ผักกาดหอม
เหมือนของแสลง…
ข่าวยุบสภาคือข่าวที่ สส.ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลล้วนไม่ชอบทั้งสิ้น
ไม่มีใครอยากเหนื่อยครับ
อายุสภาเหลืออีกประมาณ ๒ ปี อยู่รับเงินเดือนเต็มๆเดือนละแสนต้นๆ ดีกว่าไปตากแดดหาเสียง ไม่รู้จะได้กลับเข้าสภาอีกครั้งหรือไม่
การยุบสภามี ๒ กรณีหลักๆ
กรณีแรกยุบแบบที่ “ลุงตู่” ยุบ คือสภาใกล้หมดวาระเต็ม ชิงยุบเสียก่อน
เมื่อนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจออกพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายในไม่เกิน ๖๐ วัน นับแต่วันที่มีการยุบสภา แทนที่จะให้อยู่จนครบวาระ ที่ กกต.ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายในไม่เกิน ๔๕ วัน
ส่วนการยุบสภาที่กำลังจะเกิด คือการยุบเพราะวิกฤตในรัฐบาล ซึ่งมีเหตุผลร้อยแปด
แต่ส่วนใหญ่มาจากความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล
ก็ตามที่เป็นข่าวครับ พรรคภูมิใจไทย จะคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๙
พรรคเพื่อไทยดูร้อนรนกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะการปล่อยอำนาจรัฐหลุดมือ หมายถึงประโยชน์ต่างๆ หลุดมือไปด้วย
ฟังเหตุผลของ สส.พรรคเพื่อไทยบางคนทำให้เห็นครับว่าเหมือนคนไม่มีอดีต
“อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด”
“…ไม่มีเหตุผลที่พรรคการเมืองใดจะนำร่างงบประมาณ มาใช้เป็นเครื่องมือในการต่อรองกันทางการเมือง สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก คือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
การเดินหน้าพัฒนาประเทศ งบประมาณเป็นเครื่องมือสำคัญในการผลักดันและนำพาประเทศพัฒนาไปข้างหน้า
พรรคการเมืองที่ถูกโยงว่าอยู่เบื้องหลังการเตรียมการโหวตคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ก็ออกมายืนยันแล้วว่าไม่เคยคิดและไม่มีประโยชน์ที่จะทำเช่นนั้น
ในสถานการณ์ที่ประเทศชาติมีปัญหาหลายด้าน ทุกภาคส่วนควรร่วมด้วยช่วยกัน นำพาประเทศชาติและประชาชนออกจากวิกฤต คิดเรื่องการเมืองให้น้อย คิดเรื่องบ้านเมืองให้มาก
ร่างงบฯ ปี ๖๙ ไม่ใช่เครื่องต่อรองทางอำนาจ แต่เป็นกุญแจในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส สร้างรายได้ให้ชุมชน และฟื้นฟูประเทศหลังวิกฤต…”
เท่าที่ฟังเหมือนจะบอกว่าพรรคการเมืองทั้งหมดไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ต้องไม่นำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณมาเป็นเกมการเมือง
ถ้าให้พูดอีกที “อนุสรณ์” คงจะขอแก้ตัวใหม่ว่า หมายถึงพรรคร่วมรัฐบาล
แต่ในข้อเท็จจริง ฝ่ายค้านยุคหลังๆ คว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณมาโดยตลอด ต่างจากในอดีตที่ฝ่ายค้านมักลงคะแนน “งดออกเสียง”
เพื่อไทยเป็นหนึ่งในฝ่ายค้านที่คว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ
ยกตัวอย่าง…
การแถลงข่าวเรื่องร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี ๒๕๖๕ ของ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” ขณะนั้นเป็นเลขาธิการพรรคเพื่อไทย
“…หากคำนึงถึงวิกฤตโควิด-๑๙ ที่พี่น้องประชาชนทุกคนได้รับผลกระทบในทุกหย่อมหญ้าขณะนี้ รัฐบาลควรจะออกแบบและจัดสรรงบประมาณให้เหมาะสม รวดเร็วและทันการณ์ ต่อการแก้ไขปัญหาและเยียวยาพี่น้องประชาชนจากผลกระทบต่างๆ ให้มากที่สุด
