‘หลวงพ่อสายทอง’ #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

ปีใหม่ไปไหนกันจ๊ะ?
-กลับไปเยี่ยมบ้านตามภูมิลำเนา
-ไปท่องเที่ยว-พักผ่อน สุดแต่ตีนพาใจไปเท่ๆ
-นอนทอดหุ่ยบิดขี้เกียจอยู่กับครอบครัว และ
-ไปไหว้พระ-ทำบุญ!

ก็ว่ากันไปตามอัธยาศัยและเหตุปัจจัยของแต่ละชีวิตผู้คน และเชื่อแน่ว่า ไม่มีใครที่ตั้งใจ ว่าปีใหม่ จะไปทำชั่วทำเลวทราม จริงมั้ย?

เรียกว่าวันปีใหม่ เป็นวันที่ทุกคน (อยาก) มีความสุข อยากให้ชีวิตใสๆ เหมือนดอกไม้บานยามเช้า
และหลายๆ คน “แอบตั้งใจ”……

“อะไรๆ ที่เคยทำตัวเหลวไหล-ไม่ดีแต่ปีก่อนๆ ขอถือฤกษ์วันปีใหม่นี้ ตั้งอก-ตั้งใจ “กลับเนื้อ-กลับตัว”
จาก “มืดบอด” เดินในทางอบาย ด้วยหลงผิด-ก้าวพลาด
เป็นคน “จิตสว่าง” เดินในทางสะอาด…..
ออกห่างจากทางอบายทำลายชาติและสังคม มุ่งแต่สิ่งเป็นมงคลชีวิต เพื่อประโยชน์ชาติและประโยชน์สุขของตัวเองและผู้อื่น

โบราณท่านว่า “ความชั่วนั้นหัดง่าย”
แม้ไม่ต้องหัดก็ชั่วได้ เพราะความชั่วเป็นส่วนหนึ่งของ “เชื้อเกิด” มนุษย์ นอนเนื่องอยู่ในสันดานเป็นทุนเดิม

ส่วนความดี “ต้องฝึกกาย-ฝึกใจ” เพื่อไม่ทำอะไรไปตามอารมณ์ที่ “ปราศจากสติ” ควบคุม-กำกับ

เอาเป็นว่า ผมขออนุโมทนากับทุกท่าน ที่ตั้งใจ “ปีใหม่-จะเป็นคนใหม่” และอยากบอกว่า….
แค่ท่านตั้งใจ “จะเป็นคนดี” ใจที่ตั้งนั้น เป็น “จิตบริสุทธิ์” สวรรค์ก็เปิดรับท่านแล้ว

“พระพุทธองค์” ตรัสรับรองไว้ว่า…….
“จิตเต สังกิลิฏเฐ ทุคติปาฏิกังขา”
เมื่อจิตเศร้าหมอง ไม่ผ่องใส ทุคติ(นรก)เป็นที่ไป

“จิตเต อสังกิลิฏเฐ สุคติปาฏิกังขา”
เมื่อจิตผ่องใส ไม่เศร้าหมอง สุคติ(สวรรค์)เป็นที่ไป

ดังนั้น เรื่อง “สติ” นี้สำคัญมาก
ท่านใด มีสติควบคุม ในทุก “การพูด การคิด การทำ”

บอกได้เลย….
“สุคติ” คือสวรรค์ จะเป็น “คติสุดท้าย” ของชีวิตท่าน!

เรือ มีหางเสือควบคุม รถ มีพวงมาลัยควบคุม เครื่องจักรทุกชนิด มีปุ่มควบคุม จึงปลอดภัย ไปตรงทาง

คนก็เช่นกัน มี “สติ” เป็นตัวควบคุม ชีวิตจึงจะปลอดภัย ไปตรงทาง

ฉะนั้น การ “ฝึกสติ” นี่สำคัญนัก
เพราะ “จิตมนุษย์” นั้น มีอารมณ์เป็นอาหาร จิตต้องกินอาหารตลอด ๒๔ ชั่วโมง ทั้งหลับ-ทั้งตื่น

แล้ว “อารมณ์” คืออะไร?
คือ “สิ่งที่จิตเข้าไปรู้” มีทั้งอารมณ์เกิดจากกาย เกิดจากใจนึกคิด ซึ่งมีทั้งดีและไม่ดี

ดังนั้น เราต้องฝึกใช้ “สติ” เข้าไปควบคุมจิต เพื่อคิดวิเคราะห์-แยกแยะ “สิ่งที่จิตรับรู้” ว่า….
“ไหนดี-ไหนไม่ดี, ไหนควรพูด-ควรทำ, ไหนไม่ควรพูด-ไม่ควรทำ” คร่าวๆ ก็ประมาณนี้ รู้มากปวดหัวเปล่าๆ

ผมที่ทำเป็นรู้ ทั้งที่งูๆ ปลาๆ ก็ยังปวดหัวเลย ฉะนั้น เอาเท่านี้พอ

โปรดระลึกไว้ทุกลมหายใจเข้า-ออกว่า “สติคือหางเสือของเรือชีวิต” ดังนั้นจง “ใช้สติคุมจิต” อย่าปล่อยให้อารมณ์เข้าสิงจิต ในการพูด-การคิด-การทำ
แล้วชีวิตจะไม่ผิดพลาด …..

ไม่จำเป็นต้องไปขอพรจาก “หลวงพ่อสมหวัง” วัดไหนหรอก แค่ฝึกสติคุมจิตให้เป็นนิสัย
“พรประเสริฐ” ก็เกิดกับชีวิต กับครอบครัว กับคนรอบข้าง กับเพื่อนร่วมงาน!

สำหรับคนไทย ปีใหม่ “สิ่งหนึ่ง” ที่ขาดไม่ได้ คือการทำบุญ เข้าวัด ไหว้พระ
ก็สาธุด้วยครับ

การทำบุญ “ตัวบุญ” อยู่ที่ไหน ท่านรู้มั้ย?
อยู่ที่ทำแล้ว ใจปีติ ใจเบิกบาน กายเบา-จิตเบา แม้ขณะหนึ่งก็ตาม นั่นละ “ตัวบุญ” เกิดกับท่านแล้ว!

ชาวบ้านส่วนใหญ่ ยังหลงเข้าใจว่า ทำบุญนั้น ต้องทำ “กับพระ-กับวัด”
ไม่ผิดครับ แต่ไม่ใช่!

ทำกับพระ กับวัด กับคนลำบาก-ตกทุกข์ได้ยาก แม้กระทั่งกับสัตว์ กับสังคม เรียกว่า สิ่งที่เราทำไปนั้น …..

“เป็นประโยชน์เกื้อกูลทั้งมนุษย์และสัตว์ให้พ้นทุกข์ พ้นยาก พ้นจากความลำบาก ซึ่งเราทำแล้ว เขามีความสุข
นั่นเป็นบุญเหมือนกันหมดครับ!

อย่าง “ตูน บอดี้สแลม” วิ่งจากใต้จรดเหนือ เพื่อหาเงินสร้างโรงพยาบาล นั่นคือการทำบุญ-ทำกุศลของตูน อานิสงส์มหาศาล

กัน จอมพลัง, บุ๋ม-ปนัดดา, ฝันดี-ฝันเด่น, บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์, กลุ่มชาวบ้านภาคเอกชนตราด และอีกหลายร้อยท่าน ขอโทษ ที่ผมเอ่ยนามไม่ถ้วน

การสละประโยชน์ตน เพื่อชาติบ้านเมือง ช่วยชาวบ้านถูกน้ำท่วมที่หาดใหญ่ ก็ดี เป็นหน่วยสนับสนุนทหาร ทั้งที่อีสานใต้และที่ตราด ก็ดี

นั่น “ได้บุญ” กันทุกคน เห็นได้ชัด แต่ละคนล้วนมุ่งมั่น-ศรัทธาเสียสละประโยชน์ตนเพื่อประโยชน์สังคมชาติ
สีหน้าแต่ละคนบ่งบอกใจปีติ อิ่มเอิบ ที่ได้ช่วยทหาร-ช่วยคน-ช่วยชาติบ้านเมือง

