เปลว สีเงิน
ช่วงนี้…
เสียง “โม้เพื่อชาติ” ของนักเลือกตั้ง ผู้สร้างปัญหาให้ชาติ
เริ่มดังกลบ “เสียงนักรบ”ในสมรภูมิเลือด
ที่กำลังเอาชีวิตเข้าแลกอธิปไตย
เพื่อให้พวกนักเลือกตั้ง “ชังชาติ” ได้มีที่นั่ง-ที่ยื่นทำหน้าที่ “ชักน้ำเข้าลึก-ชักศึกเข้าบ้าน” เพื่อกัดกร่อนสถาบัน สู่การแบ่งประเทศกันไปครอง!
การเมืองเรื่อง “กินบ้าน-กินเมือง” ผ่านเลือกตั้ง ๘ กุมภา.๖๙ ก็ให้เขาว่ากันไป
แต่ตราบใด บ้านเมืองยังบริหารโดย นายกฯ อนุทิน เป็นหนึ่งเดียวกับกองทัพและประชาชน
ก็ยังมั่นใจในทิศทางปฎิบัติเพื่อ “เอกรัฐ-เอกราช” ของชาติไทย ได้ โดยไม่ต้องให้ใครมาชี้นิ้วสั่ง
เพราะช่วงนี้ “ทั้งจีน-ทั้งสหรัฐฯ” เข้ามาบีบไทยให้ “หย่าศึก” กับเขมร หนักเหลือเกิน
หนักจนประชาชนชัก “หวั่นไหว” ว่า รุมแซนด์วิชกันขนาดนี้
“รัฐบาล-กองทัพ” จะดำรงจุดมุ่งหมาย “กำจัดเขมรให้สิ้นซากจากความเป็นภัย” ได้มั่นคงเหมือนเดิมหรือไม่?
เมื่อวาน (๑๙ ธ.ค.๖๘) “นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว” รมว.ต่างประเทศ บอกนายกฯ ว่า
“ผมจะรับมือ (รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ-จีน) เอง แล้วจะรายงานให้ทราบ”
ทางด้านนายกฯ ท่านก็ชิลๆ ในมาดจิ๊กโก๋วังหลัง ตอบนักข่าว
“ไทยไม่เคยเป็นฝ่ายรุกราน หากการหารือ บอกว่าให้มีการหยุดยิง ก็ต้องไปบอกฝ่ายกัมพูชา ที่เป็นฝ่ายเริ่ม ให้ดำเนินการที่เป็นรูปธรรม จนกว่าจะทำให้ฝ่ายไทยรู้สึกว่า ความเป็นอันตรายต่อประเทศไทยนั้นหมดไป”
“ชัด-ครบ-จบประเด็น”!
ทั่วโลกเขาทึ่งนะ ว่านายกฯ และกองทัพไทย ไปกิน “ดีหมี-ดีเสือ” มาจากไหน ขนาด ๒ ค่ายผู้นำอำนาจโลกลงมาหย่าศึกเอง
แต่นายกฯ อนุทินยืนกราน….
“ไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ถ้าจะให้หยุดยิง ก็ต้องไปบอกเขมรที่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน”!?
“ผู้นำ” มันต้องอย่างนี้
ไม่จำเป็นต้องไปเสริมบารมีให้เขาโดยสยบยอมไปทุกเรื่อง ทั้งที่เราไม่ผิด ซึ่งนั่นมันมิใช่วิสัย “ไทย-เอกราช” แล้ว!
เผอิญวันนี้ มีคน “พาดพิงผม” ในเรื่องนายกฯ ต้องนำมาแขวนซะเลย ดังนี้
………………………………………………
“ทิดโส โม้ระเบิด เกษตรดิจิทัล”
#ผมไม่ได้ชอบคุณอนุทิน!!
หลายเรื่องในใจผมบอกว่าไม่กาให้พรรคนี้ และแอบนอยคุณจ๋าด้วยซ้ำ
แต่… ไม่ได้ปิดประตู
ผมเห็นแกเป็น “จิตอาสา” มานานเกินสิบปี
ผมเห็นแกแสดงท่าทีแบบบ้านๆ กับชาวบ้านที่มีปรากฏในภาพข่าว
ผมเห็นแกยอมรับความผิดพลาด ยอมรับคำด่า และกล้าขอโทษ
ผมเห็นความจริงใจของคนๆ หนึ่งต่อเหตุการณ์ต่างๆ
ผมเห็นแกประสาน “มืออาชีพ” มาร่วมดูแลบ้านเมืองแบบจริงจัง
ภาพหนึ่ง ที่แกกินข้าวกล่องง่ายๆ
ภาพหนึ่ง ที่แกคุยกับคนขายของเก่าและยัดเงินหรือสิ่งใดให้ไป
ภาพหนึ่งที่แก….ดูเอาเองที่ผมเอามาลง ฯลฯ
เฮ้ย! หรือผมคิดผิด
วันนี้ ตาผมเปิดกว้างขึ้น
ใจผมเปิดรับมากขึ้น
ครอบครัวผมพูดเป็นเสียงเดียวกัน
“รอบนี้ขอให้ภูมิใจไทย”
“เคยเลือกผิดพลาดมานานแล้ว”
“สี่ปีเอง หากเลือกผิดค่อยว่ากัน”
“อาจดีกว่าที่ผ่านมา”
นี่คือเหตุผลที่แต่ละคนบอกกล่าว
ตกลงครับ….
