เปลว สีเงิน
ฮุนเซนเอ้ยยยยย!
ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้วล่ะ ยังกะล่อนไม่เลิก เห็นโพสต์บอกว่าเกิดวันนี้ (๕ ส.ค.) มิใช่รึ?
เพราะอย่างนั้นซีท่า ทั้งหมาไทย-หมาเขมร ถึงหอนแฮปปี้ เบิร์ธ เดย์ กันข้ามวัน-ข้ามคืน ทำเอาทหารไทยที่ตรึงอยู่ชายแดนนอนไม่หลับ
ก็จะหลับยังไงไหว เสียงหมาหอนยังพอว่า
แต่กลิ่นศพทหารเขมรที่อลึ่งฉึ่งอยู่เกลื่อนแนวปะทะนี่น่ะซี โชยมาผสมเสียงหอนโหยหวนกลางดึก-กลางดื่น
ใครจะหลับตาลงได้ล่ะ?
ประเด็น “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต” ส่งทหารไปรบ พอเป็นศพแล้วบอกไม่ใช่ทหารของข้าหน้าตาเฉย ทิ้งเป็นเหยื่อแร้งกา
แล้วรู้มั้ย…
คนทั้งโลกเขาประณามสองพ่อลูกจอมปลิ้นปล้อนกะล่อนโลกขนาดไหน?
ตอนนี้แทบไม่มีประเทศไหนอยากคบแล้ว กระทั่งสิงคโปร์ยังร่ำๆ จะให้ตัดเขมรออกจาก “สมาชิกอาเซียน” ด้วยซ้ำ!
ฮุนเซนนี่ ตั้งแต่สังคมโลกจับได้ว่าเป็น “ไอ้เฒ่าเลี้ยงแกะ” แถมทหารไทยไล่ถีบไพร่ราบ-พลเลว ที่ส่งเข้ามามั่วเอาดินแดนไทย ตกเขา-ตกห้วย กระเจิงไป
เห็นหน้าในโพสต์ตอนนี้ ออกอาการซึมกระทือ คงไม่ได้หลับได้นอน ถึงเพ้อโพสต์สะเปะสะปะ ว่าไทยจะบุกบ้าง ไทยเข้าไปจับตัวทหารเขมรถึงในค่าย ๑๘ คน บ้าง เอาไปซ้อม เอาไปทรมานบ้าง
สงสัย วิญญานคนเขมรสมัยฮุนเซนร่วมขบวนการเขมรแดงฆ่าทิ้งเป็นแสน-เป็นล้านคน มาหลอกหลอน ถึงเป็นเอามาก!?
ทหารเขมรน่ะ ไปจับเอามาทำเกี๊ยะอะไร หือ…เพราะหมดทางต่อสู้ ยอมแพ้ สงสารหรอก จึงเอาตัวมาคุมไว้
ก็ไม่ได้กัก-ได้ขัง ให้กิน ให้อยู่ ให้หลับ ให้นอน สบายๆ ทางไทยอยากส่งกลับไปเร็วๆ จะตายไป
แต่รู้สันดานเขมรดี พอปล่อยกลับไปปุ๊บ ไทยก็จะตกที่นั่ง “ทำบุญได้บาป” ทันที
เพราะทั้งฮุนเซน ทั้งแม่มาลีศรีสะตอ จะต้องออกมาฉอดๆ ว่า ทหาร ๑๘ นาย ถูกทำทารุณกรรม บังคับ-ขู่เข็ญ เพื่อรีดความลับทางฝั่งเขมร!
เพราะอย่างนั้น ทางไทยจึงต้องเตรียม “ดักทางตอแหล” ไว้ล่วงหน้า
“พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์” ท่านให้เหตุผลในกรณีนี้ไว้ถูกใจผมมาก ท่านบอกว่า….
“เราดูแลอย่างดี เพราะต้องสอบสวน แต่หากมีความไว้ใจกันร้อยเปอร์เซ็นต์คงส่งกลับได้เร็ว
แต่ขณะนี้ มีความไม่ไว้ใจ มีการบิดเบือนทุกวัน เพราะฉะนั้นต้องมีการสอบสวนเพื่อบันทึกข้อมูลหลักฐานให้ครบถ้วน รอบด้าน
ต้องมาคิดว่า หากส่งกลับไปแล้วเขาจะบิดเบือนอย่างไร และจะตอบกลับอย่างไร
ดังนั้น ต้องบันทึกทั้งคำพูดและคำให้การไว้ทั้งหมด จะได้ตอบในภายหลัง
ผมจะไม่ทำให้เขาได้รับผลกระทบ ทั้งร่างกาย จิตใจ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเด็ดขาด ผมต้องทำ คนอื่นไม่ทำก็ได้ เพราะผมเป็นคู่เจรจา”
พลเอกณัฐพลท่านจะไปเจรจาทวิภาคี “ไทย-เขมร” ในวันที่ ๗ สิงหา. ระหว่าง ๔-๖ สิงหา. ให้คณะทำงานทั้งสองฝ่ายเขาคุยกันให้ลงตัวก่อน
กรณี ไทย-เขมร นี้ ในความเห็นผมนะ มี “สหรัฐ-จีน-มาเลย์” สังเกตการณ์มันก็ดี
เพราะคุยทวิภาคี วันนี้ ตกลงกันอย่าง พอพรุ่งนี้ เขมรบอกไม่ใช่…มันเป็นอย่างนี้ซะแล้ว และเบี้ยวข้อตกลงมาตลอด
จะไปอ้างอิงพยานที่ไหนก็ไม่ได้ เพราะคุยกันเอง ๒ ฝ่าย
อีตานี้แหละ….