แต่ผมว่านะ…
การทำบุญ สร้างวัด สร้างโบสถ์ อะไรต่างๆ เหล่านี้ จริงอยู่ ได้บุญ-ได้กุศลแน่

แต่ผมพินิจแล้ว ทุกวันนี้ เราไม่ขาดแคลน “วัด-โบสถ์-ศาสนสถาน”
ที่ขาดแคลน คือ “โรงพยาบาล” ที่รักษาคนเจ็บป่วย!

ดังนั้น ปีใหม่นี้ ถ้าท่านอยาก “สร้างบุญ-สร้างกุศล” มาช่วยกันสร้าง “โรงพยาบาล” เถอะครับ!
โรงพยาบาลไหนก็ได้ เห็นเขาประกาศรับบริจาคเพื่อสร้างอาคารใหม่บ้าง ซื้อเครื่องมือแพทย์บ้าง จะมาก-จะน้อย ก็ทำไปเถิด

เดี๋ยวนี้สะดวก ใช้สแกนผ่านมือถือ ตัวเลขบริจาคจะไปอยู่ที่สรรพากรเลย ยิ่งบริจาคให้โรงพยาบาล ลดหย่อนภาษีได้ ๒ เท่า

ทุกวันนี้….
“โรงพยาบาล” มีไม่พอรองรับผู้คนที่เจ็บป่วย ยิ่งต่างจังหวัด-ต่างอำเภอที่ห่างไกลด้วยแล้ว ชาวบ้านเจ็บป่วยแต่ละที
“เมรุเผาศพ” ตามวัด มีมาก-หาง่าย
แต่หา “โรงพยาบาล” ซักแห่ง ต้องตะลอนกันไปเป็นร้อยกิโลหรือมากกว่านั้น กว่าจะได้รับการรักษา!
“สร้างโบสถ์” ใช้สำหรับพระทำสังฆกรรม

แต่ “สร้างโรงพยาบาล” ได้ใช้ทั้งพระ ทั้งชาวบ้าน ทั้งเศรษฐี ผู้ดี ไพร่ ยาจก วณิพก ขอทาน คนดี-คนไม่ดี
เรียกว่าถ้วนหน้า เจ็บป่วยขึ้นมา “ถึงหมอไว” ที่หนักก็รอดตาย ที่เจ็บเล็กน้อย ก็หายเลย

ท่านก็คิดดูซิว่า “สร้างโรงพยาบาล” ได้ช่วยชีวิตคน จะมีอานิสงส์ขนาดไหน?

นี่…วันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๙ นี้ ….
ผมก็จะไปร่วมทำบุญ “สร้างโรงพยาบาล” เหมือนกัน
คือที่ “โรงพยาบาลบ้านผือ” จังหวัดอุดรธานี

ผู้อำนวยการโรงพยาบาล “นายชัยรัตน์ เจริญสุข” ท่านจะประกอบพิธี “วางศิลาฤกษ์” อาคารสนับสนุนบริการ“
ทั้งนี้ ด้วยเมตตาของ “หลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม” วัดป่าห้วยกุ่ม ชัยภูมิ ท่านรับเป็น “องค์อุปถัมภ์”

“องค์อุปถัมภ์” พูดกันตรงๆ ก็คือ ทางการพึ่งบารมี “หลวงพ่อสายทอง” ช่วยหาเงินมาสร้างอาคารผู้ป่วยเพิ่มเติมให้นั่นแหละ!
“ก่อสร้างเสร็จแล้ว” ก็มอบให้กับ “โรงพยาบาลบ้านผือ”

“หลวงพ่อท่านจะหาเงินจากที่ไหน?”
ก็ระดมทุนจากผู้เล็งเห็นประโยชน์ในการสร้างโรงพยาบาลและผู้มีศรัทธาต่อองค์ “หลวงพ่อสายทอง” เป็นหลัก

อาคารที่หลวงพ่อสร้างให้ “โรงพยาบาลบ้านผือ” ครั้งนี้
ก็มี “หอสงฆ์อาพาธ” ผู้ป่วยใน ๖ ชั้น หลังใหม่ หนึ่งหลัง
และ “อาคารสนับสนุนบริการ” ๓ ชั้น อีกหนึ่งหลัง
ก็ใช้เงิน “หลายร้อยล้านบาท” ก็มากเอาการอยู่ ….

