เปลว สีเงิน
วันนี้ ๑๓-๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๘
“พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” และ “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี” เสด็จพระราชดำเนินเยือน “สาธารณรัฐประชาชนจีน” เป็นทางการ
ตามคำทูลเชิญของ “นายสี จิ้นผิง” ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาส “เฉลิมฉลองครบรอบ ๕๐ ปี” การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต “ไทย-จีน”
ในการนี้ “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี ตามเสด็จในฐานะ “รัฐมนตรีเกียรติยศ”
“นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ” ในฐานะรองนายกฯ คนที่ ๑ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะ “รักษาราชการแทนนายกฯ” ในระหว่างนี้
……………………………………….
ถามว่า “ผู้รักษาราชการแทนนายกฯ สั่งยิงได้มั้ย?”
คำตอบคือ “สบายมาก”!
ฉะนั้น “คอหนังบู๊” ทั้งหลาย ซื้ออ้อยคั่ว-ถั่วควั่น แล้วปูเสื่อรอชมหน้าจอได้เลย รับรองฉายแน่ ฉายแบบ “ปูพรม” ซะด้วย
ก่อนจะรู้ว่าปูพรมที่ไหนบ้าง ปฐมฤกษ์วันไหน ขอขายยาก่อนซักแป๊บนะ
นี่ก็เห็นเปิดฟลอร์กันประปรายที่ “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เมื่อวาน(๑๒ พ.ย.) ทหารเขมรสร้างสถานการณ์ “ยิงเข้ามาในฝั่งไทย”
หวังนำไปฟ้องลวงโลกว่า “เห็นมั้ย..เห็นมั้ย..ไทยรุกรานเขมรอีกแล้ว”!
ฝ่ายไทยรำคาญ แค่ยิงตักเตือนกลับไปพอเป็นสังเขป
แค่นั้น เขมรก็เหมือนหมาได้ยินเสียงประทัด กลัวจน “หูตั้ง-หางตก” ซุกหัวเงียบจ๋อย!
ทีนี้ มาดูกันว่า เมื่อ “นายกฯ อนุทิน” ประกาศ “ฉีกปฏิญญานำร่องสันติภาพไทย-เขมร” ลงถังขยะ
เพราะเขมรละเมิดข้อตกลง ลอบเข้ามาวางกับระเบิดอีก จนทหารไทย “ขาขาด” เป็นรายที่ ๗ เมื่อ ๑๐ พ.ย.
แล้วประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายอันวาร์ ในฐานะประธานอาเซียน ที่เป็นสักขีพยาน มีท่าที่ต่อเรื่องนี้อย่างไร?
“โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ” แถลงว่า…..
“วอชิงตันติดตามสถานการณ์ในพื้นที่รอบ “ปราสาทตาเหมือน–ช่องตาเมือน” อย่างใกล้ชิด
ขอให้ไทยกับกัมพูชาใช้ช่องทางทางการทูตเป็นหลักในการแก้ไขปัญหาเพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียทั้งในเชิงมนุษยธรรมและความมั่นคง”
มาเลเซีย โดยนายกฯ อันวาร์ ประกาศทันที
พร้อมที่จะจัดประชุมรอบใหม่ เพื่อเปิดโต๊ะเจรจาระหว่างไทยและกัมพูชา โดยตั้งเป้าให้เกิดการพูดคุยในระดับเจ้าหน้าที่ภายในสิ้นปีนี้ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ภายใต้กรอบ “สันติภาพเพื่ออนาคตอาเซียน”
ทางฝ่ายไทย “นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เชิญคณะทูต ๕๙ ประเทศ ๑ องค์กรระหว่างประเทศ และ ๔ องค์การระหว่างประเทศ
รวม ๗๑ ท่าน มารับฟังการชี้แจง ถึงการที่ไทยฉีก “ปฎิญญาสันติภาพ” กับเขมรทิ้ง
เมื่อบรรยายสรุปจบ คณะทูตถามท่านสีหศักดิ์ ถึงแนวทางการดำเนินการของไทยต่อเขมรหลังจากนี้
ท่านสีหศักดิ์ตอบด้วยภาษาสากล ว่า….
“ไทยขอสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินการตามความจำเป็น เพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพของดินแดนของไทย
และจะดำเนินตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่”
ปรากฎว่า ไม่มีคณะทูตท่านใด “ไม่เห็นด้วย” กับการที่ไทยระงับ “ปฎิญญาสันติภาพ” กับเขมร
นอกจากนี้ กระทรวงต่างประเทศ ได้เชิญคณะผู้สังเกตุการณ์ฝ่ายไทย “พลจัตวา ซัมซุล ริซัล บิน มูซา” ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซีย และผู้ช่วยทูตทหารจากสิงคโปร์ ลงไปดูพื้นที่ “ห้วยตามาเรีย” ด้วย
เอ้า…..
