ด้วยรักและเป็นห่วงเขมร #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ไม่มีใครตีกันครับ…

ตั้งหลักได้เสียที

วานนี้ (๑๖ มิถุนายน) นายกฯ แพทองธาร ถือไอแพดเรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงที่บ้านพิษณุโลก

เสร็จแล้วก็ถ่ายรูปร่วมกับ ผบ.เหล่าทัพ

รูปออกมาสวยทีเดียว นายกฯ กอดไอแพดแน่นเชียวครับ

อยากให้ประชาชนเห็นภาพว่ารัฐบาลกับกองทัพกลมเกลียวก็ว่ากันไปครับ แต่มีคนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่า รัฐบาลพยายามสร้างภาพ หลังเสียคะแนนจากกรณีกัมพูชาไปเยอะ

การประชุมครั้งนี้มีสาเหตุมาจากความห้าวระห่ำของ “สทร.เขมร” มันจึงกลายเป็นไฟต์บังคับที่รัฐบาลต้องขยับ ไม่งั้นต้องเดินตามก้นเขมรไปอีกหลายก้าว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานกันครึกโครม “ฮุน เซน” เล่นเกมบุก ราวกับอิสราเอลยิงจรวดถล่มอิหร่าน

อะไรที่คิดว่าไทยจะทำ “ฮุน เซน” ชิงทำก่อน

“…เราไม่สามารถพึ่งพาผู้อื่นได้ตลอดชีวิต เราไม่สามารถอยู่ในประเทศไทยได้ตลอดไป…”

“…ตอนนี้เป็นเวลาเหมาะสมแล้ว ตราบใดที่ปัญหาชายแดนยังไม่ได้รับการแก้ไข การเลือกปฏิบัติและการดูหมิ่นจะคงอยู่ต่อไป เราควรกลับไปบ้านเกิดของเราเสียก่อนที่จะถูกขับไล่

แม้ว่ากัมพูชาจะเคยขาดโอกาสในการจ้างงานเพียงพอ แต่ปัจจุบันสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว มีงานว่างหลายพันตำแหน่งในอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และก่อสร้าง…”

“…ให้ไทยยกเลิกข้อจำกัดการข้ามแดน มิเช่นนั้นจะห้ามนำเข้าผลไม้และผักไทยทั้งหมด ท่ามกลางความขัดแย้งชายแดนรอบล่าสุดระหว่างสองประเทศ…”

คงเป็นยุทธการทุบหม้อข้าวสไตล์เขมร!

“ฮุน เซน” คิดว่าการที่ไทยไม่มีแรงงานเขมร ไม่สามารถส่งผักผลไม้ไปเขมรได้ ไทยจะเป็นฝ่ายเสียหายมากกว่า

ไปดูสถิติแรงงานต่างชาติในไทยกันหน่อย โดยเฉพาะจากประเทศเพื่อนบ้านว่ามีอยู่เท่าไหร่

ตัวเลขล่าสุด มีจำนวนทั้งสิ้น ๓,๗๘๙,๓๘๙ คน ทั้งหมดมาจาก ๓ ประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เมียนมา กัมพูชา และ สปป.ลาว

แบ่งเป็นแรงงานจาก เมียนมา มากที่สุดจำนวน ๒,๙๘๗,๙๘๘ คน

กัมพูชา ๕๑๒,๑๘๔ คน

และ สปป.ลาว ๒๘๙,๒๑๗ คน

แบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ดังนี้

เมียนมา ๗๓.๒%

กัมพูชา ๑๒.๕%

ลาว ๗.๐๙%

ตัวเลขนี้ไม่รวมแรงงานผิดกฎหมายอีกมหาศาล

จะกระทบแค่ไหนถ้าแรงงานกัมพูชากลับบ้านหมดตามคำชักชวนของ “ฮุน เซน”

ผลกระทบย่อมมีแน่นอน แต่ไทยสามารถจัดหาแรงงานจากเมียนมา และลาว เพิ่มเติมได้ ฉะนั้นการหยุดชะงักจะเป็นแค่ชั่วคราว

กลับกันชาวกัมพูชามากกว่าครึ่งล้านคนจะมีสถานะตกงานทันทีที่ข้ามแดนไป การหางานใหม่ในกัมพูชาซึ่งมีรายได้เทียบเท่าการทำงานในไทยนั้น แทบเป็นไปไม่ได้

พืชผักผลไม้จากไทยก็เช่นกัน การนำเข้าหมายถึงการผลิตในประเทศไม่เพียงพอ หรือไม่มีการผลิต ผลก็เป็นไปตามกลไก

ขาดแคลน

ที่มีอยู่ก็ราคาสูง

ขณะที่ไทยสามารถระบายไปทางอื่นได้

ฉะนั้นไม่มีอะไรน่าตกใจกับการเมืองสไตล์เขมร

ปล่อยให้ขู่ไป

เพราะสุดท้ายจะเป็นการขู่ไปเรื่อยไร้สาระ

เช่นที่บอกว่าจะปิดด่านทุกด่าน วานนี้ (๑๖ มิถุนายน) สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ฮุน เซน” อ้างว่า เลื่อนไปก่อนเพราะ “ฮุน มาเนต” คุยกับ “อุ๊งอิ๊ง” แล้ว

คุยอะไรกัน?