มี “สหรัฐ-จีน-มาเลย์” คอยสังเกตุการณ์อยู่ด้วย ถือเป็น “พยานยืนยัน” ได้อย่างดี ถ้าฝ่ายไหนสับปลับ!
พลเอกณัฐพลช่วงนี้ สลัดภาพนักการเมืองทิ้ง ฉายศักยภาพความเป็นนายทหารได้ดี และดูท่านมีความมั่นอก-มั่นใจในภารกิจเพื่อชาตินี้มาก
ผมว่า วางใจท่านได้ ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน!
อีกประเด็น การมีผู้สังเกตการณ์อย่าง สหรัฐ-จีน-มาเลย์ เราอย่าไปคิดฟุ้งซ่าน ควรมองในด้านว่า ทั้ง ๓ ประเทศ ไม่มีส่วนได้เสียในพื้นที่พิพาทเหมือนฝรั่งเศส ที่ใช้แผนที่ ๑:๒๐๐๐๐๐
แผนที่มาตราส่วน ๑:๕๐๐๐๐ นี่แหละ มันละเอียด แม่นยำ ชัดเจน เป็นที่ยอมรับและใช้กันเป็นสากล
ฉะนั้น เพื่อความถูกต้อง-เป็นธรรม การปักปันเขตแดน “ไทย-เขมร” เมื่อมี สหรัฐ-จีน-มาเลย์ คอยสังเกตุการณ์ อาจลงตัวที่แผนที่มาตราส่วน ๑:๕๐๐๐๐ ก็เป็นได้!
สังคมโลกทุกวันนี้ มองไทยด้วยความเข้าใจในความเป็นประเทศสุภาพบุรุษ เป็นดินแดนสันติภาพและเสถียรภาพทางเครดิต
ให้เกียรติผู้อื่น ไม่รุกรานใครเท่ากับไม่ยอมให้ใครมารุกราน ไม่ตีหน้าเศร้า-เล่าความเท็จ
ดังนั้น เมื่อเขมร ซึ่งสังคมโลก “รู้เช่นเห็นสันดาน” มามีกรณีพิพาทกับไทย น้ำหนักทาง “ความน่าเชื่อ” ทางเขมร แทบไม่มีเลย!
และต้องชม “ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.)” ที่ “รู้ทันฮุนเซน”
ฮุนเซนก็ดี นางมาลีก็ดี ออกมาสะตอเรื่องอะไร ศบ.ทก.ดักทางได้หมด
อย่างที่กสม.เขมร (คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน) ส่งหนังสือถึง “ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ” ปั้นเรื่องเท็จใส่ไทยเป็นฉากๆ
“ศบ.ทก.” ตอกหน้าแหกชนิดหมอไม่รับเย็บ
อย่างเรื่องการคุมตัวทหารเขมร ๒๐ นาย ก็แจงข้อเท็จจริงว่าเป็นผลจากเขมรละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และกลับมาสู้รบอีกครั้ง
ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยไทยได้ปฏิบัติต่อทหารกัมพูชาอย่างเคารพและเป็นไปตามหลักสากล
เรื่องเขมรอ้างทหารของเขาถูกทรมาน
ความจริงคือทหารบาดเจ็บที่แขนระหว่างการสู้รบ ทางการไทยได้ให้การรักษาพยาบาลเบื้องต้นแล้ว
และเมื่อ ๑ สิงหา.ได้ส่งตัวทหารบาดเจ็บ ๑ นาย และป่วยจิตเวช ๑ นาย กลับไปแล้วตามหลักมนุษยธรรมของอนุสัญญาเจนีวา
ก็เพราะรู้ไต๋ ว่าเขมรจะต้องแว้งกัดแน่….
เพื่อความบริสุทธิ์ใจ ไทยได้เชิญผู้แทนจาก “คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ” (ICRC)
และ “สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ” (OHCHR) เข้าเยี่ยมทหารเขมรที่ถูกคุมตัว
ประชาคมระหว่างประเทศรายไหน ข้องใจ ขอตรวจสอบ ไทยก็ยินดี พร้อมให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่
เรียกว่าไทย…แก้ทางโกหกตอแหลฝั่งเขมรได้อยู่หมัด!
การโวยวายข่าวเท็จของฮุนเซน ฮุนมาเนต และนางมาลีศรีสะตอ เลยไม่ต่างเสียงหมาหอนศพทหารตัวเอง!
