28 เมษายน 2568 – อโกด้า แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยว เผยผลสำรวจจากนักดำน้ำประจำปี 2568 เจาะลึกพฤติกรรม ความชอบ และแรงบันดาลใจของนักดำน้ำทั่วเอเชีย ตั้งแต่จุดหมายปลายทางในฝัน ไปจนถึงการดำน้ำที่ตอบโจทย์ด้านงบประมาณ ซึ่งผลสำรวจครั้งนี้ไม่ได้แค่เผยว่า “นักดำน้ำอยากไปที่ไหน” แต่ยังสะท้อนเทรนด์ใหม่ ๆ ที่กำลังพลิกโฉมประสบการณ์ท่องเที่ยวใต้น้ำให้สนุก ตื่นเต้น และน่าค้นหากว่าที่เคย
การสำรวจครั้งนี้ได้จัดทำขึ้นใน 11 ประเทศทั่วเอเชีย สะท้อนให้เห็นถึงความโดดเด่นของภูมิภาคนี้ในฐานะแหล่งดำน้ำระดับโลก โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังคงเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักดำน้ำ ด้วยความหลากหลายของแหล่งดำน้ำ ความอุดมสมบูรณ์ของโลกใต้ท้องทะเล และทัศนียภาพใต้น้ำที่งดงามน่าหลงใหล
ข้อมูลเชิงลึกจากผลสำรวจในครั้งนี้ เผยให้เห็นถึงพฤติกรรมและแรงจูงใจของนักดำน้ำที่กำลังเปลี่ยนแปลง พร้อมเปิดมุมมองว่าอะไรคือแรงจูงใจเบื้องหลังการผจญภัยใต้ท้องทะเลของเหล่านักดำน้ำ
1. อินโดนีเซียเป็นแหล่งดำน้ำในฝันของนักเดินทาง
อินโดนีเซียครองอันดับหนึ่งในฐานะจุดหมายปลายทางในฝันของนักดำน้ำชาวเอเชียด้วยความงดงามของแนวปะการังและความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล อย่างไรก็ตาม นักดำน้ำชาวไทยยังคงชื่นชอบในแหล่งดำน้ำในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นหมู่เกาะสิมิลันหรือเกาะเต่า ซึ่งงดงามไม่แพ้ที่ใดในโลก ในขณะเดียวกันนักเดินทางชาวไทยก็ยังให้ความสนใจกับการดำน้ำในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเวียดนาม ซึ่งแหล่งดำน้ำแต่ละที่ต่างมอบประสบการณ์การดำน้ำที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จุดหมายปลายทางเหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงเสน่ห์อันล้ำค่าของโลกใต้ทะเลในภูมิภาคเอเชีย ที่ยังคงดึงดูดนักดำน้ำจากทั่วทุกมุมโลกให้แวะเวียนมาอย่างต่อเนื่อง
2. ความสงบใต้ท้องทะเล คือแรงบันดาลใจหลักในการเดินทาง
สำหรับนักดำน้ำจำนวนมาก ท้องทะเลคือพื้นที่แห่งความสงบที่ช่วยเยียวยาความเครียด เกือบหนึ่งในสามของผู้ตอบแบบสำรวจ (30%) ระบุว่า “การผ่อนคลาย” คือเหตุผลหลักที่ทำให้พวกเขาออกไปดำน้ำ โดยเฉพาะนักดำน้ำจากฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และไทยที่ให้ความสำคัญกับเหตุผลนี้เป็นพิเศษ ในขณะเดียวกัน การได้สำรวจชีวิตใต้ทะเลก็เป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจสำคัญ โดย 24% ของนักดำน้ำระบุว่าความหลงใหลในสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลคือเหตุผลหลักที่พวกเขาเลือกออกผจญภัยในโลกใต้น้ำ
3. ราคาต้องคุ้มค่า แต่ก็พร้อมจ่ายมากขึ้น
แม้ว่า “ความคุ้มค่า” จะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการวางแผนทริปดำน้ำ แต่นักเดินทางในปี 2568 กลับแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่พร้อมจะใช้งบประมาณมากขึ้นเพื่อประสบการณ์ที่ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง อุปกรณ์ หรือที่พัก นักดำน้ำจำนวนไม่น้อยยอมเพิ่มงบเพื่อให้ได้ทริปที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพและความทรงจำที่คุ้มค่า โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 40% ระบุว่า พวกเขาใช้จ่ายกับทริปดำน้ำมากกว่าทริปท่องเที่ยวทั่วไปประมาณ 15–30%
4. ทริปดำน้ำส่วนใหญ่ใช้เวลา 4–7 วัน
นักดำน้ำเกือบครึ่ง (48%) เลือกออกทริปที่ใช้เวลา 4–7 วัน ขณะที่อีก 41% นิยมทริปสั้นช่วงสุดสัปดาห์ ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าทริปดำน้ำแบบกระชับแต่เข้มข้น กำลังตอบโจทย์นักเดินทางยุคใหม่ที่มีเวลาจำกัดแต่ยังอยากสัมผัสประสบการณ์ใต้น้ำอย่างเต็มที่
5. แนวปะการังคือจุดดำน้ำในดวงใจของนักดำน้ำส่วนใหญ่
การดำน้ำตามแนวปะการังเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับนักสำรวจใต้น้ำ โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจถึง 75% แสดงความสนใจในจุดหมายปลายทางเหล่านี้ ระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์และปะการังสีสันสวยงามในเอเชีย ยังคงดึงดูดนักดำน้ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้แนวปะการังกลายเป็นสถานที่ที่ต้องไปเยือนสำหรับผู้ที่หลงใหลในโลกใต้ท้องทะเล
เกเด กันดาวัน ผู้อำนวยการประจำประเทศอินโดนีเซียของอโกด้า กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียเป็นแหล่งของจุดหมายปลายทางสำหรับการดำน้ำที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก และยังคงเป็นที่โปรดปรานของนักดำน้ำอยู่เสมอ ที่อโกด้าเรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้นักเดินทางได้สัมผัสประสบการณ์ใต้น้ำที่น่าประทับใจ ด้วยการมอบดีลสุดคุ้มทั้งที่พัก ตั๋วเครื่องบิน และกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้การสำรวจโลกใต้ทะเลเป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 อโกด้าเปิดตัวแคมเปญ Scuba Deals มอบส่วนลดเพิ่มอีก 10% สำหรับที่พักที่เข้าร่วมรายการในจุดหมายปลายทางดำน้ำยอดนิยมทั่วอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม นักเดินทางสามารถจองที่พักในราคาสุดคุ้ม เพื่อสัมผัสประสบการณ์ใต้น้ำได้ง่ายยิ่งขึ้น
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.agoda.com/scubadeals