ผมเห็นด้วย และจะเลือก “ภูมิใจไทย” แน่นอน
ผมอยากเห็นคนแบบท่านศุภจี อยากให้ท่านศุภจีมาสานงานต่อ-ก่องานใหม่นั่นแล คือความหวังของคนค่อนประเทศแน่นอน
ผมอยากเห็นการทูตแบบ “ท่านสีหศักดิ์”
ผมอยากเห็นการคลังแบบ “ท่านเอกนิติ”
และผมอยากเห็นกระทรวงอื่นๆ ที่รวมคนเก่ง คนดี คนรักบ้านเมืองมาทำงาน
– การเมืองระหว่างประเทศ ท่านนายกอนุทิน ไม่เป็นรองอเมริกาหรือชาติอื่น
– การเมืองในประเทศ เริ่มฉายแววว่า มีอนาคตแน่นอน
– เศรษฐกิจ มีความเป็นบวกมากขึ้น
– เรื่องราวอื่นๆ โดยเฉพาะความกล้าปากแจ๋วกับสื่อชรา มันคือได้ใจไปเลยครับ
ผมเคยแอบคิดในใจ
“ป๋าเปลว สีเงิน” รับโบนัสอะไรมาหรือเปล่า ทำไมเชียร์น้ำเงินจัง แต่วันนี้ ผมเข้าใจแล้วครับ ขออภัยที่คิดผิดไปนะป๋า #เปลวสีเงิน
สารภาพ “ผมเริ่มรักผู้ชายคนนี้”
“อนุทิน ชาญวีรกูล” ว่าที่นายกฯ คนใหม่
ใครคิดว่าผมอวย จงตบปากตัวเองสามครั้ง!
วันนี้ ผมเปิดหน้าแล้วครับ ไม่อายที่จะอวย เพราะตอนนี้ นี่ คือ “ดีที่สุดแล้ว”
………………………………….
เมื่อ “ทิดโส โม้ระเบิด” นำร่อง ก็ขอ “เปิดกรุ” ไปเลยซักวัน
คุณ “Ann Lim” โพสต์ข้อความว่า
“ไม่เคยเลือกภูมิใจไทย แต่ครั้งนี้จะเลือก”
แล้วนำข้อความที่คุณ “กวีเหลวไหลแท้” โพสต์ มาแชร์ต่อ
…………………………..
“กวีเหลวไหลแท้”
“อนุทิน”
เห็นเขาเล่นการเมืองมาหลายปีแล้ว ในภาพลักษณ์ที่รับรู้คือ ไม่มีอะไรโดดเด่นนักในเรื่องความฉลาด หรือความสามารถด้านการจัดการหรือแนวคิดวิสัยทัศน์ระดับต้องจับตามอง
เขาเป็นคนเรื่อยๆ แบบคนชั้นกลาง
เรียนจบปริญญาตรี ปริญญาโท เหมือนเราๆ ทั่วไป
การไม่เป็นคนเวอร์วังในไลฟสไตล์ ทำให้เราลืมไปเลยว่าเขาคือลูกเศรษฐีคนหนึ่งของเมืองไทย
แต่เมื่อเขารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลายอย่างในตัวเขาพลันส่องประกายแสงเจิดจ้าออกมาถนัดถนี่
และเช่นเดิม แสงที่สาดส่องประหนึ่งดาวฤกษ์ของเขา ก็ไม่ได้มาจากความฉลาดเฉลียวไร้ใครเทียบเทียมแต่อย่างใดไม่
แต่เขามี “เซนส์” ที่ดี
มีความรักชาติ เสียสละ รักความถูกต้อง เชื่อมั่นในตัวเอง เชื่อมั่นในศักดิ์ศรีความเป็นนายกรัฐมนตรีของไทย
และไม่หงอให้ใคร ถ้ามั่นใจในความถูกต้องของตัวเอง
การแสดงอาการสบายๆ ล้วงกระเป๋ากางเกง ขณะพูดคุยกับทรัมป์ การกล้าขายข้าวทื่อๆ ให้สี จิ้นผิง
ปฏิกิริยาตอบโต้เขมร เมื่อพวกนั้นผิดสัญญาสันติภาพ การรับมือกับประธาธิบดีทรัมป์อย่างมั่นคงในหลักการ ฯลฯ
ทั้งหมดนี้ ได้ใจผู้เขียน
และมั่นใจว่า ได้ใจคนไทย ที่เคยจำเป็นต้องยอมรับอย่างเงียบงัน ในการที่ไทยประนีประนอมทางการทูตมากเกินไป ในอดีตที่ผ่านมา เมื่อเผชิญกับชาติมหาอำนาจ
วันนี้ “นายกอนุทิน” ได้เปิดให้เห็นภาพ “บานหน้าต่าง” ของประเทศไทย อีกด้าน
ซึ่งเป็นด้านที่เรา “มองไม่เห็นด้วยตัวเอง” ว่า ประเทศอื่นๆ ก็มองเห็นความแข็งแกร่ง ความสำคัญของเราอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
จะว่าไป ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี….