และก่อนจะวางศิลาฤกษ์ “วันที่ ๑๓ มกรา.” ตามตารางงาน มีดังนี้

วันที่ ๑๒ มกรา. ๖๙ หลวงพ่อจัดพิธี “ทอดผ้าป่าสามัคคี” ๑๖.๐๙ น. สมโภชกองผ้าป่า สมทบปัจจัยผ้าป่าสามัคคี

๑๓ มกรา. ๖๙
๐๗.๐๐ น. ร่วมทำบุญตักบาตร
๐๘.๐๐ น. ถวายภัตตาหาร
๐๙.๓๙ น. ถวายผ้าป่า
๑๐.๐๙ น. พิธีวางศิลาฤกษ์อาคารสนับสนุนบริการ

ฉะนั้น ปีใหม่นี้ ผมขอเชิญชวนให้ท่านร่วมสร้างโรงพยาบาลบ้านผือ เป็นการ “สร้างบุญ-สร้างกุศล” เกื้อกูลชาวบ้านผู้เจ็บป่วย ตลอดถึงพระสงฆ์-สามเณรผู้อาพาธ

การร่วมกันสร้างโรงพยาบาลแห่งนี้ และไม่ว่าโรงพยาบาลไหนๆ มีอานิสงส์มหาศาลเหมือนๆ กัน

เพราะทำแล้ว ด้วย “จิตให้” กระแสคลื่น “พลังบวก” จะเกิดในตัว สร้าง “จิตสะอาด” ด้วยจิตสะอาดนั้น จะทำให้เป็นผู้ “ปราศจากโรค”

พระพุทธองค์ตรัสว่า “การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ”
และ “ลาภอันประเสริฐ” นี้
จะมี-จะบังเกิดกับผู้ “จิตสะอาด” อันเป็นผลจากการ “ให้”

ท่านใดจะไปร่วมทอดผ้าป่า ทำบุญตักบาตรถวายหลวงพ่อสายทอง เพื่อความเป็นมงคลชีวิต ก็ไปได้ตามวัน-เวลานั้นนะครับ

สำหรับท่านที่ไม่ได้ไป….
แต่ต้องการร่วมสร้างบุญ-สร้างกุศลกับหลวงพ่อสายทอง สร้างหอสงฆ์อาพาธ, อาคารผู้ป่วยในและอาคารสนับสนุนบริการ

ร่วมบริจาคสมทบทุนผ่านบัญชี “ธนาคารไทยพาณิชย์” ชื่อบัญชี “วัดป่าห้วยกุ่ม” เลขบัญชี ๖๔๗-๒-๔๒๗๖๔-๘

นอกจาก “โรงพยาบาลบ้านผือ” แล้ว ……

ด้วยเมตตาบารมีหลวงพ่อ ท่านยังได้ “สร้างโรงพยาบาล”ตามจังหวัดต่างๆ สำเร็จเรียบร้อยไปแล้ว หลายต่อหลายสิบแห่ง!

เสร็จจาก “โรงพยาบาลบ้านผือ” ผู้บริหารโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่ภูเก็ต ก็นิมนต์ท่านเป็น “องค์อุปถัมภ์” เพื่อ “สร้างโรงพยาบาล” ต่ออีก

สำหรับผม บอกตรงๆ บุญไม่ถึงที่จะได้พบหลวงพ่อ

ทราบแต่ “วัตรปฏิบัติ” จากคำบอกเล่าว่า หลวงพ่อไม่ชอบสุงสิงกับผู้คน มุ่งบำเพ็ญ “สมณธรรม” เป็นหลักใหญ่
พูดชัดๆ คือ หลวงพ่อไม่ใช่ “พระสังคม”

