เปลว สีเงิน
อีสานใต้-ที่ศรีสะเกษ, ตะวันออก-ที่สระแก้ว
พื้นที่ไหนก่อน?
ที่ฮุนเซนจะ “เปิดก่อน” ด้วยการสั่งกองทัพของเขาจัดงานเลี้ยงรับ “๒ แม่ทัพ” คนใหม่ของไทย
ระหว่าง……
“พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ” จากแม่ทัพน้อย มาเป็น “แม่ทัพภาค ที่ ๑” แทน “พล.ท.อมฤต บุญสุยา” ซึ่งเลื่อนขึ้นเป็น “ผู้ช่วยผบ.ทบ.”
กับ “พล.ท.วีระยุทธ์ รักศิลป์”….
จากรองแม่ทัพภาค ที่ ๒ เลื่อนขึ้นเป็น “แม่ทัพภาค ที่ ๒” แทน “พล.ท.บุญสิน พาดกลาง” ซึ่งเลื่อนขึ้นเป็น “ผู้จุดไฟรักชาติโชนฉานในหัวใจประชาชน” ตลอดกาล
ทางอีสานใต้ ด้านศรีสะเกษ
เขมรเสริมกำลังทหารมาเพิ่มด้านทางขึ้นเข้าพระวิหารคึกคัก พร้อมขนอาวุธหนักรวมทั้งรถถังมาด้วย
ยุทธการ “แมงเม่าเขมรบินเข้ากองไฟ” ส่อจะเกิดขึ้นในไม่ช้านัยว่าจะมาชิงเอา “ภูมะเขือ”!
ทางด้านตะวันออกที่สระแก้ว “บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว” เมื่อไทยยื่นคำขาด
“เขมรต้องออกไป-เอาแผ่นดินไทยคืนมา”
พวกเขมรกลับดื้อแพ่ง อ้างด้านๆ ว่า “อยู่นานแล้ว” จึงทึกทักเป็นแผ่นดินเขมร พร้อมแสดงปฎิกริยาต่อต้านเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของไทย
กองกำลังบูรพา โดย “พล.ท.อมฤต” พร้อมด้วยตำรวจควบคุมฝูงชนของ “พล.ต.ต.ถาวร ดุลยวิทย์” ผู้บังคับการตำรวจสระแก้ว
และฝ่ายปกครอง โดย “นายปริญญา โพธิสัตย์” ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เห็นว่า เมื่อพูดกันดีๆ แล้วพวกเขมรทำเป็นมีฤทธิ์
ตานี้แหละ ได้เจอแน่มาตรการ “จากเบาไปหาหนัก”!
มันก็รู้ตัว ตอนนี้จึงระดมพลเช้ามาเตรียมรับมือ ถ้าฝ่ายไทยใช้เครื่องจักรเข้าเคลียร์พื้นที่จริงๆ ละก็
มันจะฝ่อหรือพร้อมปะทะ ….
ดูท่าทีเขมร “กึ่งกล้า-กึ่งกลัว” ยังใช้ชาวบ้านเป็นโล่มนุษย์บังหน้า ส่วนทหารบังอยู่ “หลังตูดชาวบ้าน”
นี่ก็เป็นสัปดาห์สุดท้ายของแม่ทัพภาคของไทย ทั้งภาคที่ ๑ และที่ ๒
เมื่อเข้าตุลา. “แม่ทัพคนใหม่” ของไทยจะมาบัญชาการ ทหารเขมรอยาก “ลองของ” แม่ทัพใหม่คนไหนก่อน รีบเข้ามาเลย
เห็นทหารเขมรโชว์คลิป “กินตับดิบ” ขู่
นัยว่าจะเจี๋ยนทหารไทยควักเอาตับดิบๆ จิ้มพริกกะเกลือกิน ก็เกรงว่า พอพวกมึงเข้ามา
จะได้ “กินตีน” ทหารไทย จน “ตายคาตีน” ซะก่อนมากกว่า ที่จะได้กินตับ โชว์โง่แถมอวดเก่งแบบนี้ ไม่มีใครเกินเขมรสายพันธ์ตะกวดเลยจริงๆ พับผ่า!
ไทยน่ะ ไม่เคยมีอยู่ในหัวเรื่องกลัวเขมร รำคาญมากกว่ากับไอ้พวกแบบ “คนป่าได้ปืน” สู้รบไปก็ไม่สมราคา
บางทีนะ ดูๆ ไป กับเขมร อยากบอกว่า “สมน้ำหน้า” มากกว่า “สงสาร” อย่างวัน-สองวันนี้ เห็นข่าวที่ว่อนเฟซมั้ย?