ก็ใช่ว่าจะจำเป็นต้องเป็น “ยอดมนุษย์” สุดเก่งกาจสามารถอะไรนักหรอก
แค่เป็นคนดี คิดดี-ทำดี ยึดถือประโยชน์ประเทศชาติเป็นที่ตั้ง
ไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัวแอบแฝงในการตัดสินใจหรือกำหนดนโยบาย “กล้าทำ-กล้ารับผิดชอบ”
กล้าขอโทษประชาชน มีสปิริตลูกผู้ชายเพียงพอ ฯลฯ
แค่นี้….เราก็ได้ “นายกรัฐมนตรีไทย” ที่ดีคนหนึ่งแล้ว
ดังที่ “นายกอนุทิน” กำลังทำให้เห็นอยู่นี่แหละ…
กวีเหลวไหล
๑๖ ธ.ค. ๖๘
………………………………………..
อีกซักท่านเถอะน่า ไหนๆ ก็ว่าผมเป็นจอมอวยนายกฯ อนุทิน ก็ขออวยให้มันจุกๆ ไปเลยวันนี้
#อัษฎางค์ ยมนาค | #อ่านเกมอำนาจ
ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาอวยอนุทิน แต่อดใจไม่ได้ เพราะภาพการทำงานของเขามันน่าอวย
ผมอาจจะโพสต์ถึงคุณอนุทินบ่อยสักหน่อย คนที่ไม่ชอบคุณอนุทิน ก็ตามมาด่า หรือมาเหน็บผม แทบทุกโพสต์
แต่ผมย้ำซ้ำๆ อยู่เสมอว่า “ผมไม่ได้เป็นติ่งคุณอนุทิน”
แต่โพสต์ถึงบ่อยๆ เพราะคุณอนุทินเป็นนายกฯ ที่กำลังทำงานและมีผลงานที่น่าสนใจและถูกใจคนส่วนใหญ่ในขณะนี้
ซึ่งผมยอมรับว่า ตัวเองก็พอใจในผลงานสำคัญๆ ของรัฐบาลคุณอนุทิน
แน่นอนว่า “พรรคภูมิใจไทย” เป็นพรรคประเภทที่มีเครือข่ายบ้านใหญ่ และด้วยความเป็นบ้านใหญ่ย่อมหนีไม่พ้นกับเรื่องที่มีนักการเมืองเทาๆ
แน่นอน ผมไม่สนับสนุนเรื่องบ้านใหญ่และนักการเมืองเทาๆ แต่พรรคภูมิใจไทยมี DNA เป็นสีน้ำเงิน ที่หมายถึงการเทิดทูนและไม่เป็นภัยคุกคามต่อสถาบันฯ
ผมถามตรงๆ คุณคิดว่า “ใครจะชนะการเลือกตั้ง”?
คุณคิดว่าพรรคที่ไม่เป็นภัยคุกคามต่อสถาบันฯ พรรคไหนจะเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลได้ พรรคไหน จะสามารถต่อสู้กับส้ม-แดงได้ คุณตอบมา….
