23 สิงหาคม 2568 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ทหารกัมพูชาพลาด เหยียบกับระเบิดตัวเองที่ปราสาทตาเมือนธม จนเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บนั้น “เรื่องนี้ ต้องบอกพล.ท.หญิง มาลีฯ โฆษกกลาโหมกัมพูชาว่า กรรมตามสนองทหารกัมพูชาเอง อย่างรวดเร็ว การที่ทหารกัมพูชาวางกับระเบิดชนิดต่างๆเพื่อหวังผลในการทำร้ายชีวิตทหารไทยนั้น ที่ผ่านมา พล.ท.หญิงมาลีฯ ได้ให้ข่าวบิดเบือนมาโดยตลอดว่ากัมพูชาไม่ได้ใช้กับระเบิดดังกล่าว แต่ตอนนี้ มีพยานหลักฐานชัดเจนทั้งกับระเบิดที่เก็บกู้ได้ ภาพและข้อมูล ที่บันทึกอยู่ในโทรศัพท์ทหารกัมพูชาที่ตกในที่เกิดเหตุ ตลอดจนความสูญเสียของทหารกัมพูชา ที่เหยียบกับระเบิดของตัวเอง เหล่านี้เป็นหลักฐานที่ชัดเจน ว่า กัมพูชา ให้ข้อมูลนั้นเป็นเท็จต่อชาวโลก“
“รัฐบาลไทยต้องรีบฟ้องและ นำตัวนายฮุนเซน ดำเนินคดีในข้อหา อาชญากรสงคราม ยังศาลอาญาโลก หรือ ICC (International Criminal Court) เพราะการกระทำของนายฮุนเซน ถือว่า เป็นอาชญากรรมระหว่างประเทศที่ร้ายแรงที่สุด ในประเด็นอาชญากรรมสงคราม (war crimes), และอาชญากรรมอันเป็นการรุกราน (crime of aggression) ซึ่งเป็น 2 ใน 4 ฐานความผิดในความรับผิดชอบของ ICC อันได้แก่ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (genocide), อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (crimes against humanity), อาชญากรรมสงคราม (war crimes), และอาชญากรรมอันเป็นการรุกราน (crime of aggression) แม้ว่า ประเทศไทยจะไม่ได้เข้าเป็นภาคีแห่งธรรมนูญแห่งกรุงโรม ค.ศ.2002 ก็ตาม แต่ใช้กระบวนการฟ้องผ่านสหประชาชาติหรือวิธีการต่างๆได้”
พล.ต.ท.ปิยะฯ กล่าวว่า “กรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย–กัมพูชา (Regional Border Committee – RBC) ระหว่างกองทัพภาคที่ 1 ของไทย และภูมิภาคทหารที่ 5 ของกัมพูชา แม้กัมพูชาจะเลื่อนประชุมจากเวลา 14.00 น. ไปจนถึง 01.00 น. ของวันถัดมา ก็ไม่ถือว่าผิดนัด และสามารถนัดใหม่ได้ตามความพร้อม”
พล.ต.ท.ปิยะ ระบุว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ควรถูกมองข้าม เพราะเป็นการ ไม่ให้เกียรติคู่เจรจา และสะท้อนถึงความไม่จริงใจในการรักษาความสัมพันธ์ หากฝ่ายไทยปล่อยผ่านโดยไม่แสดงท่าทีตอบโต้ ก็อาจกลายเป็น “แบบอย่าง” ที่อีกฝ่ายจะนำไปอ้างซ้ำๆ ในอนาคต และทำให้ไทยเสียเปรียบทางยุทธศาสตร์ในระยะยาว
“รัฐบาลไทยต้องมีมาตรฐานที่ชัดเจน ไม่ใช่ปล่อยให้การประชุมเลื่อนหรือยกเลิกได้ตามอำเภอใจ การยอมทุกครั้งไม่เพียงทำให้เสียเกียรติภูมิ แต่ยังเปิดช่องให้กัมพูชาใช้สร้างกระแสทางการเมืองภายในประเทศ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติ” โฆษก พปชร. กล่าว
พล.ต.ท.ปิยะ ฯยังกล่าวถึงกรณี นายไมเคิล อัลฟาโร่ ซึ่งยังคงเคลื่อนไหวเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับชายแดนไทย–กัมพูชา โดยย้ำว่ารัฐบาลไทยควรดำเนินคดีอย่างจริงจัง เพราะการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายบ่อนทำลายความมั่นคง สร้างความเข้าใจผิด และก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทย พร้อมเตือนว่าหากไม่จัดการอย่างเด็ดขาด อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของกัมพูชาในระยะยาว
กรณีดังกล่าว ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นอย่างมาก และข้อความหลายข้อความเป็นข้อความอันเป็นเท็จซึ่งคนไทยส่วนใหญ่รับไม่ได้ การกระทำของนายไมเคิลฯ ดังกล่าวถือว่าเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 120,128,129 และ มาตรา83 ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี และกรณีดังกล่าวแม้ว่าการกระทำจะเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรก็ตาม แต่สามารถดำเนินคดีได้ในประเทศไทยโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 7 (1) ประมวลกฎหมายอาญา ที่กำหนดว่า การกระทำความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 107 ถึงมาตรา 129 ที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรนั้น ผู้กระทำจะต้องได้รับโทษในราชอาณาจักรด้วย
นอกจากนี้การกระทำของนายไมเคิล ยังเป็นความผิด ตามมาตรา 12(7) พระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ถือว่ามีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคมหรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ประเทศไทยสามารถประกาศ ห้ามเข้าประเทศหรือเป็นบุคคลต้องห้าม ได้อีกส่วนหนึ่ง“
“นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แต่คือการปกป้องศักดิ์ศรีของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนไทย ที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการ” พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวย้ำ