ผักกาดหอม
ยังพอมีโอกาสให้กลับตัวกลับใจครับ
มีคนบอกว่า “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ร่วมรัฐบาลต่อ เพราะ “ลุงตู่” ไฟเขียว
เท็จจริงอย่างไรมิทราบได้ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมา “พีระพันธุ์” จะต้องจบชีวิตทางการเมืองไปอย่างถาวร หากดึงดันยอมรับใช้ “ระบอบทักษิณ” ต่อไป
“ลุงตู่” ท่านเป็นองคมนตรีครับ การมาพัวพันกับการเมืองคือสิ่งต้องห้าม
ฉะนั้นท่านรู้สถานะของท่านดี
หากมีใครไปแอบอ้าง ว่าอยู่เบื้องหลัง “พีระพันธุ์” ก็ควรจะหยุดเสีย เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับตำแหน่งอันสูงเกียรตินี้
ขอเตือนว่า อย่าดูถูกกระแสสังคมในปัจจุบันเด็ดขาด
ในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” เผยแพร่เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๖๑ ขณะ “ลุงตู่” ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีคำพูดอยู่ตอนหนึ่งที่เกี่ยวกับนักการเมือง
“…ไม่ได้รังเกียจนักการเมือง พรรคการเมือง เพราะส่วนใหญ่เป็นคนดี แต่ไม่อาจยอมรับผู้ที่ทำผิดกฎหมาย ผู้ที่ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมหรือผู้ที่ต่อต้านอำนาจรัฐ
และพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกคนที่มีอุดมการณ์รักชาติ และทำเพื่อความสุขของประชาชน
ในส่วนตัวมองว่า ปัญหาไม่ได้หมายถึงความขัดแย้ง แต่ปัญหาคือจุดเริ่มต้นของความสามัคคี เพราะคนที่มีอุดมการณ์เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนด้วยกัน เมื่อได้ร่วมงานกัน ก็ย่อมจะยอมสละผลประโยชน์ส่วนตัวได้ แล้วก็ร่วมกันแสวงหาแนวทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด เพื่อชาติบ้านเมือง โดยยึดมั่นในอุดมการณ์ดังกล่าว
ไม่อยากให้ฟังการวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ ที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง จากบางกลุ่ม บางฝ่าย ที่อาจจะไม่หวังดี แล้วก็มองเป็นเรื่องของการเมือง ในเรื่องของการเมืองก็เป็นเรื่องของการเมืองไป การเมืองเป็นสิ่งสำคัญ
แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องเศรษฐกิจของพวกเรา เรื่องชีวิตความเป็นอยู่ ความสงบ เรียบร้อย สันติ ปลอดภัย อันนั้นก็สำคัญ ไม่ใช่แต่การเมืองสำคัญแต่เพียงอย่างเดียว เป็นส่วนประกอบซึ่งกันและกันทั้งสิ้น
ก็ขอให้ทุกคนหนักแน่น และอดทนและเชื่อมั่น ร่วมมือกับรัฐบาลในการทำงานในทุกๆ มิติ…”
นั่นคืออุดมการณ์ของ “ลุงตู่” ที่นักการเมืองในพรรครวมไทยสร้างชาติมักนำมากล่าวอ้างก่อนหน้านี้เสมอ
หลักๆ คือ พวกนักการเมืองที่ทำผิดกฎหมาย ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม พวกนี้อย่าไปยอมรับ
ต้องทำงานร่วมกับนักการเมืองที่มีอุดมการณ์เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนด้วยกันเท่านั้น
พรรครวมไทยสร้างชาติ หลัง “แพทองธาร” เปิดประตูเมืองให้ข้าศึกเป็นอย่างไร สังคมไทยรับรู้กันไปแล้ว
ไม่ต้องพูดเรื่องอุดมการณ์กันอีกเพราะไร้ประโยชน์ อุดมการณ์ “ลุงตู่” มันถูกฉีกไปเรียบร้อยแล้ว
เมื่อปี ๒๕๖๑ “ลุงตู่” เรียกร้องให้ ทุกคนหนักแน่น อดทนและเชื่อมั่น ร่วมมือกับรัฐบาลในการทำงานในทุกๆ มิติ ได้รับการตอบรับโดยไม่ต้องตั้งคำถามกันมาก
ผู้คนส่วนใหญ่พร้อมที่จะเดินตามและให้การสนับสนุนอย่างไม่มีเงื่อนไข
ต่างกับวันนี้อย่างสิ้นเชิงครับ
“อุ๊งอิ๊ง” กำลังใช้ความพยายามอย่างหนักครับ ที่จะเรียกศรัทธาที่มีอยู่น้อยนิดกลับคืน
ช่วงนี้แทบไม่ได้หลับได้นอน มีเวลาไปเลี้ยงลูกบ้างหรือเปล่ามิทราบได้ เพราะขยันเหลือเกิน ประชุมทุกวัน มีมาตรการทุกวัน
ถ้าย้อนกลับไปวันแรกๆ ที่มีปัญหากับกัมพูชา แล้ว “อุ๊งอิ๊ง” ขยันแบบนี้ คะแนนนิยมคงจะพุ่งยิ่งกว่าค่าครองชีพประชาชน
แต่ขยันเมื่อสายไปแล้ว!
