14 พฤษภาคม 2568 เวลา 15.00 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายจู ฮวาหรง (Mr. Zhu Huarong) ประธานบริษัท ฉางอาน ออโต้โมบิล และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เข้าร่วมด้วย
ภายหลังเสร็จสิ้น นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับประธานบริษัท ฉางอาน ออโต้โมบิล และคณะ พร้อมแสดงความยินดีต่อการเปิดโรงงานและสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการที่จะจัดขึ้นในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ ที่จังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบพวงมาลัยขวาแห่งแรกนอกประเทศจีน โดยนายกรัฐมนตรีขอบคุณบริษัทฯ ที่เชื่อมั่นมาลงทุนในประเทศไทย และมั่นใจว่าการลงทุนของบริษัทในครั้งนี้จะสนับสนุนบทบาทของไทยในห่วงโซ่อุปทานยานยนต์พลังงานใหม่ในระดับโลกได้อย่างมั่นคง
ด้านประธานบริษัท ฉางอาน ออโต้โมบิล กล่าวยินดีอย่างยิ่งที่ได้พบหารือกับนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พร้อมชื่นชมประเทศไทยว่าเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูงและเหมาะสมต่อการลงทุน โดยประธานบริษัทฯ ขอบคุณรัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ BOI ที่ให้การดูแลและสนับสนุนการลงทุนของบริษัทฯ ด้วยดีตลอดมา ซึ่งบริษัทฯ มีการลงทุนในไทยเป็นจำนวนมาก และมีแผนจะขยายการลงทุนในไทยมากขึ้นในอนาคต โดยเห็นถึงศักยภาพของไทยในการเป็นแหล่งลงทุนที่เหมาะสมที่สุด ทั้งในด้านทำเลที่ตั้ง กลยุทธ์และมาตรการสนับสนุนการลงทุนของรัฐบาล ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน และที่สำคัญคือ ความสัมพันธ์ที่ยาวนานระหว่างไทยกับจีน
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือความเป็นไปได้ในการขยายการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา สำหรับรถยนต์พวงมาลัยขวา โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการทำวิจัยและพัฒนาในทุกภาคส่วน ซึ่งจะช่วยยกระดับเทคโนโลยีและสร้างนวัตกรรมใหม่ให้เกิดขึ้น โดยรัฐบาลมีความร่วมมือกับหลายบริษัทที่เข้ามาลงทุนในไทย เช่น Google, Microsoft และ Tiktok โดยมีการทำการวิจัยและพัฒนาควบคู่ไปด้วย เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลมีการพัฒนาในด้านการศึกษา การวิจัย พัฒนาคน และนวัตกรรม ครอบคลุมทั้งระบบ และต้องการมีความร่วมมือกับบริษัทฯ ในด้านนี้อย่างใกล้ชิดด้วย โดยเชื่อมั่นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของทั้งไทยและจีนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ด้านประธานบริษัทฯ เน้นย้ำว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญด้านการวิจัยและพัฒนาเช่นเดียวกัน โดยมีการสนับสนุนด้านการพัฒนาทักษะให้แก่บุคลากรในทุกระดับ ซึ่งรวมถึงคนไทย นอกจากนี้ บริษัทฯ พร้อมพิจารณาการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D Center) สำหรับรถยนต์พวงมาลัยขวาในไทย และสนับสนุนให้ใช้วัสดุภายในประเทศไทยในการผลิตมากขึ้นด้วย