“ชาดา” ตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำ และภัยแล้ง 3 จังหวัดภาคกลาง พร้อมมอบนโยบาย และติดตามเรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ย้ำต้องครบวงจร​ ครอบคลุม สั่งเข้มทั้งกฎหมาย​ และทางการเงิน​

8 ตุลาคม 2566​ เวลา​ 09.30 น.​ ​ณ ห้องประชุม​ชฎาแกรนด์​ฮอล์ โรงเรียนอนุบาลอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนางสาวมนัญญา​ ไทย​เศรษฐ์​ ประธานคณะที่ปรึกษา​ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระทรวงมหาดไทย​ อดีตรัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระทรวง​เกษตร​ และ​สหกรณ์​​ พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยม​ รับฟังรายงานสถานการณ์น้ำ และภัยแล้ง​ 3 จังหวัดภาคกลาง ทั้งอุทัยธานี นครสวรรค์ และชัยนาท

นายชาดา ได้กล่าวเน้นย้ำให้นโยบายกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เกี่ยวกับเรื่องผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ยาเสพติด อาวุธปืน และการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน โดยให้นายอำเภอ​ ผู้กำกับการ​สถานีตำรวจภูธรอำเภอ​ กำนัน​ ,ผู้ใหญ่บ้าน​ ,สารวัตร ,กำนัน​ แพทย์​ประจำตำบล​ และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน​ ต้องปรับเปลี่ยน​พฤติกรรม​มากขึ้น​ ในการกำกับดูแล​เป็นที่พึ่งประชาชน​

และให้ประชาชนยอมรับ​บทบาทหน้าที่​ การป้องกัน​ การแพร่ระบาด ​ การพนัน​ ผู้​มีอิทธิพลท้าทายอำนาจรัฐ​ โดยเฉพาะ​ นายอำเภอ​ ,กำนัน​ ,ผู้ใหญ่บ้าน​ ,ผู้กำกับการ​สถานีตำรวจภูธรอำเภอ​ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบหลัก​ ต้องมีบัญชีรายชื่อ​ ผู้ที่อิทธิพล​ บุคคลเครือข่ายผู้มีอิทธิพล​ ลักษณะ​ และรายละเอียด​

การมีอิทธิพล​ ทั้งทางบวก​ ทางลบ​ ทางความคิด​ การหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์​ ผู้มีอิทธิพล​ เน้น​ ทั้งข้าราชการ​ และประชาชน​ ที่มีอิทธิพล​ ในแต่ละประเภท​ เพื่อให้จังหวัดอุทัยธานีนั้นเป็นจังหวัดนำร่องของการเป็นจังหวัดสีขาว

ในพื้นที่ต่างจังหวัด ที่ไม่รวมพื้นที่กรุงเทพมหานคร เช่นจังหวัดขอนแก่น ได้รับรายงานถึงปัญหาเรื่องยาเสพติด ตลอดจนเรื่องการรังแกประชาชนอะไรต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะไม่ยอมให้เกิด ตอนนี้เราก็ได้มีการตั้งศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเอง ก็ได้ลงไปดำเนินการจับ ดำเนินตามขั้นตอนกฎหมาย

ต่อไปนี้ก็จะมีแบบนี้เข้ามาเรื่อยๆ และต้องขอใช้พื้นที่ตรงนี้ฝากประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชนทุกท่านว่าสามารถแจ้งเรื่องเข้ามาได้ ไม่ว่าจะเป็นทางศูนย์ดำรงธรรม หรือตามเบอร์โทรศัพท์ที่ตนได้แจ้งเอาไว้

0 replies on ““ชาดา” ตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำ และภัยแล้ง 3 จังหวัดภาคกลาง พร้อมมอบนโยบาย และติดตามเรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ย้ำต้องครบวงจร​ ครอบคลุม สั่งเข้มทั้งกฎหมาย​ และทางการเงิน​”