว่าค่ารักษาพยาบาลมาก โดยในวันที่ 1 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันรณรงค์รู้ผลเลือดหรือ Voluntary Counseling and Testing (VCT Day)
การตรวจเลือด เป็นไปเพื่อรับยาป้องกันการติดเชื้อก่อนมีเพศสัมพันธ์ หรือ PrEP ได้ด้วย เปลี่ยนภาพการตีตราคนรับ PrEP ให้มองว่าเขาป้องกันตัวเองและคู่นอนแทน เช่นที่ทางฝรั่งให้เปรียบ PrEP เหมือนยาคุม และเมื่อมีความเสี่ยงมา สามารถตรวจเลือดเพื่อรับยา PEP คือยาที่ต้องกินหลังผ่านภาวะเสี่ยงภายใน 72 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
นวัตกรรมเกี่ยวกับยา PrEP ตัวใหม่ที่กำลังจะออกมาใช้คือ PrEP ฉีด ซึ่งฉีด 8 สัปดาห์ต่อหนึ่งครั้ง หากมีการนำเข้ามาใช้ในไทย พรรคสนับสนุนให้เป็นสวัสดิการฟรีรูปแบบหนึ่ง ปัญหาหนึ่งที่พบคือ ปัจจุบันอัตราผู้ติดเชื้อหน้าใหม่เป็นเยาวชนเพิ่มมากขึ้น รวมถึงกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดแบบเข็ม (IDU) ทำให้พรรคมีแนวคิดที่จะผลักดัน “คลินิกประชาธิปัตย์” เพื่อเป็นคลินิกที่ปลอดภัยส่วนตัว และเป็นความลับ เป็นมิตร สำหรับกลุ่มเยาวชนและกลุ่ม IDU ให้สามารถเข้ามาตรวจ รับการปรึกษารวมถึงการขอรับยา PrEP ได้ฟรี
ในส่วนของ IDU ก็มองเป็นผู้ป่วยที่จะต้องเข้ารับการรักษาการติดยาเสพติดด้วยเช่นกัน อีกทั้งจากโครงการที่พรรคจะจัดอบรม Chief Gender Equality Officer (CGEO) และนักสิทธิอาสา LGBT ที่ดูแลการเลือกปฏิบัติด้วยความไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ สามารถนำมาเพิ่มการอบรมเรื่องเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยให้กับเยาวชน การยินยอมพร้อมใจและป้องกันการถูกล่อลวง
ซึ่งการผลักดันคลินิกประชาธิปัตย์จะมีการวางแนวทางบริการให้เหมาะสมกับทุกกลุ่มประชากรทุกเพศทุกวัย รวมถึงกลุ่มผู้ค้าบริการทางเพศด้วย
ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการต่อไป สำหรับนโยบายในภาพกว้าง พรรคสนับสนุน พ.ร.บ. ขจัดการเลือกปฏิบัติต่อบุคคล พ.ศ…. ซึ่งคุ้มครอง 9 กลุ่มอัตลักษณ์เปราะบาง หนึ่งในนั้นคือผู้อยู่ร่วมกับเชื้อ HIV หากกฎหมายนี้ออกจะมีมาตรา 7 ในการคุ้มครองห้ามแบ่งแยก กีดกัน จำกัดสิทธิเสรีภาพหรือสิทธิ์ประโยชน์ใดๆ ด้วยเหตุแห่งความแตกต่างของบุคคล ที่สำคัญคือ การล่วงเกิน คุกคาม ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไม่สามารถกระทำได้ ซึ่งเท่ากับเราส่งเสริมกฎหมายที่ปกป้องดูแลพวกเขาไม่ให้ถูกกลั่นแกล้งรังแกด้วย
หากใครถูกละเมิดสามารถร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองและช่วยเหลือบุคคลซึ่งถูกเลือกปฏิบัติ (คชป.) กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรมได้ สำหรับกรณีผู้อยู่ร่วมกับเชื้อ HIV พรรคยืนยันสนับสนุนแนวทางให้ได้รับการบริการสุขภาพจนภาวะเลือดเป็น U=U ไม่มีโรคแทรก เพื่อให้ได้การรับรองผลเลือดว่า “ร่างกายแข็งแรง” ลดการตีตราว่าผลเลือดเป็นบวกหรือลบ และไม่เป็นเหตุให้ถูกปฏิเสธการจ้างงาน ยกเว้นงานที่มีความเสี่ยงคืองานที่ต้องสัมผัสเลือด ห้ามการเปิดเผยผลเลือด รวมถึงให้สามารถทำประกันชีวิตได้ แต่ต้องมีเงื่อนไขที่ต้องกินยาต้านและตรวจสอบติดตามผลเลือดสม่ำเสมอ เพราะถ้าหยุดยา ค่า viral load มีโอกาสเพิ่มจนเกิดโรคแทรกและแพร่เชื้อได้อีก และสร้างความตระหนักอย่างสำคัญว่า การมีผลเลือดเป็น U=U ไม่ใช่ใบอนุญาตให้มีเพศสัมพันธ์แบบสด มันเป็นนโยบายสำหรับคู่รักผลเลือดต่าง
