ผักกาดหอม
“…จบแล้ว ไม่มีอะไรแล้ว…”
คือคำพูดของนายกฯ แพทองธาร ที่บอกกับนักข่าวเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี
จบแบบ นายกฯ ได้ แต่คนอื่นเสีย
ไม่ใช่เสียธรรมดาๆ นะครับ
ก็คงแนะนำได้แค่ว่าหลังจากนี้อย่าคิดเล่นการเมืองต่ออีกเลยครับ ไปหาอาชีพอื่น สาขาอื่นที่เหมาะสมกับลักษณะนิสัยจะดีกว่า
ว่าไปแล้ว “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” เป็นความหวังของใครหลายคน ที่พากันเชื่อว่า นี่คือนักการเมืองน้ำดี สามารถฝากผีฝากไข้ได้ในอนาคต
แต่วันนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นของปลอม!
วานนี้ (๒๔ มิถุนายน) “พีระพันธุ์-พีระพัง” แสดงอาการฉุนเฉียวเล็กๆ เพราะถูกนักข่าวรุมถามเรื่อง มติที่แท้จริงของพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่าเป็นอย่างไรกันแน่
ที่บอกว่าถ้านายกฯ ไม่ลาออก พรรครวมไทยสร้างชาติจะถอนตัวจากรัฐบาล มันใช่มติจริงหรือไม่
“…มติของพรรคให้ไปพูดคุยกับนายกฯ ไม่ได้ให้มาบอกนักข่าว…”
นับว่าชัดเจนที่สุดตั้งแต่วันที่คลิป “อุ๊งอิ๊ง” คุยกับ “ฮุน เซน” ถูกปล่อยออกมา
คงไม่ต้องพูดถึงบทสนทนาอันอัปยศกันอีกแล้ว เพราะประชาชนส่วนใหญ่เห็นตรงกัน “แพทองธาร” ไม่มีความชอบธรรมที่จะนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกต่อไป
แต่พรรคมรดกของลุงตู่ช่วยอุ้มศพที่เน่าเหม็นให้เป็นเจ้านายของตัวเองต่อไป
เมื่อไม่บอกนักข่าว นักข่าวก็ไปถาม นายกฯ แพทองธาร สิครับ
“…โอ้ไม่จริงค่ะ ไม่จริงเลยค่ะ ไม่มีการกดดันใดๆ เกิดขึ้นเลย และวันนั้นก็ได้คุยกันปกติ ที่มีภาพออกไปที่โรงแรมโรสวูด ก็คุยกันเรียบร้อย และพรรคร่วมรัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างมากและให้กำลังใจด้วย เพราะฉะนั้นผ่านไปได้ด้วยดี…”
ใครคนใดคนหนึ่งต้องโกหกครับ!
นายกฯ แพทองธาร โกหก ถือว่าธรรมดาครับ ไม่มีอะไรให้ต้องสงสัย
เพราะเป็นเรื่องปกติของเธอ
แต่หาก “พีระพันธุ์” โกหก ก็ถือว่าตั้งใจเล่นกับความรู้สึกของประชาชน
ทำไปเพื่ออะไร?
อยากอยู่ในอำนาจถึงขั้นต้องขายตัวตนก็ยอมอย่างนั้นหรือ
เห็นมีคนช่วยแก้ตัว แต่ยิ่งแก้ก็ยิ่งมัดคอตัวเอง
“เสธ.หิ-หิมาลัย ผิวพรรณ” ที่ปรึกษาพีระพันธุ์ ชักแม่น้ำทั้งโลก มาอ้างความชอบธรรมที่จะร่วมรัฐบาลต่อไป
ตั้งหัวเรื่องเสียกิ๊บเก๋ยูเรก้าครับ
“…แม้ไม่มีใครรู้ แต่เรารู้ รู้ว่าเรานั้นทำเพื่อใคร…”
“…ความคิดเห็นส่วนตัวของผมดังนี้
๑.ปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นความตั้งใจที่จะทำลาย ท่านนายกรัฐมนตรีของไทยจากผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน ถึงขนาดใช้วิธีการที่ไม่เคยมีผู้นำประเทศไหนในโลกใช้มาก่อน ผู้นำประเทศอื่นๆ ย่อมพิจารณาได้เองว่า เกียรติภูมิและความน่าเชื่อถือของผู้นำประเทศเพื่อนบ้านของไทยท่านนี้ เป็นเช่นไร
๒.ความพยายามของท่านนายกรัฐมนตรีของไทยเรา ที่จะพยายามแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างประเทศ โดยพยายามใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวเพื่อให้อีกฝ่าย ที่ตนเองคิดว่าเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพนับถือ ให้ความเมตตาและลดความแข็งกร้าว เพื่อจะนำไปสู่การเจรจา ผมพิจารณาแล้ว ว่ายังไม่มีเจตนาถึงขั้นที่จะขายชาติ ตามที่ถูกกล่าวหา
๓.หลังจากผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน นำคลิปการเจรจาที่ไม่เหมาะสม ออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชน โดยไม่คำนึงถึงมารยาททางการเมืองระหว่างประเทศ ทำให้เกิดปัญหาซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีจะต้องดำเนินการแก้ไข ดังนี้
