โฆษกภูมิใจไทย ชี้ นายกรัฐมนตรีเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ คือ ความผิดร้ายแรง และเป็นเหตุผลที่ต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจ

30 มิถุนายน 2568 นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า พรรคภูมิใจไทย ได้ยกร่างญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนาวสางแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไว้แล้ว และจะเสนอให้พรรคประชาชน พรรคพลังประชารัฐ พรรคเป็นธรรม และพรรคไทยสร้างไทย ได้พิจารณาว่ามีเหตุผลเพียงพอที่จะร่วมลงชื่อในญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี หรือไม่ ซึ่งในเบื้องต้นนี้ ได้รับแจ้งจากพรรคพลังประชารัฐว่า เห็นด้วยในหลักการ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคงของราชอาณาจักรไทย และเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่ออธิปไตย และดินแดนของรัฐ สำคัญที่สุดคือ กระทบต่อจิตใจของประชาชนคนไทยทั้งชาติที่ไม่อาจไว้วางใจให้นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศต่อไปได้อีกแล้ว

นางสาวแนน บุณย์ธิดา ระบุว่า สำหรับพรรคภูมิใจไทย เรื่องนี้เป็นเรื่องร้ายแรง และมีความสำคัญต่อราชอาณาจักรไทย อธิปไตย ดินแดน และเกียรติภูมิของรัฐ และศักดิ์ศรีของประชาชนชาวไทยมากที่สุด ไม่มีเรื่องใดจะมีผลกระทบมาก และร้ายแรงเท่าเรื่องที่นายกรัฐมนตรี พูดจาเจรจาแบบสมยอมให้กับผู้นำของชาติ ที่กำลังมีข้อพิพาทกับประเทศไทย ถึงกับเรียกตนเอง และผู้นำของชาตินั้นว่า “เรา” ทุกคนที่ได้ฟัง เข้าใจได้ทันทีว่า ขณะคุยโทรศัพท์กันนั้น นายกรัฐมนตรีของคนไทย เป็นพวกเดียวกับสมเด็จฮุนเซน และทหารกัมพูชา ที่กำลังรุกรานดินแดนของประเทศไทย และถูกตอบโต้จากทหารไทย ด้วยอาวุธ และมาตรการปิดด่าน แต่นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยกลับตำหนิแม่ทัพของทหารไทย ว่า “ทำเอาเท่” และกล่าวว่าแม่ทัพเป็นฝ่ายตรงข้ามกับนายกรัฐมนตรี อีกทั้งพยายามกดดันให้แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดด่านตามที่สมเด็จฮุนเซน ต้องการ ซึ่งนายกรัฐมนตรี รับปากไว้ว่า “อยากได้อะไร จะจัดการให้หมด”

“พฤติกรรมของนายกรัฐมนตรีเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว พรรคภูมิใจไทย จะเสนอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ที่คนไทยไม่ไว้วางใจแล้ว ผลโพลที่ออกมา ไม่ได้สะท้อนความนิยมในตัวท่านที่ลดลงจาก 30 % เหลือเพียง 9 % แต่แสดงให้เห็นถึงความไม่ไว้วางใจที่ประชาชนที่ให้กับนายกรัฐมนตรีด้วย ถ้ามีการสำรวจว่าคนไทยไว้วางใจให้นางสาวแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่ เราน่าจะได้คำตอบที่ชัดเจนกว่านี้”

โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สิ่งที่แย่ไปกว่านั้น คือ ท่านนายกฯ ยังไม่รู้สึกว่าได้ทำอะไรผิดต่อประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยเสียหายมากแค่ไหน และ ไม่รู้ว่าประชาชนไม่พอใจท่านด้วยเหตุอะไร ท่านขออภัยที่ถูกเขาอัดคลิปมาปล่อย แต่ท่านไม่เคยขอโทษต่อสิ่งที่ท่านทำให้ประเทศไทยเสียเกียรติภูมิ คนไทยต้องเสียศักดิ์ศรี ชาวบ้านตามแนวชายแดน และ คนทำธุรกิจการค้าชายแดนต้องเดือดร้อนเสียหายมากแค่ไหน ทั้งหมดนี้ คือความเสียหายที่ประเทศไทย และประชาชนได้รับจากการกระทำของท่าน

หากนายกรัฐมนตรี มั่นใจว่าไม่ได้กระทำอะไรผิด แต่เป็นเพราะประชาชนทั้งประเทศเข้าใจผิดกันไปเอง ตามที่ท่านคิด และเชื่อแบบนั้น ขอให้ท่านมาชี้แจงในสภาผู้แทนราษฎร ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้แทนของประชาชนได้พิจารณาตัดสินใจว่าสมควรไว้วางใจให้ท่านทำงานเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย และของคนไทยต่อไปหรือไม่

“ถ้าท่านไม่ต้องการให้ประชาชนลุกฮือขึ้นมาต่อต้านท่าน นอกสภาฯ และเป็นเงื่อนไขที่อาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีใครต้องการ ขอให้ท่านใช้เวทีสภาผู้แทนราษฎร เป็นเวทีชี้แจง และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ท่านสมควรทราบว่าการเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี เป็นเวทีที่รัฐธรรมนูญสร้างไว้ ให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ใช้ชี้แจงให้ประชาชนทราบถึงการทำงานของรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลได้รับความไว้วางใจ และเดินหน้าต่อไป จึงควรใช้เวทีนี้ และโอกาสนี้ ให้ดีที่สุด” นางสาวแนน บุณย์ธิดา กล่าวทิ้งท้าย

Written By
More from pp
“พิพัฒน์” ร่วมเสวนาสมัชชาแรงงานนอกระบบ แนะ เข้าระบบประกันสังคม มาตรา 40 เพื่อได้รับสิทธิประโยชน์ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิติที่ดีขึ้น
“พิพัฒน์” ร่วมเสวนาสมัชชาแรงงานนอกระบบ แนะ เข้าระบบประกันสังคม มาตรา 40 เพื่อได้รับสิทธิประโยชน์ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิติที่ดีขึ้น พร้อมแนะเข้าร่วม “หนึ่งตำบล หนึ่งกลุ่มอาชีพอิสระ” ได้เงินกู้ดอกเบี้ย...
Read More
0 replies on “โฆษกภูมิใจไทย ชี้ นายกรัฐมนตรีเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ คือ ความผิดร้ายแรง และเป็นเหตุผลที่ต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจ”