สันต์ สะตอแมน
“เก็บรัก เอาไว้ในอก ดีกว่าหยิบยก รักไปให้ใคร เก็บรัก เอาไว้ในใจ คงไม่ทำให้ใจหมอง
เก็บรัก เอาไว้ดีกว่า ไม่เสื่อมราคา น้ำตาไม่นอง ค่ารัก มันสูงเกินทอง อย่าทำเป็นลอง ยกให้ใคร
อย่าเอาความรัก ไปมอบให้คน ที่ไม่รู้ค่า จะเสียเวลา หมดเปลืองหัวใจ ค่าความรัก สูงยิ่งสิ่งใด จงเก็บเอาไว้ ทุ่มให้คนที่ดี
เช่นฉัน เคยช้ำมาก่อน จึงฝากคำสอน ไว้เตือนสตรี พลาดแล้ว ไม่แคล้วราคี ครวญใคร่ให้ดี ก่อนยกให้ใคร”
เพลงนี้ “ครูสุรพล โทณะวณิก” (ผู้ล่วงลับ) เป็นคนแต่ง จะเพื่อเตือนตัวเอง หรือตั้งใจจะสอนบรรดาหญิงสาวแรกรุ่นหรืออย่างไร ท่านก็ไม่ได้เฉลยเอาไว้
รู้เพียงว่า แต่งเสร็จก็มอบให้คุณรวงทอง ทองลั่นทม ศิลปินแห่งชาติ บันทึกเสียงในชื่อเพลง “ค่าแห่งความรัก” และต่อมาคุณศรีไศล สุชาตวุฒิ ก็นำมาร้องใหม่ในชื่อใหม่ว่า.. “เก็บรัก”
ก็..เป็นเพลงยอดนิยมมาทุกยุคทุกสมัย นอกจากไพเราะเสนาะหูแล้ว ยังจะสะกิดใจ โดยเฉพาะผู้หญิง (ยุคนั้น) บางคนอาจจดจำเก็บเอาไว้เป็นเครื่องเตือนใจ
ยุคนี้คงไม่แล้วล่ะ เพราะที่สังเกตเห็นสาวแรกรุ่นส่วนใหญ่จะไม่ค่อย “เก็บรักเอาไว้ในอก” แต่มักจะหยิบยกให้ (ใคร) กันง่ายๆ และถึงเวลา “หมดรัก” ต่างก็แยกย้ายกันไป!
อย่างที่กำลังซุบซิบนินทากันอยู่ในขณะนี้ ก็ข่าวที่น้องเพลง-ชนม์ทิดา อัศวเหม ลูกสาวคนสวยของคุณตู่-นันทิดา แก้วบัวสาย ได้ออกมายอมรับกับพี่ๆ สื่อมวลชนว่า..
เลิกกับ พี่เป๊ก-เศรณี ชาญวีรกูล ลูกชายสุดที่รักของคุณอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี จริง!
“พอเดินทางมาอยู่ในความสัมพันธ์ 7 ปี คำว่าหมดรักอาจจะมีได้ แต่เพลงพูดเสมอว่าความรักของเพลงตั้งอยู่บนความรัก ความเข้าใจ การให้เกียรติ
แล้วอะไรที่ทำแล้วบั่นทอนความรู้สึกกัน อย่าทำ เมื่อวันหนึ่งถ้าเราหมดรัก หรืออาจจะรู้สึกอะไรที่เปลี่ยนไป ขอแค่อย่างเดียว ขอแค่เดินมาบอกกันตรงๆ..
เขาเป็นคนเอ่ยปากขึ้นก่อนค่ะ เพลงเรียนตรงๆ ว่าเพลงไม่ได้เผื่อใจไว้ค่ะ แต่รู้ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้..เพียงแต่ว่าเพลงไม่ได้เผื่อใจไว้สำหรับตัวเองเท่านั้นเอง”
ครับ..คำว่า “หมดรัก” บางท่าน (ผมด้วย) ไม่ค่อยเข้าใจลึกซึ้งนัก วันนี้จึงเลยถามเอากับ AI และได้ความรู้มาว่า..
“หมายถึงความรู้สึกและความสัมพันธ์ทางความรักที่สิ้นสุดลง ซึ่งเกิดจากความรู้สึกเหนื่อยล้า ความเฉยชา หรือไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อกันอีกต่อไป
สัญญาณที่บ่งบอกถึงภาวะหมดรัก ได้แก่ การพูดคุยกันน้อยลง ความหงุดหงิดง่าย การไม่มีความไว้ใจกัน และการมองหาแต่ข้อเสียของกันและกัน
สัญญาณเตือน “หมดรัก”..ความรู้สึกเฉยชา ไม่กระตือรือร้นที่จะอธิบายหรือแสดงความรู้สึก ไม่ดีใจกับเรื่องที่เคยทำให้ประหลาดใจ และขาดรอยยิ้มหรือเสียงหัวเราะ
ความหงุดหงิด : รู้สึกหงุดหงิดหรือหาข้อผิดพลาดอยู่เสมอ แม้ในเรื่องเล็กน้อย..การเว้นระยะห่าง : พูดคุยกันน้อยลง หรือมีพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ขาดความไว้เนื้อเชื่อใจ : ไม่มีความไว้ใจกันอีกต่อไป..ไม่พยายามแก้ไขปัญหา : ไม่พยายามที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์
ไม่มองถึงอนาคตร่วมกัน : ไม่นึกถึงการมีอีกฝ่ายอยู่ในอนาคตของตัวเอง..มองเห็นแต่ข้อเสีย : พูดถึงแต่ข้อเสียของอีกฝ่ายมากกว่าข้อดี
ส่วนสาเหตุที่ทำให้หมดรัก..ความเบื่อหน่าย : ความรักที่อยู่ในช่วง “จุดอิ่มตัว” ทำให้ขาดความตื่นเต้นและรู้สึกจำเจ
ปัญหาที่สะสม : ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ได้รับการแก้ไข เมื่อสะสมมากขึ้นจนเกินจะอดทน..ความเหนื่อยล้า : รู้สึกเหนื่อยล้าเกินกว่าที่จะพยายามประคองความสัมพันธ์อีกต่อไป”
เนี่ย..ไม่ได้จะเตือนใคร เพราะเรื่องของหัวใจ-ความรักคงไม่มีใครฟังใคร เพียงแต่จะพูดว่า..
ค่ารัก มันสูงเกินทอง อย่าทำเป็นลอง ยกให้ใคร!.