ความพยายามทั้งหมดจึงถูกมองเป็นการแก้ตัว มากกว่าจะแก้ปัญหา
เมื่อ “อุ๊งอิ๊ง” เรียกร้องให้ประชาชนรวมพลังเพื่อความมั่นคงของชาติ ก็ถูกมองว่า เพื่อความมั่นคงของรัฐบาลระบอบทักษิณต่างหาก
คนที่ร่วมกันหามจึงหนีไม่พ้นถูกตราหน้าว่า ทรยศประชาชน
วานนี้ (๒๓ มิถุนายน) เป็นอีกวันที่ “อุ๊งอิ๊ง” ขยันจนผิดหูผิดตา
ละเมิดกระทั่งคำพูดของ “ทักษิณ”
จากยูเอ็นไม่ใช่พ่อ มาวันนี้ ยูเอ็นคือทางรอด
“…วันนี้มีการประชุมกันทุกภาคส่วน มีการประกาศว่ารัฐบาลกำลังจะประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ
โดยไทยอาสาเป็นเจ้าภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในการหาความร่วมมือกับนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน รวมไปถึงเรื่องของความเชื่อมั่นของประเทศไทยในระดับนานาชาติ
ตัวอย่างที่เป็นปัญหาในเรื่องของสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ก็ได้รับผลกระทบทั่วโลก ขอยกระดับในเรื่องการแก้ไขปัญหานี้จากข้อมูลของทางสหประชาชาติ
โดยสหประชาชาติได้มีข้อมูลว่ากัมพูชาถือเป็นแหล่งศูนย์รวมอาชญากรรมระดับโลกและเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ซึ่งมีมูลค่ากว่า ๖๐๐,๐๐๐ ล้านบาท
และสหประชาชาติมีข้อมูลอีกว่า ๔๐%-๖๐% ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของกัมพูชามาจากคอลเซ็นเตอร์ และมีในเรื่องของการฟอกเงินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราก็พยายามจะรักษาในเรื่องของความปลอดภัยของประชาชน
ประเทศไทยโดยหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วยงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ เร่งดำเนินการปราบปรามอย่างเด็ดขาดตามแนวชายแดน…”
ออกมารูปนี้ “ทักษิณ” คงแตกกับ “ฮุน เซน” ร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มแล้ว ใช่หรือไม่
“ทักษิณ” ไม่น่าจะใช้บริการเส้นทางธรรมชาติฝั่งตะวันออกเหมือนอดีตอีกแล้ว เพราะมีความไม่มั่นคงสูง จริงหรือไม่
อาจถูกเขมรจับคารั้ว!
นี่คือการเปิดสงครามกับ “ฮุน เซน” เต็มรูปแบบ โดยไม่เกรงกลัวว่า “ฮุน เซน” จะปล่อยคลิปลับอะไรออกมาอีกอย่างนั้นหรือ
หรือแค่เรื่องผัวเมียตีกัน!
มันก็ดีอยู่หรอกครับกับการที่รัฐบาลสนใจความเดือดร้อนของประชาชนคนไทยที่ถูกแก๊งอาชญากรรมในเขมรหลอกลวง
ความเสียหายแต่ละวันหลักสิบล้านบาท
เพียงแต่ข้อมูลยูเอ็นเหล่านี้ มีมานานแล้ว แต่รัฐบาลไม่เคยใส่ใจ
ในคลิปที่ “ฮุน เซน” เอาออกมาแฉ ก็ไม่มีทีท่าว่า “อุ๊งอิ๊ง” จะสนใจความเดือดร้อนของคนไทย กลับเสนอ “ฮุน เซน” ว่าอยากได้อะไร จะจัดให้
การเปิดศึกกับ “ฮุน เซน” เป้าหมายที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ ทำเพื่อประชาชนจริงหรือเปล่า
หรือเพื่อรักษาอำนาจ
เผลอๆ วิน-วินทั้ง “ทักษิณ” และ “ฮุน เซน” ที่ต่างปลุกกระแสรักชาติในประเทศตัวเองสำเร็จ แล้วปล่อยให้เรื่องค่อยๆ จบไปเงียบๆ
มีคนบอกว่า “ทักษิณ” ชอบเสี่ยง
นี่เป็นอีกครั้งที่เสี่ยงใช่หรือไม่
คำตอบจะเผยออกมาในไม่ช้า.
