เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า จากที่ได้ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนในลำน้ำกก และรับฟังข้อคิดเห็นจากภาคประชาชน ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่และเชียงราย เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่ผ่านมา พบว่า ประชาชนยังคงมีข้อห่วงกังวลถึงคุณภาพน้ำประปาที่ใช้ในครัวเรือน ทั้งจากประปาภูมิภาค และประปาหมู่บ้าน จึงได้สั่งการให้ทั้งกรมทรัพยากรน้ำ และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จัดหาแหล่งน้ำดิบที่ไม่มีการปนเปื้อน ทั้งแหล่งน้ำผิวดิน และแหล่งน้ำใต้ดิน สำหรับเป็นแหล่งน้ำสำรองในการผลิตน้ำประปาให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ใช้อุปโภคบริโภคได้อย่างปลอดภัยเป็นการเร่งด่วน โดยเฉพาะระบบประปาหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณสองฝั่งของลำน้ำกก ได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำดำเนินการสำรวจและจัดหาแหล่งน้ำผิวดินสำรองในการผลิตน้ำประปาหมู่บ้านให้กับชุมชนโดยด่วน
ซึ่ง นายธีระชุณ บุญสิทธิ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ได้มอบหมายให้ นายโอภาส ถาวร รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ และสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 1 (ลำปาง) เร่งสำรวจสองฝั่งลำน้ำกกในรัศมีข้างละ 1 กิโลเมตร ซึ่งจากการสำรวจแล้วพบว่า ตลอด 2 ฝั่งลำน้ำมีระบบผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน ที่เป็นระบบประปาผิวดินใช้น้ำจากแม่น้ำกก จำนวน 8 แห่ง แต่ปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนจากการนำน้ำกกมาผลิตเป็นน้ำประปา โดยได้ไปใช้แหล่งน้ำผิวดินในพื้นที่ผลิตน้ำประปาทดแทนแล้ว และยังคงเหลืออีกเพียง 1 แห่ง ที่ยังไม่สามารถหาแหล่งน้ำมาทดแทนได้ คือ บ้านหนองไคร้คราง
นอกจากนี้ กรมทรัพยากรน้ำ ยังได้เร่งติดตั้งกล้อง CCTV แบบอัจฉริยะ (AI) เพื่อติดตามเฝ้าระวังและแจ้งเตือนให้ประชาชนได้ทราบถึงสถานการณ์ของน้ำกกอย่างทันท่วงที โดยปัจจุบันได้ดำเนินการติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อเฝ้าระวังและแจ้งเตือนไปแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ ตำแหน่งที่ 1 ที่สะพานขุนเม็งรายมหาราช ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย และตำแหน่งที่ 2 ที่สะพานแม่นาวางท่าตอน ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ และยังมีการสำรวจติดตั้งโครงการพัฒนาระบบตรวจสอบคุณภาพน้ำ พร้อมติดตั้งตรวจจับและวิเคราะห์ด้วยกล้องอัจฉริยะเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำแม่น้ำกกเพิ่มอีกจำนวน 10 จุด
รวมทั้งยังได้จัดทำโครงการเพื่อจัดหาแหล่งน้ำผิวดินเพื่อใช้อุปโภคบริโภคและการเกษตร โดยจัดทำประปาหมู่บ้าน 2 โครงการ คือ 1) โครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค หนองไคร้คราง สนับสนุนประปาบ้านสันไทรงาม อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย ที่มีการนำน้ำกกมาใช้ในการผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน หากดำเนินการแล้วเสร็จจะมีผู้ได้รับประโยชน์กว่า 200 ครัวเรือน และ 2) โครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำเพื่อการเกษตร ร่องโจ๊ก บ้านสันธาตุใหม่พัฒนา ต.โยนก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย หากดำเนินการแล้วเสร็จจะมีผู้ได้รับผลประโยชน์กว่า 300 ไร่ หรือกว่า 60 ครัวเรือน
และ กรมทรัพยากรน้ำ โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 1 (ลำปาง) ยังมีสถานีเตือนภัยล่วงหน้าและคอยเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำที่จังหวัดเชียงราย-เชียงใหม่ เพื่อเตือนภัยให้กับประชาชน ตลอด 24 ชั่วโมง และยังได้ดำเนินการสำรวจแหล่งน้ำอื่นมาทดแทนเพื่อใช้ในการผลิตประปาหมู่บ้าน ตามข้อสั่งการของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อย่างเร่งด่วน.