พรรคประชาธิปัตย์ยุคใหม่เรามุ่งเน้นในเรื่องการให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน ทุกอัตลักษณ์มีคุณค่าเท่าเทียมกัน ซึ่งต้องสร้างความเข้าใจถึงความเท่าเทียมตั้งแต่การศึกษา การสื่อสาร ที่ต้องล้างภาพลบของกลุ่มอัตลักษณ์เปราะบาง สร้างภาพใหม่ที่ดี ไปจนถึงสร้างนโยบายหรือกฎหมายที่เหมาะสมกับทุกกลุ่มอัตลักษณ์
สำหรับนโยบายเซ็กส์ทอยเสรีซึ่งเป็นที่พูดถึงอยู่นั้น พรรคมองว่ามันมีความขัดแย้งทางความคิดระหว่างขั้วเสรีนิยมและขั้วอนุรักษ์นิยมอยู่ แต่เซ็กส์ทอยคือสิทธิส่วนบุคคล และเป็นวัตถุในการระบายความต้องการโดยไม่ต้องเบียดเบียนใคร หากถูกกฎหมายก็จะมีการควบคุมคุณภาพของสินค้าได้ด้วย แต่หากจะมีการแก้กฎหมายเรื่องนี้ จำต้องมีการรับฟังความเห็นตามรัฐธรรมนูญ ม. 77 ด้วยเพื่อความเป็นประชาธิปไตย
เรื่องการแก้ไขปัญหาการข่มขืนที่สนับสนุนแนวคิดฉีดยาให้อาชญากรหมดสมรรถภาพทางเพศ จำต้องศึกษาข้อดีข้อเสียอย่างรอบด้าน เพราะเราต้องมองอีกมุมหนึ่งว่า จะมีผลให้อาชญากรเหล่านั้นเกิดความคุมแค้นต่อสังคมจนทำอันตรายผู้อื่นต่อไปได้ ทั้งการล่วงละเมิดทางเพศวิธีอื่นหรือไม่ล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่ พรรคเห็นว่า สิ่งที่สำคัญในการป้องกันการข่มขืนคือการบ่มเพาะตั้งแต่ชั้นการศึกษาที่สอนให้เคารพเพศอื่น และรู้จักการมีเพศสัมพันธ์อย่างยินยอมพร้อมใจ (consent) รวมถึงผู้ตกเป็นเหยื่อต้องเข้าใจถึงลักษณะของพฤติกรรมที่เป็นการล่วงละเมิดตัวเองหรือล่อลวง เพื่อป้องกันตัวได้ มีกระบวนการปกป้องดูแลที่รัดกุม ทำให้เขากล้าร้องเรียนเมื่อถูกล่วงละเมิด เพราะอัตราการล่วงละเมิดทางเพศส่วนใหญ่เกิดจากคนใกล้ตัว เช่น คนในครอบครัว ทำให้เหยื่อมีความกลัว
การค้าประเวณีถูกกฎหมายก็เป็นสิ่งที่เรียกร้องกันมากขึ้น เพื่อคุ้มครองสวัสดิการของกลุ่ม sex worker เองในแง่สุขภาพ เช่น การขึ้นทะเบียนที่เป็นความลับกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อติดตามมอนิเตอร์ผลเลือดได้มากกว่าสิทธิ์ 2 ปีต่อครั้ง และรับสวัสดิการการป้องกันการรักษาได้ฟรี และคุ้มครองความปลอดภัยของ sex worker ที่ถูกปฏิบัติด้วยความรุนแรงหรือละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้สามารถร้องเรียนเจ้าหน้าที่รัฐได้ พรรคเห็นว่าการทำให้ถูกกฎหมายเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่การเป็น sex worker เป็นอาชีพที่ยังถูกตีตราในสังคมสูงมาก ดังนั้น ต้องมีระบบรักษาความลับของเขาเช่นเดียวกับการรักษาความลับเรื่องผลเลือด ผลตรวจสุขภาพเช่นกัน ซึ่งหากมีการผลักดันกฎหมายก็อยากให้ใช้กลไกรับฟังความเห็นตาม ม.77