นายกฯ แพทองธารบอกว่าโทร.คุยหลังไมค์กับ “ฮุน มาเนต” ตลอด

“…เราต้องการสันติภาพระหว่างสองประเทศ ไม่ต้องการความขัดแย้ง ต้องการรักษาชีวิต ความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงไม่ต้องการให้เสียเลือดเนื้อของทหารทั้งสองประเทศ…”

“…แต่สิ่งที่สื่อสารออกมาทางโซเชียลที่นอกกรอบ และเป็นการสื่อสารที่ไม่มืออาชีพที่ออกมาเรื่อยๆ ทำให้เกิดความวุ่นวายในการจัดการ…”

ไม่ทราบว่าด่า “ฮุน เซน” หรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ต้องตบมือให้ ถึงจะช้าไปพอควรก็ตามที

นุ่มนิ่มไม่ได้ครับ รัฐบาลต้องชัดเจน ยิ่งมีข้อสงสัยในความสัมพันธ์ของ “ทักษิณ-ฮุน เซน” ด้วยแล้ว ยิ่งต้องรีบทำความเข้าใจกับประชาชน

แต่… “อุ๊งอิ๊ง” ก็ยังคงเป็น “อุ๊งอิ๊ง” คนเดิม นุ่มนิ่มราวกับอยู่บนโลกที่ไร้ปัญหา

“…การที่จะประกาศเรื่องการปิดด่านเลยหรือใดๆ ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศ เราห่วงใยทั้งเรื่องการค้าขายตรงนั้น ถ้ามีการปิดด่านทั้งหมดมันกระทบเรา

ถึงไม่มีการปิดด่านแต่เราปรับเวลา และดิฉันได้แจ้งทางกัมพูชาว่าดิฉันจะมีการประชุมในวันนี้ก่อน เพื่อรายงานผลว่าเราจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ซึ่งตอนนี้ได้ส่งข้อความถึงนายกฯ กัมพูชาว่า เสนอให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ซึ่งเป็นการประชุมระดับกองทัพของทั้งสองประเทศ ให้พูดคุยกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ว่าเพิ่งส่งไป และถึงได้เห็นข้อความที่โพสต์ในเฟซบุ๊ก ถือเป็นการสื่อสารที่ไม่อยู่ในกรอบ…”

ก็ไม่ทราบว่ายังเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ไทยเป็นฝ่ายปรับเวลาเปิดปิดด่าน เพราะต้องการกดดันกัมพูชาเรื่องการรุกล้ำดินแดน

ให้เขมรถอยออกไป

ผลกระทบมันมีอยู่แล้วครับ ก่อนปรับเวลาก็ต้องคุยกันให้ตกฟากว่ายอมรับกันได้แค่ไหน

แต่ถ้ายังห่วงเรื่องค้าขายก็ไม่ควรทำตั้งแต่แรก

ยึกยักแบบนี้มันเสียเชิงครับ ทาง สทร.เขมร ถึงได้ขี่ไทยรายวัน

เล่นกับ “ฮุน เซน” ต้องใช้ความเด็ดขาด ถ้ายังหน่อมแน้มอยู่อย่างนี้ เขมรได้ใจ หลอกด่าไทยไปเรื่อย

เช่นที่บอกว่า “มีแค่โจร ที่กลัวศาล”

คิดถึง “สทร.ไทย” ครับ

ช่วงนี้หายเงียบไม่ยอมออกมาเสือก ทั้งๆ ที่เรื่องเขมรควรจะเสือกให้สมน้ำสมเนื้อกับที่ “สทร.เขมร” เสือก

หรือมีอะไรลับลวงพรางต้มประชาชนทั้ง ๒ ประเทศ

ครับ…ถ้าเป็นรัฐบาลลุงตู่ “ฮุน เซน” คงไม่กล้าเล่นแบบนี้

แต่มากล้าในรัฐบาลแพทองธาร

ทำไมถึงกล้า?

มีความลับอะไรระหว่างกันหรือเปล่า.

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
นักข่าว..แค่หมากตัวเดียว?-สันต์ สะตอแมน
สันต์ สะตอแมน             เห็นข่าวนักข่าวถูกไล่-ถูกพัก(งาน)แล้วให้ใจหดหู่..             แต่..ก็ไม่รู้จะปลอบประโลมแบบไหนอย่างไร เพราะการไปร่วมทัพกับ “หมอปลา” เพื่อออกไล่ล่าอลัชชีตามวัดวานั้น
Read More
0 replies on “ด้วยรักและเป็นห่วงเขมร #ผักกาดหอม”