องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ “Thailand Agri Intertrade 2025” นำสินค้าเกษตรมูลค่าสูงของไทย ชูนวัตกรรม Smart Farming ยกระดับสินค้าเกษตรเมืองร้อนมูลค่าสูงเข้าร่วมงาน World Food Forum 2025 ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 10–13 ตุลาคม 2568 เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าและสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืนให้เกษตรกรไทย พร้อมจัด Business Matching เปิดทางให้ผู้ซื้อ ผู้ประกอบการต่างชาติเจรจาธุรกิจกับเกษตรกรและผู้ผลิตไทยโดยตรง ชูธงผลักดันสินค้าเกษตรไทยสู่เวทีการค้าโลกภายใต้แนวคิด BCG Economy Model (Bio Economy -Circular Economy -Green Economy)
นายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เปิดเผยว่า การเข้าร่วมงาน “World Food Forum 2025” ในครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวที่สำคัญในการยกระดับสินค้าเกษตรเมืองร้อนของไทยไปสู่ตลาดโลก โดย อ.ต.ก.มีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรของไทยนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเข้าไปปรับใช้ในการผลิต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความยั่งยืนในภาคเกษตรกรรมไทย ตามแนวทางเศรษฐกิจ BCG เพื่อให้สินค้าเกษตรไทยเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ พร้อมผลักดันให้สินค้าเกษตรไทยก้าวจากตลาดภูมิภาคสู่ตลาดโลกอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ทั้งนี้ ภายในงานจะมีการนำสินค้าเกษตรคุณภาพสูงของไทยไปจัดแสดง โดยเตรียมนำผลไม้ไทยที่เป็นไฮไลท์ อาทิ มะม่วงน้ำดอกไม้ มะพร้าวน้ำหอม สับปะรดอบแห้ง ฝรั่งอบแห้ง แก้วมังกร กระเจี๊ยบ และขนุน ซึ่งเป็นผลไม้ยอดนิยม เพราะมีรสชาติอร่อย เชื่อมั่นว่าจะได้รับความสนใจและได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคชาวต่างชาติ
การเข้าร่วมในระดับนานาชาติครั้งนี้ ไม่เพียงสร้างรายได้ให้เกษตรกร แต่ยังเป็นการยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรไทยให้ตอบโจทย์นักลงทุนรวมทั้งผู้บริโภคสากล และยังเป็นโอกาสที่สำคัญในการเชื่อมโยงผู้ผลิตไทยกับตลาดโลก เป็นก้าวสำคัญในการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ (B2B) และการขยายสู่ตลาดผู้บริโภคโดยตรง (B2C) ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเกษตรกรไทย พร้อมปักธง “สินค้าเกษตรไทย” ให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกชั้นนำของเวทีการค้าโลก
งาน World Food Forum 2025 จัดโดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 10-13 ตุลาคม 2568 ณ Park of Porta Capena เป็นเวทีสำคัญสำหรับผู้ลงทุนเพื่อสร้างสรรค์ และลงมือทำเพื่อเปลี่ยนแปลงระบบอาหารและเกษตรให้ยั่งยืน สอดรับกับพันธกิจในการสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืน ภายใต้แนวคิด BCG Economy Model ซึ่งประกอบด้วย Bio Economy : การนำนวัตกรรมมาต่อยอดเพิ่มมูลค่าสินค้า Circular Economy : การจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างมีประสิทธิภาพ Green Economy : การใช้ทรัพยากรเกษตรอย่างสมดุลและยั่งยืน ทั้งนี้ อ.ต.ก. จึงไม่ได้เป็นเพียงผู้จัดหาหรือสนับสนุนพื้นที่จำหน่ายสินค้า แต่คือพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เคียงข้างเกษตรกรไทยในการพัฒนามาตรฐาน สร้างรายได้ และเปิดตลาดใหม่ทั้งในและต่างประเทศ