8 ตุลาคม 2568 เวลา 10.30 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย สส.พรรคประชาชน เสนอรัฐบาลบริหารจัดการปัญหาอุทกภัยให้ประชาชนในระยะยาว
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตามที่ได้ลงพื้นที่ในหลายจังหวัดทั้งภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง พร้อม สส. จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ นครปฐม อ่างทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับปัญหาจากอุทกภัยในขณะนี้ ก่อนอื่นขอแสดงความห่วงใยไปยังพี่น้องประชาชนในหลายจังหวัดทั้งภาคกลางและภาคเหนือตอนล่างที่ขณะนี้ประสบปัญหาอุทกภัยอย่างรุนแรง และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวที่สูญเสีย ฝากพี่น้องสื่อมวลชนและผู้ใหญ่ทุกท่านช่วยกันดูแลเด็กและเยาวชน ระมัดระวังเกี่ยวกับการเล่นน้ำที่กระแสน้ำมีความรุนแรง
ทั้งนี้ ขณะลงพื้นที่ได้พบปะหน่วยงานหลายหน่วยงาน รพ.สต. ซึ่งเป็นด่านหน้า ต้องยอมรับว่าเจ้าหน้าที่มีกำลังใจดี ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มศักยภาพ ในแง่การทำงานเชิงรับ ยาและเวชภัณฑ์เพียงพอ แต่สิ่งที่เจ้าหน้าที่สะท้อนไปยังรัฐบาล คือ การสนับสนุนการทำงานเชิงรุก เรื่องรถฉุกเฉินต่างๆ เพื่อส่งต่อผู้ป่วยในพื้นที่ไปยังโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลอำเภอ รวมทั้งการสร้างศูนย์พักพิงให้กับพี่น้องประชาชน
ซึ่งในขณะนี้หลายพื้นที่เป็นการตั้งเต็นท์ข้างทาง ซึ่งถนนที่เป็นแนวคันกั้นน้ำหลายส่วนเป็นถนนสองเลน ทำให้รถที่สัญจรไปมามองไม่เห็นประชาชนที่อาจจะพักพิงบริเวณเต็นท์ อาจถูกรถเฉี่ยวชนได้
นี่เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ต้องการส่งข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาล ให้จัดหาพื้นที่สถานที่พักพิงอย่างเป็นกิจลักษณะในพื้นที่ทุ่งรับน้ำ เพราะทุกฤดูกาลจะประสบน้ำท่วมเช่นนี้ โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่นอกแนวคันกันน้ำ สถานการณ์ภาพรวมที่ได้ติดตามกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่า ปริมาณน้ำฝนที่ตกบริเวณภาคกลางและภาคเหนือตอนล่างในปีนี้มากกว่าปีก่อนร้อยละ 10 ประกอบกับนโยบายในการจัดการน้ำของหน่วยงาน ใช้วิธีการระบายในทางก่อนในทุ่ง โดยพยายามระบายไปทางคูคลอต่าง ๆ ก่อน ทำให้พี่น้องที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำรู้สึกว่าน้ำท่วมมากกว่าปีก่อน
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการบริหารจัดการการจ่ายเงินเยียวยา รัฐบาลต้องดูรายละเอียดรายพื้นที่ บริหารจัดการให้ไม่ช้า เช่น บางพื้นที่ที่น้ำท่วมนานกว่าที่อื่น ควรได้รับเงินเยียวยามากกว่าพื้นที่ที่เพิ่งท่วม รัฐบาลต้องพิจารณาหลักเกณฑ์ใหม่ เงินเยียวยาจำนวน 9,000 บาท นั้นไม่เพียงพอ โดยพรรคประชาชนมีข้อเสนอไปยังรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนนอกแนวคันกั้นน้ำสามารถปรับตัวและได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
เช่น การตั้งกองทุนดีดบ้าน ป้องกันการซ้ำรอย ทั้งเรื่องของการแจ้งเตือนการเก็บของ รวมถึงการเก็บเกี่ยวก่อนน้ำมา หากมีการแจ้งเตือนได้อย่างรวดเร็ว จะช่วยให้ประชาชนเก็บเกี่ยวได้ทัน และช่วยให้บริหารจัดการน้ำได้อย่างดียิ่งขึ้น และขอฝากถึงรัฐบาลว่า หากเล็งเห็นถึงปัญหาอย่างเดียวกันว่า ขณะนี้ประเทศอยู่ในสภาวะที่หนี้สาธารณะเต็มเพดาน มีพื้นที่ทางการคลังน้อย สิ่งที่รัฐบาลต้องทำในขณะนี้คือกระตุ้นเศรษฐกิจ