ทีนี้ มาดูท่าที “นายกฯ อนุทิน” ต่อสหรัฐฯ และนายกฯ อันวาร์ ที่จะให้ไทยกับเขมร “เปิดโต๊ะเจรจาสันติภาพ” กันใหม่บ้าง ว่านายกฯ มีท่าทีแบบไหน ก่อนตามเสด็จฯ ไปปักกิ่งวันนี้?
นายกฯ อนุทิน ประกาศต่อหน้าที่ประชุมนักศึกษาวปอ.รุ่นที่ ๖๘ ประมาณว่า
“ไม่เจรจา ไม่คุย ไม่แคร์ กับใครทั้งนั้น ฉีกปฎิญญานำร่องสันติภาพทิ้งไปแล้ว มันไม่มี ๔ ข้อ นั้นแล้ว
จะมีก็แต่ข้อที่ “ประเทศไทยจะต้องดำเนินการ Do it My Way”!
“Do it My Way” ของท่านนายกฯมันหมายถึงอะไร?
นักข่าวคันหู-คันใจ จึงถามท่านว่า…..
“หมายถึงขณะนี้ มีการเตรียมกำลังทางทหารพร้อมแล้วใช่หรือไม่?”
นายกฯ พยักหน้า ก่อนจะเอ่ยคำว่า
“แน่นอนครับ”!
อย่างนี้ก็ “ม่วนซื่นโฮแซว” น่ะซีครับ ยิ่งท่านย้ำส่งท้ายว่า
“เรามีแผนปฎิบัติอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องความมั่นคง การป้องกันประเทศ ไม่สามารถมาพูดในลักษณะการให้สัมภาษณ์ ได้
แต่ในความเป็นคณะรัฐมนตรีและหัวหน้ารัฐบาล เราได้มีการประชุม “สภาความมั่นคงแห่งชาติ”กำหนดมาตรการ
และผู้ปฏิบัติให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่ออธิปไตยของประเทศ และความปลอดภัยของประชาชนต่อเกียรติภูมิศักดิ์ศรีของทหาร และเจ้าหน้าที่ที่คอยปกป้องดูแลแผ่นดินของเราอยู่
ขอย้ำว่าทุกอย่าง “มีอยู่ในแผนการดำเนินการ” ทั้งหมดแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้”
นี่ถ้าเป็นไฮโล เรียกว่า “เปิดถ้วยแทง” ๔-๕-๖ “อีโต้ขว้างเหี้ย” รวยเละ!
เอาละ….ก็พอจับท่าที “ฝ่ายบุ๋น” ได้แล้วว่า ไทยจะตอบสนอง เขมรที่ลอบวางกับระเบิดจนทหารไทยขาขาดเป็นขาที่ ๗ แบบไหน
ทีนี้ มาดู “ฝ่ายบู๊” คือทางกองทัพบ้าง
ในเมื่อนายกฯ ไม่แคร์ ถ้าทรัมป์จะเอามาตรการภาษีมากดดันให้เราต้องสันติภาพอย่างนั้น-อย่างนี้กับเขมรอีก
พอกันที สันติภาพกับเขมรเฮงซวย ที่สัญญาไม่เคยเป็นสัญญา ตกลงแล้วก็ละเมิด
ละเมิดแล้วก็ไปร้องให้ประเทศโน้น-นี้ช่วยมาเป็นตัวกลางเชิญไปนั่งโต๊ะเจรจาสันติภาพกันใหม่ เป็นครั้งที่ ๑๐ ที่ ๑๐๐
โดยไทยเป็นฝ่ายเจ็บและตายและเสียดินแดนให้เขมรไปฝ่ายเดียวมาตลอด
จากนี้ไป ไม่ละ..มึง!
ไทยจะเอาคืนชนิด “ทบต้น-ทบดอก” ไปร้องให้ประเทศไหนมาช่วยบีบให้ไทยเลิก บีบไข่น่ะพอได้ แต่ที่จะ “บีบใจ” ให้ไทยผ่อนมือ-ผ่อนตีน
ไม่มีทาง!
