18 กันยายน 2568 จากกรณีสุนัขพันธุ์พิทบลู คาบเด็กอายุ 2 ขวบจนเสียชีวิต ที่จังหวัดอุทัยธานี และก่อนหน้านี้กรณีสิงโต ทำร้ายผู้ดูแลจนเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงมาตรการด้านความปลอดภัยและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ ดร.สาธิต ปรัชญาอริยะกุล เลขาธิการและผู้อำนวยการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ โดยได้แสดงความคิดเห็นส่วนตัวว่า สำหรับประเด็นการเสียชีวิตสาเหตุเกิดจากสัตว์ทำร้ายคนนั้น จะเห็นมีมากยิ่งขึ้นในประเทศไทย เพราะปัจจุบันผู้ประกอบการหรือแม้แต่ประชาชนโดยทั่วไปสนใจ เลี้ยงสัตว์ดุร้าย สัตว์แปลกๆ มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าเสือ สิงโต หรือสุนัขพันธุ์ดุ ต่างๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็พยายามในการหาแนวทางแก้ไขปัญหา เช่น หามาตรการการดูแล การออกระเบียบกฎหมายเพื่อเป็นแนวทางในการควบคุม การดูแลการเลี้ยงสัตว์เหล่านี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและสร้างความรับผิดชอบของเจ้าของสัตว์
สำหรับในแง่กฎหมาย กรณีสุนัขพันธุ์ดุหรืออันตรายนั้น ปัจจุบันคณะกรรมการป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ได้พิจารณารับรองร่าง ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องการจัดสวัสดิภาพสัตว์เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมที่เหมาะสมสำหรับสุนัขอันตราย พ.ศ…. โดยมีการพิจารณาและจะประกาศเป็นกฎหมายต่อไป โดยเนื้อหาสาระ เช่น นิยาม คำว่า สุนัขอันตราย หมายความว่า สุนัขที่มีลักษณะทางกายภาพ นิสัยหรือพฤติกรรมดุร้าย ขู่กรรโชก ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่น หรือมีประวัติทำร้ายหรือพยายามทำร้ายคนหรือสัตว์เลี้ยงโดยปราศจากการยั่วยุหรือเจ้าของไม่อาจควบคุมได้ และให้หมายความรวมถึงสุนัขที่ได้รับการฝึกสอนให้ทำร้ายคนหรือสัตว์เลี้ยงได้และสุนัขที่มีลักษณะหรือสายพันธุ์ที่อธิบดีกรมปศุสัตว์ประกาศกำหนด
โดยเจ้าของสุนัขอันตรายต้องรับผิดชอบในการจัดสวัสดิภาพ ให้เหมาะสม ทั้งด้านอาหารและน้ำ การจัดการด้านสภาพแวดล้อมและความปลอดภัย เช่น สถานที่เลี้ยงต้องมีพื้นที่ที่เหมาะสม แข็งแรง สามารถป้องกันสุนัขจากการยั่วยุหรือทำร้ายได้ หรือไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าถึงสุนัข และต้องมีป้ายเตือนให้ระมัดระวังโดยสังเกตได้อย่างชัดเจน หากเจ้าของไม่สามารถอยู่ดูแลสุนัขอันตรายเป็นการชั่วคราว ต้องจัดให้มีผู้รับผิดชอบดูแลความเป็นอยู่ของสุนัขแทน และต้องควบคุมไม่ให้สุนัขอันตรายออกนอกสถานที่โดยปราศจากการควบคุม ต้องฝึกสุนัขให้คุ้นเคยกับการใส่สายจูงเมื่อต้องนำไปในสถานที่สาธารณะหรือในกรณีฉุกเฉิน โดยกำหนดให้สุนัขอันตรายต้องใส่อุปกรณ์ครอบปากและสายลากจูงห่างจากตัวสุนัขไม่เกิน 1 เมตร ตลอดเวลาเมื่อนำออกนอกสถานที่เลี้ยง และห้ามผู้หย่อนความสามารถ นำสุนัขอันตรายออกนอกสถานที่เลี้ยง เว้นแต่อยู่ในกรง ที่ขัง หรือมีเครื่องควบคุมที่มั่นคงแข็งแรงเพียงพอจะป้องกันบุคคลภายนอกมิให้มากวนสุนัขได้ เป็นต้น
สำหรับ กรณีมาตรฐานในสวนสัตว์นั้น ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 33 กำหนดให้ สวนสัตว์ต้องเป็นไปตามมาตรฐานการจัดการสวนสัตว์ที่อธิบดีประกาศกำหนด โดย ได้มีระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการประกอบกิจการสวนสัตว์และสวนสัตว์ของหน่วยงานรัฐจัดตั้งตามหน้าที่ พ.ศ. 2567 มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 โดยกำหนดนิยาม สัตว์ดุร้าย หมายความว่า สัตว์ป่าโดยทั่วไปเห็นว่าสามารถทำให้เกิดอันตรายแก่คน สัตว์ หรือทรัพย์สินที่อยู่ภายในสวนสัตว์หรือนอกสวนสัตว์ได้ โดยมาตรฐานด้านการจัดการพื้นที่เลี้ยงสัตว์และพื้นที่จัดแสดงสัตว์ หากเป็นการแสดงสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์ดุร้าย ต้องจัดทำแผนการควบคุมสัตว์ แนวทางการปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน การปฐมพยาบาล และแผนการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ
สำหรับสวนสัตว์ที่จัดให้มีการแสดงสัตว์ที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมกับสัตว์หรือสัมผัสกับสัตว์โดยตรงต้องมีเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างใกล้ชิด และต้องดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้
1. จัดแผนควบคุมสัตว์ การปฐมพยาบาล และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโดยละเอียด
2. จัดให้มีการประกันอุบัติเหตุหรือประกันชีวิตแก่ผู้เข้าชมและเจ้าหน้าที่สวนสัตว์
3. จัดให้มีเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ที่ชำนาญในการควบคุมสัตว์ รวมถึงอุปกรณ์จับบังคับสัตว์ ในพื้นที่จัดแสดงในจุดที่เข้าถึงได้ง่ายและเพียงพอ เช่น ปืนยิงยาสลบ เครื่องช็อตไฟฟ้า ไม้กระบอง ตาข่าย หรือสวิงควบคุมสัตว์ เป็นต้น เพื่อรักษาความปลอดภัย
4. มีมาตรการตรวจสอบป้องกัน ควบคุม โรคติดต่อที่สามารถแพร่กระจายจากสัตว์สู่คนและจากคนสู่สัตว์
5. มีพื้นที่ปลอดภัยให้แก่ผู้เข้าชมและเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ภายในพื้นที่จัดแสดงสัตว์นั้น
6. ควบคุมจำนวนผู้เข้าชมให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่ประกอบกิจการสวนสัตว์
โดยถ้าเจ้าของสัตว์ดุร้ายอันตรายละเลยประมาทเลินเล่อไม่ดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้องนอกจากผิดระเบียบดังกล่าว อาจจะเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ความผิดฐานกระทำประมาทและกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 433 ซึ่งบัญญัติว่า ถ้าความเสียหายเกิดขึ้นเพราะสัตว์ ท่านว่าเจ้าของสัตว์หรือบุคคลผู้รับเลี้ยงรักษาไว้แทนเจ้าของจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ฝ่ายที่ต้องเสียหายเพื่อความเสียหายใดๆ อันเกิดแต่สัตว์นั้น เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังอันสมควรแก่การเลี้ยงการรักษาตามชนิดและวิสัยของสัตว์หรือตามพฤติการณ์อย่างอื่น หรือพิสูจน์ได้ว่าความเสียหายนั้นเกิดแต่ความผิดฝ่ายผู้เสียหายเอง
ดังนั้นการเลี้ยงหรือดูแลสัตว์ดุร้ายอันตราย ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่ความนิยมชมชอบโดยส่วนตัว แต่จะเป็นความรับผิดชอบทั้งต่อการดูแลจัดสวัสดิภาพและการป้องกันการทารุณกรรมสัตว์เหล่านั้นแล้ว ความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลที่เกี่ยวข้องก็เป็นเรื่องสำคัญที่สุด