น้องสาว “บักบอยเขมร” ไปเปิดร้านขายอาหารไทยอยู่ญี่ปุ่น นัยว่าด้วยเครดิต “อาหารไทย” ทั้งเอาธงชาติไทย ชื่อประเทศไทยไปติดหน้าร้าน
ลูกค้าญี่ปุ่นก็เข้าไปอุดหนุนเรียกว่า “ขายดิบ-ขายดี” แต่พอมีปัญหาชายแดนไทย-เขมร เท่านั้นแหละ
น้องสาวบักบอยเขมรก็เอาธงชาติเขมรไปติดทับธงชาติไทยที่ป้ายหน้าร้าน
แถมเอา “ธงชาติไทย” ไปทำเป็นพรมเช็ดเท้าซะด้วย!
เท่านั้นแหละ… เจ๊งสนิท
ไม่เพียงลูกค้าญี่ปุ่น แต่ไม่ว่าลูกค้าชาติไหน เห็นแล้วไม่มีใครเข้าไปกินอาหารในร้านอีกเลย!
เจ๊งจนต้องร้องไห้ฟูมฟายถ่ายคลิปอ้อนวอนขอให้ลูกค้ากลับไปกินเหมือนเดิม
อีกเรื่อง เฟซบุ๊ก Army Military Force เขาเผยเรื่องราวของทหารกัมพูชานายหนึ่ง
ออกมายกมือไหว้อัดลงคลิป จากเหตุที่บ้านหลังหนึ่งกำลังถูกไฟไหม้
บ้านหลังนั้น เป็นบ้านเขาเอง ชื่อ “พลทหาร กง ไลฮียง”
สาเหตุที่ไฟไหม้บ้านเขา….
เพราะเมียเขาจุดธูปเทียน “สาปแช่งทหารไทย” แล้วลืมทิ้งไว้ จนเกิดไฟไหม้หมดทั้งหลัง
เมื่ออัดคลิปยกมือไหว้ร้องไห้แงๆ ขอความช่วยเหลือ เพื่อนทหารของเขาได้เปิดรับบริจาคเงิน โดยระบุว่า
“บ้านทหารกล้าของเราเกิดเพลิงไหม้ตอนบ่ายวันนี้ เขายากจน เขาไม่มีเงิน ดังนั้น ผมจึงขออนุญาตเปิดรับบริจาค
เขาจะได้นำเงินบริจาคไปซื้อวัสดุก่อสร้างเพื่อสร้างบ้านหลังเล็กๆ เพียงพอที่เขาจะอาศัยได้
ผมขอขอบคุณพี่น้องชาวกัมพูชาเป็นการล่วงหน้า ที่มีเมตตาและไม่ทอดทิ้งทหารกล้าตัวเล็กๆ นายนี้ครับ ขอบพระคุณครับ”
เนี่ย…..
ถึงไม่สมน้ำหน้า แต่ก็ไม่สงสาร ตั้งแต่ผู้นำอย่างฮุนเซนจนถึงชาวบ้าน สติปัญญา-ความรู้สึกนึกคิดรับรู้ในความผิดชอบ-ชั่ว-ดี ไม่มีเอาสัยเลยจริงๆ
เป็นเขมร แต่เปิดร้านขายอาหารไทยในต่างด้าว-ต่างแดน เอาชื่อไทยไปเป็นแบรนด์เรียกลูกค้า
พอประเทศตัวเองมีเรื่องกับไทย ก็โกรธ เอาธงชาติไทยไปทำพรมเช็ดเท้าหน้าร้าน
แล้วแบบนี้ คนที่เจริญแล้ว ไม่ว่าชาติไหน เขาเห็นแล้วเขาก็รังเกียจ รับไม่ได้ กับทัศนคติต่ำทรามเช่นนี้
มันก็ต้องเจ๊ง!
หรืออย่างเมียทหารเขมร มันก็อีหรอบเดียวกันหมด จุดธูปสาปแช่งทหารไทย
ทั้งที่ไทยไม่เคยก้าวเข้าไปในแผ่นดินเขมรเพื่อทำร้ายเขมรเลย ตรงกันข้าม เขมรตะหาก ที่รุกล้ำเข้ามาทำร้ายคนไทยถึงในแผ่นดินไทย
แล้วผลเป็นไง ที่สาปแช่งทหารไทย?
ผลคือ ไฟจากธูปเทียนที่จุดสาปแช่งไทย กลับไหม้บ้านตัวเองหมดทั้งหลัง!
เนี่ย…
แล้วพวกเรา “เห็น..ในสิ่งที่ไม่เห็น” กันแล้วหรือยังกับแผ่นดินไทยใต้ผืนธงไตรรงค์?
“ใครคิดร้ายหมายทำลายไทย” ผู้นั้น มันต้องมีอันเป็นไป วิบัติ ฉิบหายวอดวายทั้งโคตรตระกูล!