๓.๑ ท่านแม่ทัพภาค ๒ ซึ่งเป็นผู้ถูกเอ่ยนามในบทสนทนาโดยตรง
๓.๒ กองทัพบก และทหารตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกเหล่าทัพ เนื่องจากแม่ทัพภาค ๒ ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะข้าราชการทหาร เพื่อปกป้องประเทศชาติตามกฎหมายและจิตสำนึก
๓.๓ ประชาชน ผู้เป็นเจ้าของประเทศนี้ร่วมกันทุกคน
ในข้อ ๓.๑ และ ๓.๒ ท่านนายกรัฐมนตรี ได้มีการขอโทษและแสดงออกอย่างชัดเจนแล้ว ทางท่านแม่ทัพภาค 2 และกำลังพลทหารตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ ย่อมเป็นผู้พิจารณาเองว่าจะให้อภัยหรือไม่
ส่วนในข้อ ๓.๓ นั้น เป็นข้อที่ยากที่สุด ที่ท่านนายกรัฐมนตรีจะต้องแสดงออกให้ประชาชนได้เห็นว่า ท่านพร้อมปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงอื่นใดกับทางประเทศเพื่อนบ้าน เหมือนกับที่ผู้นำประเทศนั้นพยายามจะสื่อสารให้คิดไปในทำนองดังกล่าว
ซึ่งในส่วนนี้ ทั้งหมดเป็นส่วนที่ท่านนายกรัฐมนตรี จะต้องดำเนินการแก้ไขด้วยตัวเอง
ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น มีกฎหมายพลังงานหลายฉบับที่จะต้องพยายามนำเข้า ครม. และสภาฯ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ เพื่อเป็นประโยชน์กับประชาชนให้มากที่สุด โดยเฉพาะกฎหมายโซลาร์รูฟเสรี อยู่ในขั้นตอนที่พร้อมจะนำเข้า ครม. และเข้าสภาฯ ในวาระที่จะถึงนี้ ซึ่งถ้ากฎหมายฉบับนี้ผ่าน อย่างน้อยประชาชนและผู้ประกอบการ ก็จะมีพลังงานทางเลือกสำหรับพึ่งพาตนเองได้ และหากโชคดี กฎหมายที่เกี่ยวกับน้ำมัน, ไฟฟ้าและก๊าซหุงต้ม สามารถนำเข้าสภาฯ ได้ทัน ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อประชาชน
แน่นอนครับ ในการตัดสินใจร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยต่อไป จะต้องโดนกระแสการต่อต้านและไม่พึงพอใจของประชาชน ซึ่งผมคิดว่า ท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ย่อมทราบดี ว่าการตัดสินใจเช่นนี้ของท่าน อาจทำให้กระแสนิยมของท่านและพรรคตกลง แต่เมื่อเทียบกับโอกาสที่จะฝากกฎหมายดีๆ ไว้ให้ประเทศนี้ และผลประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับในระยะยาว ย่อมเป็นสิ่งที่นักการเมืองที่ดีพึงกระทำ
ผมขอสดุดี ในความกล้าหาญและเสียสละของ ท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ในครั้งนี้ ขอขอบคุณแฟนคลับ ที่ส่งข้อความให้กำลังใจและแสดงถึงความเข้าใจการตัดสินใจ มาให้ผม ทำให้ผมมีความกล้าพอที่จะเขียนบทความนี้ขึ้น เพื่อแสดงถึงจุดยืนของตัวเอง และขอเป็นหนึ่งกำลังใจที่จะเคียงข้างให้ท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ผลักดันกฎหมายพลังงานเพื่อประชาชนได้เป็นผลสำเร็จ…”
ขึ้นต้นนึกว่าแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทย
ลงท้ายจะบรรจงรังสรรค์ผลงานต่อไป
ก่อนหน้า “ฮุน เซน” จะแฉ “อุ๊งอิ๊ง” มีข่าวหนาหูออกสื่ออยู่หลายวันว่า ทุนพลังงานที่สนับสนุนรัฐบาลยื่นโนติสให้เปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานโดยด่วน
รวมไทยสร้างชาติถึงได้แตกเป็น ๒ คอก!
พูดความจริงกันเถอะครับถึง “พีระพันธุ์” จะเกาะแข้งเกาะขาระบอบทักษิณเป็นรัฐมนตรีต่อ ก็ใช่ว่าจะเสกกฎหมายที่ว่าได้ด้วยตัวเอง
ยืนอยู่บนความจริงแล้วดูว่าตัวเองมี สส.เหลืออยู่กี่คน
อย่าคิดว่ากฎหมายที่ขัดใจนายทุนจะผ่านได้ง่ายๆ
ถ้าพรรคเพื่อไทยเขาไม่เอาด้วยก็จบ
ครับ…ภาพที่มองเห็นวันนี้ “อุ๊งอิ๊ง” ซึ่งไม่ประสีประสาการเมือง คุม “พีระพันธุ์” อยู่หมัด
จบแล้วครับ