ทุกอย่างในโลก มันอยู่ที่คำว่า “truth”
ในขณะที่ไทยมี truth
แต่เขมรมีแต่ “เท็จ”
ฉะนั้น ในทางยาวระยะสั้น จุดจบของสองพ่อลูกตระกูลฮุน กับสองพ่อลูกตระกูลชิน จุดหมายปลายทางอยู่ที่คำว่า กัมมุนา วัฎฎะตี โลโก…กุ๊กๆ พอๆ กัน!
พูดถึงเวรกรรม มีเรื่องอยากเมาท์ เป็นข่าวลมเพ-ลมพัด แต่น่าจะเป็นจริง ในความเห็นผมนะ
คือผู้ใช่นามว่า “หลวงพี่จัสติน วัดดูยูมีน” โพสต์ตัวโตๆ ว่า
“บันเทิง!!ทหารเขมรที่อยู่ในปราสาทตาควาย ร้องขอให้ทหารไทยช่วย หลังไม่กล้าออกจากตัวปราสาท หวั่นเหยียบกับระเบิดที่ตัวเองวางเอาไว้มากมาย!!”
ตลกแสบสันจริงๆ!
จำกันได้มั้ย ยุทธการบุกยึดปราสาทตาควายใน ๕ นาทีสุดท้าย ก่อนเส้นตายหยุดยิง ๒ ยาม คืนที่ ๒๘ กรกฏา.
“ร.ต.เกียรติวงศ์ สถาวร” (หมวดบุ๊ค) วีรบุรุษนักรบของเรา บุกตะลุยกรุยทางนำหน้าให้ชุดปฎิบัติการรบพิเศษ ร.๓๑ รอ.เข้ายึด “ปราสาทตาควาย”
ผู้หมวดของเราโชคร้าย เหยียบกับระเบิดที่ทหารเขมรฝังไว้รอบปราสาทตาควายจนขาขาด
แต่ชุดปฎิบัติการรบพิเศษก็สามารถยึดพื้นที่รอบปราสาทตาควายซึ่งเป็นดินแดนของเรากลับคืนมาได้
เหลือเฉพาะตัวปราสาทที่เข้ายึดยังไม่ได้ ก็ถึงเวลาหยุดยิงก่อน อีกอย่าง เสี่ยงบุ่มบ่ามเข้าไป จะเสียมากกว่าได้ เนื่องจากเขมรฝังกับระเบิดไว้รอบ
เมื่อนำเหตุการณ์มาประมวลกับข่าวทหารเขมรติดกับดักตัวเอง ไม่กล้าออกจากตัวปราสาท
เพราะไม่รู้กับระเบิดฝังไว้ตรงไหนบ้าง คนที่รู้ก็กลายเป็นผีเฝ้าปราสาทไปซะแล้ว จึงต้องยกมือไหว้ทหารฝั่งไทยปลกๆ ให้ช่วย
และขอข้าว-ขอน้ำ เพราะฝ่ายตัวเองไม่มีใครโผล่หัวมาช่วยเลย
ยิ่งเห็นภาพในโซเชียลมีเดีย เขาบรรยายภาพว่า “ทหารเขมรเหยียบกับระเบิดตัวเอง ได้รับการยกย่องเป็นวีรบุรุษ”
เมื่อประมวลเรื่องราวเข้าด้วยกันแล้ว ทหารเขมรที่เข้าไปยึดตัวปราสาทตาควาย “ติดกับดักตัวเอง” ออกมาไม่ได้ นั้น น่าจะมีมูลไม่มากก็น้อย!
หน่วยฝัง มันตายไปแล้ว
หน่วยเฝ้า ก็ไม่รู้มันฝังไว้ตรงไหนบ้าง ก็มี ๒ ทางเลือก อดตาย กับ เสี่ยงตาย เลือกเอา!
ดูๆ ไป พวกเขมรฮุนเซน ไม่ประสาท ก็หน้าด้านเอามากๆ มันยิงถล่มโรงพยาบาลของไทยพัง เสร็จแล้ว มันบอกโรงพยาบาลฝั่งไทยต้องรับรักษาทหารเขมรที่บาดเจ็บ
มันฝังกับระเบิดจนทหารไทยขาขาดไปหลายนาย เสร็จแล้ว ตัวเองติดอยู่ในดงกับระเบิดที่ตัวเองฝัง กลับเรียกให้ทหารไทยไปช่วย
เข้าไปช่วย ก็ซวยซี พวกมึงฝังเอง ยังไม่รู้เลยว่าฝังตรงไหนแล้วจะให้พวกกูฝ่าดงกับระเบิดเข้าไปช่วย
มึงเอาส่วนไหนของสมองคิดวะ….กูปวดหัวจี๊ดกับตรรกะของพวกมึงจริงๆ!?
นี่ถ้าแม่มาลีสีสะตอ ออกมาสบัดก้นพูดว่า “พวกเสียมไม่มีน้ำใจ” อีกละก็
จะหยิกไฝที่แก้มซะให้ครางอ๋อยๆไปเลย!
เปลว สีเงิน
๕ สิงหาคม ๒๕๖๘