แต่สิ่งที่รัฐบาลมอบให้ประชาชนกลับเป็นแนวทางที่ผิดทิศผิดทาง และไร้แนวทางในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศชาติ
ประกอบกับมาตรการบังคับต่างๆ เพื่อควบคุมโรคระบาดของรัฐบาลที่ออกมา ยิ่งส่งผลให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น และยิ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้คนต้องหยุดงาน ว่างงาน ขาดรายได้ กิจการห้างร้านต่างๆ ต้องหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ซ้ำร้ายอาจถึงขั้นต้องปิดกิจการ เลิกกิจการ เนื่องจากแบกรับผลกระทบจากคำสั่งของภาครัฐไม่ไหวอีกต่อไป…”
“…พรรคเพื่อไทยจึงมีมติไม่รับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ฉบับนี้ เพื่อยืนยันแนวทาง ‘ไม่รับร่างงบประมาณ ไม่ไว้วางใจประยุทธ์’ และสืบเจตนารมณ์มุ่งมั่นจะรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้งต่อไป…”
“…พรรคเพื่อไทยไม่ยอมรับการจัดสรรงบประมาณที่ล้มเหลวจากรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หากมีการนำเงินงบประมาณมาใช้ในทางที่ไม่ถูกไม่ควร พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มข้น เพื่อให้มีการใช้เม็ดเงินอย่างคุ้มค่า และป้องกันไม่ให้เกิดการคอร์รัปชัน และไม่ไว้วางใจให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารประเทศชาติให้ล้มเหลว ซ้ำซากอยู่ในตำแหน่งได้อีกต่อไป…”
ได้ฟังได้อ่านแล้วเป็นไงครับ
การใช้สิทธิคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ไม่ว่าจะเป็นพรรคฝ่ายค้าน หรือพรรคร่วมรัฐบาล หากคว่ำได้สำเร็จผลไม่ต่างกัน
นายกรัฐมนตรีต้องลาออก หรือไม่ก็ยุบสภา
หากวันนั้นพรรคเพื่อไทยสามารถชักชวน สส.ฝ่ายรัฐบาลคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี ๒๕๖๕ ได้สำเร็จ พล.อ.ประยุทธ์ ก็กลายเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีไปในทันที
ทีนี้มาดู
งบประมาณแผ่นดินที่จัดโดยรัฐบาลเพื่อไทย
เป็นไงครับ?
งบประมาณเทวดาหรือเปล่า
งบประมาณแผ่นดินปี ๒๕๖๘ จัดแบบขาดดุลมโหฬาร เป็นประวัติการณ์ เพราะต้องการกู้มาแจก
ที่แจกไปแล้ว ๒ เฟส เฉียด ๒ แสนล้านไปแล้ว ได้อะไรกลับคืนมาบ้าง
นี่หรือแนวทางพลิกฟื้นเศรษฐกิจ
เฟส ๓ ที่จะแจกต่อ คิดได้หรือยังว่า การจัดงบประมาณที่ล้มเหลวคืออะไร
อะไรคือการนำเงินไปใช้ในทางที่ไม่ถูกไม่ควร
รัฐบาลประยุทธ์จัดงบประมาณต่อสู้กับโควิด-๑๙ จนประเทศเริ่มจะฟื้นได้ ก็ส่งไม้ต่อให้รัฐบาลเพื่อไทย พลิกฟื้นเศรษฐกิจต่อ
แต่สิ่งที่เห็นคือ กลายเป็นการสร้างความฉิบหายเพิ่ม
ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ แบบนี้แหละครับที่ต้องคว่ำ
แทนที่งบประมาณแผ่นดินจะถูกนำไปพัฒนาประเทศในส่วนที่ต้องเร่งพลิกฟื้นให้ได้ โดยเฉพาะการลงทุนภาครัฐ ที่ควรมีมากกว่าปกติ
แต่รัฐบาลเพื่อไทยเอาเงินหมื่นไปแจก ให้ประชาชนซื้อโทรศัพท์มือถือ เงินไหลออกไปต่างประเทศเท่าไหร่ รัฐบาลมีตัวเลขนี้อยู่ในมือหรือเปล่า
ยอดขายมือถือพุ่ง ๓๐% นะครับ
มีมือถือแบรนด์ไทยหรือเปล่า
นำเข้าทั้งสิ้น
เล่นการเมืองควรจำอดีตตัวเองให้ได้บ้าง สักเล็กน้อยก็ดี
คนนะครับไม่ใช่แมลงชีปะขาวที่มีอายุ ๒๔ ชั่วโมงก็ตาย
ฉะนั้นทำอะไรไว้ในอดีตอย่าคิดว่าวันหนึ่งจะไม่มีการขุดคุ้ย
บริหารประเทศเพื่อกระเป๋าตัวเองสุดท้ายศาลสั่งให้ติดคุกแต่ไม่ยอมติด
วันนี้อดีตตามไล่ล่าเจ้าของพรรคเพื่อไทย
ติดคุกจริงๆ ก็คราวนี้…แน่นอน.