ท่านไม่ต้องการเป็น “พระดัง” เป็นดั่ง “อริยสงฆ์” ทั้งหลายที่ “มุ่งปฏิบัติ” ไม่นิยมหาแสง ดังนั้น “ยากนัก” ที่ใครจะพบท่านได้ง่ายๆ

ก็ครั้งนี้แหละ วาสนาผมคงถึง…..
มีโอกาสได้กราบร่วมทำบุญสร้างโรงพยาบาลกับหลวงพ่อ นับเป็นมงคลชีวิตประเดิมศกใหม่

พูดถึงโรงพยาบาลก็นึกถึง “โรงพยาบาลราชวิถี” ในกรุงเทพฯ
“คุณหมอไพโรจน์” ท่านได้รับมอบหมายให้จัดหาทุนสร้าง “อาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉิน” สูง ๑๒ ชั้นบนดิน และ ๒ ชั้นใต้ดิน

พอจะเสร็จ ก็เกิดแผ่นดินไหวเมื่อต้นปี ก็เสียหายบางส่วน ต้องซ่อมแซมกันอีก
ตอนนี้ เปิดให้บริการครบทุกชั้นในการป้องกันและดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินทุกรูปแบบแล้ว

แต่ก็นั่นแหละ ใช่ว่าจะสมบูรณ์เสียทีเดียว ยังต้องใช้เงินเพื่อการก่อสร้างและการจัดหาอุปกรณ์ “เครื่องมือแพทย์” อีกจำนวนมาก

ตอนนี้ ทางโรงพยาบาลราชวิถีประกาศ ว่า….
ท่านใด “บริจาค ๓ แสนบาท” จะได้จารึกชื่อประกาศเกียรติคุณใน “อาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉิน” และลดหย่อนภาษีได้ ๒ เท่า

โอนเงินเข้า “มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี” ธนาคารกสิกรไทย ๐๒๙-๒-๖๐๕๗๔-๙
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ “มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี” โทร ๐๙-๕๐๖๗-๙๐๕๗ หรือไลน์ ID:@rajfd นะครับ

วันนี้ เรื่องบุญ-เรื่องกุศลล้วนๆ

โรงพยาบาลหลวงนี่ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เห็นแล้วอนาถใจ คนป่วยแออัดยัดเยียดในทุกแผนก

กับคนป่วยก็สงสาร กับแพทย์-พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ ก็สงสาร ทำไมคนไทยถึงป่วยกันมากมายขนาดนี้?

ฉะนั้น ท่านใดพอจะจุนเจือช่วยเหลือคนเจ็บ-คนป่วยได้ ถ้าต้องการสร้างบุญ-สร้างกุศล

การ “บริจาคเงินให้โรงพยาบาล” ถือว่าเป็น “การให้” มีอานิสงส์สูงสุด

สุดท้าย ผมก็ขอ “สวัสดีปีใหม่ ปี ๒๕๖๙” กับทุกท่าน
พรนั้น ไม่ต้องไปขอใคร หรือไปให้ใคร

“ตัวเราเอง” นี่แหละ

เพียงใช้ “สติคุมจิต” ไว้เรื่อยๆ สิ่งที่จะเกิดตามมา มันจะ “เหนือพร” ทั้งปวง!

เพราะพรนั้น “ขอ” ไม่เกิดผล
ทำเองด้วย “ฝึกสติ” จะเกิด “ปาฏิหาริย์”!

เปลว สีเงิน
๑ มกราคม ๒๕๖๙

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
โจรไซเบอร์ ปั่นข่าวปลอมออมสินปล่อยสินเชื่อเพื่อคุณ ปลอดดอกเบี้ย ผ่านเพจ Aomsin Plus ติดอันดับหนึ่ง
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ออกโรงเตือนประชาชนระวังโจรไซเบอร์ หลังข่าวปลอมสัปดาห์ล่าสุด
Read More
0 replies on “‘หลวงพ่อสายทอง’ #เปลวสีเงิน”