ผมมองในมุมของกลยุทธ์และมองโลกบนความเป็นจริง ไม่ขังตัวเองอยู่ในโลกในอุดมคติ
กรอบแนวคิดของผมในเชิงยุทธศาสตร์คือ “ต้องจัดลำดับความสำคัญของภัยคุกคาม”
ผมยอมรับว่า “อุดมการณ์กินไม่ได้ ถ้าไม่มีอำนาจรัฐ” และ อำนาจรัฐในไทย ยังต้องพึ่งพา “ระบบบ้านใหญ่”
ดังนั้น ผมคิดว่า “พรรคภูมิใจไทย ”นี่แหละ จะเป็น “ที่พึ่งสุดท้าย” ของเราในเวลานี้
และคาดหวังว่าพรรคภูมิใจจะเป็นเสาหลักของฝ่ายเราในเวลานี้
คุณอนุทิน ทำงานหนักอย่างเห็นได้ชัด และด้วยความที่จะเป็นพรรคใหญ่ เมืองไทยยังหนีไม่พ้นบ้านใหญ่
แต่ถ้ารังเกียจการเมืองเทาๆ ผมแนะนำพรรคประชาธิปัตย์และพรรคไทยภักดี
“คุณอภิสิทธิ์” และ “คุณหมอวงรงค์” มีลายเซ็นของการยึดมั่นในความถูกต้อง แตกเป็นแตก หักเป็นหัก ยอมหักไม่ยอมงอ
ถ้าคุณชอบแบบนี้ ๒ พรรคนี้ ผมแนะนำและผมเชียร์ให้คุณเลือก
คุณอภิสิทธิ์และคุณหมอวงรงค์ ก็สามารถจะเป็นพรรคใหญ่เหมือนภูมิใจไทยได้ ถ้าเขายอมรับบ้านใหญ่
แต่ก็เห็นกันอยู่ว่า “เขาไม่เอาบ้านใหญ่” จุดขายเขาต่างออกไป ใครชอบจุดขายจุดไหนก็เลือกอันนั้น
ผมไม่ได้มาเชียร์ให้ทุกคนเลือกพรรคภูมิใจไทย
แต่ผมจะบอกว่า ถ้าคุณชอบคุณอภิสิทธิ์หรือคุณหมอวงรงค์ ให้เลือกคนนั้น
โดยส่วนตัว แอบหวังว่า ๓ พรรคนี้ จะร่วมกันทำงาน โมเดล “แบ่งงานกันทำ” ด้วยการผสมผสานเป็น Dream Team ที่น่าสนใจมากในเชิงฟังก์ชัน ให้รัฐบาลอนุทิน ๒ ที่มีเวลาทำงานครบเทอม
“คุณอนุทิน” เป็นหัวหอกยึดกุมอำนาจบริหาร มีความยืดหยุ่นสูง เข้าได้กับทุกขั้วเหมาะกับการเป็น “นายกฯโซ่ข้อกลาง”
อยากเห็นประธานสภา “ชื่ออภิสิทธิ์” และอยากเห็น “คุณหมอวรงค์” ได้สร้างผลงานในฐานะผู้พิทักษ์สถาบันฯ
อยากให้มีโอกาสได้ร่วมกัน “ปิดจบ” พรรคที่บั่นทอนสถาบันฯ และเป็นภัยคุกคามต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
ระบบบ้านใหญ่เป็นภัยต่อประชาธิปไตยและเป็นตัวถ่วงการพัฒนาชาติก็จริง แต่ไม่เป็นภัยคุกคามต่อสถาบันฯ และระบอบการปกครองในปัจจุบัน
กรอบแนวคิดของผมในเชิงยุทธศาสตร์คือ“ต้องจัดลำดับความสำคัญของภัยคุกคาม”
สถานการณ์การเมืองในยุคนี้ อะไรอันตรายกว่ากัน ร่วมมือกันจัดการล้างเสนียดจัญไรให้ออกไปจากบ้านเมืองของเราก่อน เสร็จแล้วค่อยล้างทำความสะอาดบ้าน
ในยามสงคราม เราไม่สามารถเลือกม้าศึกที่ขาวสะอาดบริสุทธิ์ได้ แต่ต้องเลือกม้าที่ “แข็งแรงพอจะวิ่งเข้าเส้นชัยและเหยียบศัตรูได้”
ซึ่งตอนนี้ ม้าตัวนั้น ชื่อ “ภูมิใจไทย” จริงๆ!
ลุงตู่เคยเลือกส่งไม้ต่อให้ “คุณพีระพันธ์” แต่ก็เห็นกันอยู่ว่าไม่สำเร็จ “คุณอนุทิน” ประกาศตัวชัด “ลุงตู่คือเจ้านายของผม” ดังนั้น “คุณอนุทิน” คือ “ไม้สองของเรา”!
………………………………………..
อ่านแล้วมีความรู้สึกตอบสนองกันอย่างไร?
บอกมาได้เลย
ผมเปิดพื้นที่ให้รถทัวร์จอดฟรี ๒๔ ชั่วโมง!
เปลว สีเงิน
๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๘