เอาละ ตานี้มาดูว่า ทหารไทยจะปฎิบัติการ “ปูพรม” ด้วยวิธีไหนและที่ไหนบ้าง ผมจะถอดรหัสจากคำให้สัมภาษณของ
“พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์” ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เมื่อวาน (๑๒ พ.ย.๖๘)
ขอปูพื้นเรื่องก่อน เดี๋ยวท่านจะไม่เข้าใจ คือก่อนจะลงนามในปฎิญญาสันติภาพ
ฝ่ายไทยเสนอเก็บกับระเบิดใน ๑๓ พื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่กองกำลังบูรพา ๓ พื้นที่ กองทัพภาคที่ ๑ บ้านหนองจาน, บ้านหนองหญ้าแก้ว และบ้านเนินสมบูรณ์ จ.สระแก้ว
กองทัพภาค ๒ กองกำลังสุรนารี ๖ พื้นที่ คือ ช่องบก-ช่องอ่านม้า อุบลราชธานี, ช่องกร่าง, ช่องเหว, ปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ และ บ้านสายโท ๑๐ ใต้ บุรีรัมย์
ที่กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด ๔ พื้นที่ คือ บ้านตะกาง เมืองตราด, บ้านคลองม่วง เมืองตราด, บ้านชำราก เมืองตราด และบ้านโขดทราย คลองใหญ่ ตราด.
ปรากฏว่า เขมร “ไม่ตอบรับ” ทั้ง ๑๓ พื้นที่!
ไทยต่อรอง ลดเหลือเพียง ๕ พื้นที่นำร่อง คือที่ บ้านสายโท ๑๐ ใต้ บุรีรัมย์, ช่องเหว สุรินทร์, บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว สระแก้ว และบ้านชำราก ตราด
โดยโอนอ่อนให้ฝ่ายเขมรไม่ต้องมาร่วมเก็บกู้กับฝ่ายไทยก็ได้ ขออย่างเดียว อย่ามาขัดขวางการเก็บกู้ของฝ่ายไทยเท่านั้น
เขมรก็ตกลงตามนั้น!
ก็มาเข้าเรื่องต่อ “พล.อ.อุกฤษฎ์” ท่านให้สมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า….
“การเก็บกู้กับระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชาที่ดําเนินการอยู่ปัจจุบันนี้ ขณะนี้ ทําใน ๕ พื้นที่นำร่อง ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน
แล้วเราจะเดินต่อไปในพื้นที่อื่นๆ จน “ครบ ๑๓ พื้นที่”
คือในพื้นที่ ที่เขมร “ไม่ยอมให้เข้าไปเก็บกู้” ด้วย!
ผบ.ทสส.พูดหนักแน่นว่า….
“ยืนยันว่าการเก็บกู้กับระเบิด เราทํามาก่อนหน้านี้แล้ว หากฝ่ายกัมพูชาไม่ดําเนินการอะไร เราก็แค่ทําหน้าที่เก็บกู้ทุนระเบิดต่อไป”
นักข่าวแย้ง “พลเอกณัฐพล” ระบุว่า ใน ๕ พื้นที่นําร่อง เขมรยังไม่ตอบรับ ๑ พื้นที่ จะเข้าไปเก็บกู้ได้หรือ?”
ท่านผบ.ทสส.กล่าวชิลๆ…..
“ก็เรื่องของเขา พื้นที่ของเรา เราก็ทําของเรา ไปสนใจอะไรเขา”
นักข่าวถามย้ำ “เสร็จจาก ๕ พื้นที่นําร่อง ก็จะไปพื้นที่อื่นๆ ที่อยู่ในเขตอธิปไตยของเราใช่หรือไม่?
“พล.อ.อุกฤษฎ์” ตอบ…. “ถูกต้อง”!
“ถ้าเป็นพื้นที่ ที่เขมรวางฐานกําลังอยู่ เราจะปฏิบัติอย่างไร?” ท่านผบ.ทสส.ตอบชิลๆ
“ก็เราจะทํา เราทําเพื่อพี่น้องประชาชน และทหารที่อยู่แนวหน้าให้ปลอดภัย ทําไมเราถึงจะทําไม่ได้”
ขอย้ำว่า… “เราจะทํา”!!!
ชัดมั้ยครับว่า “ปฎิบัติการปูพรม” จะมีพื้นที่ ที่ไหนบ้าง?
ที่เห็นๆ เปิดโรงรอบปฐมฤกษ์ น่าจะเป็นที่ “ปราสาทตาควาย” นะ หรือถ้าแฟนหนาแน่น เหมือนนัด “บอล ๗ สี” ที่สนามศุภฯ แตกวันก่อน
ใน ๑๓ พื้นที่ อาจประกอบพิธีปูพรมไปพร้อมๆ กันก็ได้ เพื่อดับกระหายลูกปืนที่พวกทหารเขมรโหยหา!
แล้วเมื่อไหร่น่ะหรือ?
คำตอบคือ นับจากวันนี้ไป “เสาร์-อาทิตย์” อาจมี “รอบพิเศษ” ก็เป็นได้
ผมเดาเอาใจท่าน กันด่าผมเปิง …….
ถ้ายังไม่ปึงปัง พวกเราก็ “แบกปืนไปโบกตึก” พลางๆ ก่อนละกัน!
เปลว สีเงิน
๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๘
