สันต์ สะตอแมน
66,431 ล้านบาท
นี่..เป็นตัวเลขผลกำไรไตรมาส 1/68 ของ 10 ธนาคาร ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/67 ที่มีกำไรสุทธิรวม 59,155 ล้านบาท
ซึ่งใครจะมองอย่างไรไม่ทราบ สำหรับผมต้องบอกว่า “แบงก์กำไรโหดมากกกก” และมันไม่สะท้อนกับภาวะเศรษฐกิจเอาเสียเลย!
แบงก์ใหญ่กำไรกันปีละ 4-5 หมื่นล้าน ผมเคยเลียบๆ เคียงๆ ถามผู้เชี่ยวชาญแวดวงการเงิน-การธนาคาร เขาว่ากำไรของแบงก์จะมาจาก 2 ส่วนหลักใหญ่ๆ
นั่นคือ..รายรับดอกเบี้ย กับค่าธรรมเนียม/ค่านายหน้า โดยเฉพาะการขายประกันชีวิต แบงก์จะปล่อยสินเชื่อด้วยการบังคับให้ทำประกันชีวิตเป็นแพ็กเกจ แบบที่ผู้กู้ไม่อาจปฏิเสธได้!
ก็ไม่มีอะไร แค่ตื่นเต้น (เล็กน้อย) กับตัวเลขกำไรของธนาคารในท่ามกลางชาวบ้านโอดครวญ.. “ไม่มีจะแดกกันอยู่แล้ว” เท่านั้นแหละ!
แล้วโตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ล่ะ จะโอดครวญหรือไม่-ไม่รู้ รู้แต่ว่า โปรเจกต์ละครของช่อง ONE ที่ “อิงฟ้า วราหะ” มิสแกรนด์ แสดงคู่กับ “ชาคริต แย้มนาม”..
และมีชื่อ โตโน่ ร่วมแสดงก่อนหน้านั้น ตอนนี้ได้ถูกตัดชื่อออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!
เหตุผล ก็มาจากกรณีนอกใจแฟนสาว “ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” ด้วยแอบไปมีอะไรกับ “มายด์ พัชรบุษย์” และเสียงดังจนเป็นที่รำคาญหนวกหูข้างๆ ห้องนั่นแหละ!
โดยคนที่นำความมาบอกให้รู้ก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล คุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล “บอส” มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ดูแลอิงฟ้านั่นเอง
ข่าว “ผู้จัดการออนไลน์” รายงาน..คุณณวัฒน์ยืนยันว่าทางช่อง ONE ได้มีการถอดบทของหนุ่มโตโน่ออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ไม่มีครับ หลังมีกระแสข่าวทางช่องก็มีการเปลี่ยนตัวแสดงของโตโน่เป็นที่เรียบร้อย แต่อิงฟ้ากับชาคริตยังมีอยู่ อย่างอิงฟ้าก็ถ่ายไปเยอะแล้วครับ
ก็คือถ่ายไปประมาณค่อนเรื่องแล้ว บางซีนที่ถ่ายไปแล้วก็มีการแก้ซีนแล้ว (แสดงว่าถอดโตโน่?) ก็มีการเปลี่ยนแปลงครับ เดี๋ยวให้ทางช่องคุยดีกว่า ก็ไม่มีโตโน่แล้วครับ
เรื่องนี้ก็ถ่ายไปเรื่อยๆ มันเป็นคอมิดี เรื่องนี้มีสีสันหลายคน ไม่ใช่เฉพาะน้องเขาคนเดียว แต่ตัวหลัก นางเอกคืออิงฟ้า ไปยุ่งกับหลายคนมาก เล่นแบบชนิดที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน..”
คงจะเป็นที่พออก-ถูกใจหรือถึงกับ “สะใจ” ของหลายๆ คน โดยเฉพาะแฟนคลับของน้องณิชา ส่วนผมเป็นคนขี้ใจอ่อน-สงสารมวยรอง และถือคติ..คนล้มอย่าข้าม..
จึงเลยได้แต่เป็นกำลังใจให้กับโตโน่..ชีวิตคนเราก็อย่างนี้แหละ มีสุข มีทุกข์ มีอุปสรรค มีความสำเร็จเป็นธรรมดา!
ขาดละครไปเรื่องสองเรื่อง ขาดงานโฆษณาไปสี่ซ้าห้าชิ้น ก็ยังพอมีงานร้องเพลง-งานโชว์ตัวให้ประทังปากท้องไปได้
และด้วยอานิสงส์ความดีที่ทำมา ก็น่าจะช่วยให้ชีวิตไม่ถึงกับตกระกำลำบากอะไรมากมาย ให้ใช้ความผิดพลาด (ครั้งนี้) เป็นเครื่องชั่งเตือนใจในเส้นทางเดินข้างหน้าต่อไป
ว่าแต่..ผู้จัด-เจ้าของสถานีก็ไม่ควรจะลงโทษเด็ดขาดเฉพาะกับดารา นักร้องที่ “นอกใจแฟน” หากแต่นักแสดงที่มีพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียทั้งกับตัวเองและวงการ..
ก็ควรที่จะมีบทลงโทษที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยเฉพาะกับคนที่ทำให้วงการต้องมัวหมอง-เสื่อมเสีย ไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี..
ฉุดดึงให้อาชีพเต้นกิน-รำกินตกต่ำ เช่นดังพฤติกรรมของนักแสดงชาย-หญิงบางคนที่เห็นๆ กันอยู่ ก็ไม่ควรที่จะสนับสนุนส่งเสริม หรือให้มี “ที่ยืน” ในวงการด้วยเช่นกัน!
ยิ่งผู้ที่ต้องโทษ ติดคุกคดีโกงรัฐ-โกงประชาชนด้วยแล้ว ยิ่งควรจะถีบส่งไปให้ไกลๆ..นี่อะไร เห็นเดิน-นั่งหน้าสลอนยั้วเยี้ยเต็มไปหมด!
เออ..นี่ก็ยั้วเยี้ยจนนายกฯ แพทองธารต้องสั่งการกลางที่ประชุม ครม. ให้ศึกษาถึงความเหมาะสมในปรับมาตรการ Visa free
“ทั้งนี้ จากการที่รัฐบาลมีมาตรการในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในการให้ Visa free กับบางประเทศ เป็นจำนวน 60 วัน และ 90 วันนั้น
ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มใช้สิทธิดังกล่าวในการทำผิดกฎหมาย เช่น การอยู่เกินเวลา และการเข้ามาทำงานแบบผิดกฎหมาย
จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เร่งกวดขันและบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่กระทำผิด
รวมทั้งศึกษาและรวบรวมผลกระทบของมาตรการดังกล่าว..”
ครับ..เท่ากับสารภาพ เปิดฟรีวีซ่าโดยไม่ได้ศึกษาผลกระทบมาก่อน และที่เร่งเปิดบ่อนกาสิโน ก็คงจะศึกษา-รวบรวมผลกระทบเอาทีหลังอีกสิท่า..
กูจะบ้าตาย!.