แต่สิ่งที่พรรคประชาชนอภิปรายในสภามาโดยตลอด คือ การใช้เม็ดเงินงบประมาณอย่างคุ้มค่า ประชาชนได้รับผลประโยชน์ในระยะยาวมากกว่าระยะสั้น หากรัฐบาลพิจารณาจัดสรรงบประมาณ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม มีเงินเยียวยาเพื่อนำไปใช้ดูแลครอบครัว ดูแลทรัพย์สินที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จะเป็นการจัดสรรงบประมาณที่ใช้จ่ายเงินอย่างคุ้มค่า แทนที่จะให้แจกเงินให้เปล่า เช่น หากสามารถจัดสรรเงินบางส่วนเพื่อช่วยเหลือเรื่องดีดบ้าน จะทำให้เกิดการจ้างงานขึ้น เป็นการใช้จ่ายเงินลงทุนเพื่อแก้ปัญหาระยะยาวให้กับพี่น้องประชาชน และเป็นการใช้จ่ายงบประมาณให้มีความคุ้มค่า ชาญฉลาด และประชาชนได้ผลประโยชน์ในระยะยาว
ด้านนายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สนทช. และกรมชลประทาน ใช้การบริหารจัดการน้ำในทางก่อนในทุ่ง โดยเลือกระบายน้ำในทางระบายน้ำก่อนโดยใช้ทุ่งรับน้ำเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการระบายน้ำ ทำให้พื้นที่ที่เป็นบ้านเรือนพี่น้องประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ น้ำท่วมสูงขึ้นและนานขึ้น จึงเรียกพื้นที่เหล่านี้ว่าพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำ พรรคประชาชนขอเสนอให้มีการจัดสรรน้ำไปในทิศทางอื่น ๆ ด้วย
เช่น ระบายน้ำไปทางทิศตะวันออกมากขึ้น เนื่องจากทิศตะวันตก ลุ่มแม่น้ำท่าจีนขณะนี้ได้รับผลกระทบที่หนักมากแล้ว และลุ่มแม่น้ำท่าจีนได้รับการระบายน้ำเต็มความจุแล้ว พี่น้องประชาชนในจังหวัดนครปฐมริมแม่น้ำท่าจีนได้รับความเดือดร้อนมาตลอดในช่วงเวลาที่ผ่านมา จึงขอเสนอให้มีการตัดยอดน้ำตั้งแต่เหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพื่อระบายน้ำไปในทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก รวมถึงขอให้มีการจัดทำกองทุนดีดบ้าน เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ เร่งโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการชัยนาท – ป่าสัก ผันน้ำไปทางทิศตะวันออก โดยมีข้อเสนอไปยังรัฐบาล 3 ประเด็น ดังนี้
1) ทบทวนแผนการระบายน้ำ ลดความจำเป็นการเพิ่มอัตราการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาลงสู่พื้นที่ลุ่มภาคกลาง โดยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ตัดยอดน้ำตั้งแต่เหนือเขื่อนเจ้าพระยาขึ้นไป สนทช. กรมชลประทาน ปรับลดการระบายน้ำจาก 2,500 ลบ.ม. เหลือ 2,400 ลบ.ม.
2) ปรับกรอบระยะเวลาการชดเชยเยียวยา ชดเชยเยียวยาให้กับพี่น้องประชาชนในทุก ๆ เดือนที่ถูกน้ำท่วม ชดเชยค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชน เพราะในช่วงเวลาที่ถูกน้ำท่วม พี่น้องประชาชนมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ทั้งค่ายา ค่ายากันยุง ค่าขนของ ค่าเช่าบ้านในพื้นที่ที่น้ำไม่ท่วม ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ค่าชดเชยเยียวยาจำเป็นต้องชดเชยค่าครองชีพที่เสียไปในช่วงเวลาที่ถูกน้ำท่วม
3) จัดตั้งกองทุนเพื่อการดีดบ้าน รวมถึงกองทุนดีดสิ่งอำนวยความสะดวก และสาธารณูปโภคให้กับพี่น้องประชาชน มีศูนย์อำนวยความสะดวกที่มีคุณภาพและใช้ได้ทั้งในช่วงที่น้ำท่วมและช่วงไม่มีน้ำ เพื่อเป็นพื้นที่อเนกประสงค์เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าไปขอสิ่งอำนวยความสะดวกได้
ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ จะเสนอการพัฒนาปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 เพื่อเพิ่มหมวดเรื่องกองทุนเข้าไป ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ยังไม่มีหมวดกองทุน ในฐานะผู้แทนราษฎรของพี่น้องประชาชน จะผลักดันกฎหมาย รวมทั้งข้อเสนอในการบริหารจัดการน้ำต่อไป