ผมก็คุยเรื่อยเปื่อย เพราะบางทีมันก็เบื่อเรื่องเครียดๆ กับความคิดและการทำของบางผู้-บางคน
ยิ่งในระบบราชการและงานการเมืองในปัญหาที่เหมือนหมาไล่งับหางตัวเองด้วยแล้ว บอกตรงๆ
มันเศร้า…ด้วยสงสารประเทศชาติที่บรรพบุรุษสร้างไว้ให้ ที่มันปี้ป่น-วุ่นวาย-แก้ไม่ตกจนทุกวันนี้ เพราะจุดเดียวที่ไม่ยอมแก้กัน คือ
“ข้าราชการ” สมประโยชน์กับ “นักการเมือง”
ร่วมมือกัน “คอร์รัปชัน” ผ่านงบ-ผ่านโครงการต่างๆ-การผ่านการประมูลจัดซื้อ-จัดจ้าง และการ “บวกเปอร์เซ็นต์”
ถ้าไม่อย่างนั้นก็ “ไม่เซ็นอนุมัติให้”!
ประเทศไทยที่ไม่ไปไหน และถ้าจะต้องฉิบหายละลายล้มละก็ มาจากเหตุ “ข้าราชการกับนักการเมือง” เป็นมือ-เป็นตีน “โกงเอามาแบ่งกัน” นั่นแหละ เป็นเหตุใหญ่
แต่ไม่ยอมแก้ตรงนั้น กลับแถไถไปแก้ตรงโน้น-ตรงนี้ แล้วก็ลงท้ายที่ “แดกงบแก้” ซ้ำเข้าไปอีก!
แก้ปัญหาเศรษฐกิจ
ไม่ต้องไปแก้ที่เศรษฐกิจ
ไปแก้ที่ตัวข้าราชการและนักการเมืองในวงจรงบงานตามกระทรวงเศรษฐกิจนั่นให้ได้ก่อน
ไม่ต้องไปดูอื่นไกล ลองตอบซิ ข้าราชการกระทรวงไหนบ้าง และในการเมืองยุคใครบริหาร
ที่ต้องเข้าไปอยู่ในคุกด้วยคดีทุจริตคอร์รัปชันมากที่สุด เพราะยอมเป็นเครื่องมือโกงให้นักการเมืองเพื่อแลกกับตำแหน่ง?
คงไม่ต้องให้ผมระบุชื่อกระทรวงกระมัง….
แต่เข็ดกันซะที่ไหน รัฐบาลใหม่ก็ควรตรวจสอบค้นหา “กับระเบิด” ที่นักการเมืองชุดก่อนๆ ฝัง “การงาบงบ” ไว้ผ่านโครงการที่ข้าราชการมือตีนสมคบ
เห็น ”นายกฯ อนุทิน” เปิดนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภา ๒๙-๓๐ กันยา.นี้ มีปัญหาต้องทำด่วนภายในเวลา ๔ เดือน ก่อนยุบสภา เช่น
-จัดทำประชามติ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
-จัดทำโครงการคนละครึ่ง
-แก้ปัญหาหนี้ภาคประชาชนในระบบ รายละไม่เกิน ๑ แสน
-เพิ่มสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการรัฐวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม รายละไม่เกิน ๑ ล้าน
-ฟื้นความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว ปราบการฉ้อโกง หลอกลวงนักท่องเที่ยว
-ตั้งทีมไทยแลนด์ ยกระดับการค้าเสรีกับคู่ค้าเดิม และดำเนินการเชิงรุก เปิดตลาดใหม่เพิ่มขึ้น ดูแลผู้ประกอบการ-เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีสหรัฐฯ
-แก้ปัญหาพิพาทไทย-กัมพูชา ด้วยแนวทางสันติภาพ ยุติความขัดแย้งผ่านกลไกเจรจาทางการทูตควบคู่การป้องกันประเทศที่เข้มแข็ง
-ทำประชามติให้ประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจในการยกเลิกบันทึกเอ็มโอยู ระหว่าง ไทย-กัมพูชา
-เร่งแก้ปัญหาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
-ปราบการพนันผิดกฎหมายทุกรูปจริงจัง ไม่สนับสนุนธุรกิจพนันทุกชนิดให้เป็นธุรกิจถูกกฎหมาย ไม่สนับสนุน เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีธุรกิจพนัน การพนันที่แฝงมาในรูปกีฬา อาทิ โป๊กเกอร์
แล้ว “คอร์รัปชันฝังราก” ในระบบราชการและนักการเมืองล่ะ?
ไม่เห็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาล ๔ เดือน จะตัดหัวไอ้ตัวโกงกินมาเซ่น “แผ่นดินธรรม” เลย!?
รัฐบาล ๔ เดือนนี่ ผมว่า….
แค่รื้อพรมแต่ละกระทรวง “ฆ่าปลวก” ที่แทะกินจนแผ่นทรุดให้เป็นตัวอย่างว่า “รัฐบาลอนุทิน” เอาจริง ซักเรื่องเดียว
รับรอง “แผ่นดินสงบ”
เรื่องอื่นๆ พลอยง่ายและจบได้ทุกเรื่อง…บอกไม่เชื่อ!
เปลว สีเงิน
๒๖ กันยายน ๒๕๖๘
