คืบหน้าล่าสุด! คดีกลุ่มบุคคลฉ้อฉลประกันภัยจัดฉากฆ่า หวังเอาเงินประกันภัย 14 ล้านบาท

จากการที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้รับการแจ้งเหตุพิรุธว่าอาจมีการฉ้อฉลประกันภัย และอาจมีความจำเป็นต้องชะลอการจ่ายสินไหมทดแทนในกรณีดังกล่าว เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของเลขาธิการ สำนักงาน คปภ. ที่จะกำกับดูแลให้อุตสาหกรรมประกันภัยไทยเติบโตอย่างมั่นคง ควบคู่กับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชน รวมถึงให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการฉ้อฉลประกันภัย เมื่อรับการร้องขอจากบริษัทประกันภัยให้สอบสวนการฉ้อฉลประกันภัย จึงได้มีการเชิญบริษัทที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มาร่วมประชุมที่สำนักงาน คปภ. โดยมี นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการ ด้านกฎหมายและตรวจสอบ เป็นประธานในการประชุม เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ผลจากการประชุมสามารถสรุปข้อเท็จจริงเบื้องต้นได้ว่า น่าจะมีกลุ่มบุคคลร่วมกันจัดฉากอุบัติเหตุทางรถยนต์และทำให้มีผู้เสียชีวิต โดยมีจุดมุ่งหวังในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัย

ในการนี้ บุคคลดังกล่าวได้สร้างสถานการณ์ให้ผู้ตาย ที่โดยสารบนท้ายรถกระบะคันหมายเลขทะเบียน กพ 2576 สกลนคร พลัดตกจากท้ายรถคันดังกล่าว เป็นเหตุให้ถูกรถกระบะ คันหมายเลขทะเบียน ผผ 2872 อุดรธานี ที่ถูกลากจูงโดยรถกระบะคันหมายเลขทะเบียน บษ 1720 กาฬสินธุ์ ที่ขับตามมา เหยียบทับร่างผู้ตายจนถึงแก่ความตาย โดยจากการตรวจสอบพบว่า รถกระบะคันหมายเลขทะเบียน กพ 2576 สกลนคร จัดทำกรมธรรม์ประกันภัยภาคบังคับ 12 ฉบับ ภาคสมัครใจ 4 ฉบับ รถกระบะคันหมายเลขทะเบียน บษ 1720 กาฬสินธุ์ และคันหมายเลขทะเบียน ผผ 2872 อุดรธานี จัดทำกรมธรรม์ประกันภัยภาคบังคับคันละ 5 ฉบับ ภาคสมัครใจคันละ 1 ฉบับ โดยมีบริษัทผู้รับประกันภัยถึง 15 บริษัท มีกรมธรรม์ประกันภัยรวมทั้งสิ้น 28 ฉบับ ค่าสินไหมทดแทนรวมกว่า 14 ล้านบาท

ทั้งนี้ กรมธรรม์ประกันภัยส่วนใหญ่นั้น ได้จัดทำขึ้นเพียงแค่ 10 วัน ก่อนเกิดเหตุ และอีก 2 กรมธรรม์ จัดทำขึ้นในวันเกิดเหตุ อีกทั้ง ในวันที่เหตุเกิดขึ้นนั้น ไม่ปรากฏว่ามี บุคคลใดแจ้งเหตุให้บริษัทประกันภัยทั้ง 15 แห่งทราบ และไม่มีรายงานแจ้งการออกเหตุของหน่วยกู้ชีพ

นอกจากนี้ สภาพบาดแผล ของผู้ตายไม่สอดคล้องกับลักษณะการเกิดอุบัติเหตุ ปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งที่บ่งชี้ถึงเหตุอันควรสงสัยว่าอาจมีการฉ้อฉลประกันภัยเกิดขึ้น

ในการนี้ นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยหลักการ บริษัทประกันภัยจะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ ผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยอย่างเคร่งครัด หากบริษัทประกันภัยไม่ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ จะเข้าข่ายเป็นการประวิงการจ่ายค่าสินไหมทดแทน อันเป็นความผิดทางอาญา การกล่าวอ้างว่ากรณีใดเป็นการ ฉ้อฉลประกันภัย จะต้องมีหลักฐานประกอบการปฏิเสธการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน

อย่างไรก็ตาม หากสามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ หรือผู้มีสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัย กระทำการโดยทุจริตหรือการฉ้อฉลประกันภัย บริษัทประกันภัยย่อมมีสิทธิปฏิเสธการชดใช้โดยไม่ถือเป็นความผิดฐานประวิงการจ่ายค่าสินไหมทดแทน และผู้กระทำการดังกล่าวอาจจะต้องรับผิดทางอาญาในความผิดฐานฉ้อฉลประกันภัยอีกด้วย

จึงได้สั่งการให้สายกฎหมายและคดี ซึ่งนำโดยนายจอม จีระแพทย์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกฎหมายและคดี เดินหน้าแจ้งความร้องทุกข์ผู้กระทำความผิด ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งสายกฎหมายและคดี ได้ดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริงพร้อมทั้งพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษผู้กระทำความผิดกับพวกรวม 5 คน ในข้อหากระทำการเรียกร้องผลประโยชน์ตาม กรมธรรม์ประกันภัยโดยทุจริต หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จในการเรียกร้อง อันเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นความผิดฐานฉ้อฉลประกันภัย ตามมาตรา 108/4 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 ต่อรองผู้กำกับการ (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเมืองสกลนคร ณ กองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568

ล่าสุด ตำรวจได้ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 5 ราย พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อหวังเงินประกัน ซึ่งเป็นข้อหาหลัก สำหรับความคืบหน้าในคดี สำนักงาน คปภ. จะรายงานให้ทราบต่อไป

Written By
More from pp
แกร็บ ผนึก กรุงไทย ขยายบริการเติมเงิน GrabPay Wallet เล็งเจาะตลาดต่างจังหวัด พร้อมอัดโปรเติมเงิน100 รับท็อปอัพสูงสุด 10,000 บาท
แกร็บ ประเทศไทย ประกาศผนึกพันธมิตร ธนาคารกรุงไทย เดินหน้าผลักดันสังคมไร้เงินสด ขยายบริการชำระเงินผ่านแกร็บเพย์ วอลเล็ต (GrabPay Wallet)
Read More
0 replies on “คืบหน้าล่าสุด! คดีกลุ่มบุคคลฉ้อฉลประกันภัยจัดฉากฆ่า หวังเอาเงินประกันภัย 14 ล้านบาท”