12 ธันวาคม 2568 – นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งรัดขับเคลื่อนมติคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า หลังที่ประชุมมีมติสำคัญ เห็นชอบให้ถอด “นกปรอดหัวโขน” หรือ “นกกรงหัวจุก” ออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยย้ำว่าการดำเนินการทุกขั้นตอนต้องสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมวางมาตรการคุมเข้มการล่าในพื้นที่ป่าอย่างเคร่งครัด
การประชุมคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ครั้งที่ 2/2568 จัดขึ้นที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีนายนิพนธ์ จำนงค์สิริศักดิ์ รองปลัดกระทรวงฯ ทำหน้าที่ประธานตามมอบหมายจาก รมว.ทส. วาระสำคัญคือการพิจารณาสถานภาพของนกปรอดหัวโขน ภายใต้หลักการ “อนุรักษ์ควบคู่เศรษฐกิจ” ตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562
ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการฯ รายงานผลการศึกษาจากคณะทำงาน 4 ชุด พบว่าประชากรนกปรอดหัวโขนในธรรมชาติยังคงอยู่ในระดับมั่นคง โดยสำรวจพบมากกว่า 44,421 ตัว และกระจายตัวสูงทั่วประเทศ โดยร้อยละ 51 อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวน อีกทั้งสถิติการลักลอบล่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาไม่เพิ่มขึ้น
ข้อมูลดังกล่าวเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่มติ “ถอดชื่อนกปรอดหัวโขนออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง” เพื่อเปิดทางให้การเพาะเลี้ยงดำเนินได้คล่องตัวขึ้น ลดแรงจูงใจการจับจากป่า พร้อมสนับสนุนให้เกิดอาชีพและรายได้ในชุมชน พัฒนาไปสู่การเป็นสัตว์เศรษฐกิจในอนาคต
อย่างไรก็ตาม รองนายกฯ สุชาติกำชับชัดเจนว่า แม้จะปลดออกจากบัญชีคุ้มครอง แต่ “การล่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนยังผิดกฎหมายเด็ดขาด” กรมอุทยานฯ จะเพิ่มกำลังลาดตระเวน ตรวจตรา และปราบปรามการลักลอบล่าอย่างเข้มงวด หากพบสัญญาณว่าจำนวนประชากรในธรรมชาติลดลง พร้อมนำกลับเข้าสู่การพิจารณาเพื่อบรรจุเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองอีกครั้งทันที
ในส่วนของมาตรการรองรับ กรมอุทยานฯ จะกำหนดมาตรฐานกรงเลี้ยง การขึ้นทะเบียนฟาร์มเพาะพันธุ์แบบสมัครใจ และจัดทำเครื่องหมายประจำตัวนก เพื่อแยกแยะนกเพาะเลี้ยงกับนกในธรรมชาติอย่างชัดเจน พร้อมร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่มีชื่อเสียงในวงการนกเพื่อสร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง ไม่ส่งเสริมการจับนกป่า
ที่ประชุมยังเห็นชอบมติด้านพื้นที่คุ้มครอง ได้แก่ การกำหนดเขตห้ามล่าสัตว์ป่า “โคกสูง–เขาสามสิบ” จังหวัดสระแก้ว การเพิกถอนพื้นที่บางส่วนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรองรับกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา และการเพิกถอนเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทุ่งทะเล จังหวัดกระบี่ บางส่วน เพื่อก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตา
รอง นายก ฯ สุชาติ ย้ำว่า กรมอุทยานฯ พร้อมสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการอย่างรอบคอบ โปร่งใส และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของการคุ้มครองสัตว์ป่าและผืนป่าของประเทศ พร้อมเดินหน้าตามข้อสั่งการของรองนายกฯ สุชาติอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติของประเทศเป็นไปอย่างยั่งยืน.
