มุ่งตัดรากถอนโคนนักค้ายาเสพติด “ทวี” บูรณาการ 5 หน่วยงาน เร่งเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินคดีความผิด ฐานสนับสนุน ช่วยเหลือ หรือสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินคดีความผิด ฐานสนับสนุน ช่วยเหลือ หรือสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด

โดยมี นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย​พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ และนายอภิกิต ฉ. โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายเจริญวิทย์ เกื้อทิพย์ ประธานแผนกคดียาเสพติดในศาลอุทธรณ์ นางเมตตา ท้าวสกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าแผนกคดียาเสพติดในศาลอาญา นายพงศ์พิเชษฐ์ จันทรพรกิจ อธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติด พล.ต.ต.สมกิต พุ่มวารี ผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม​ ณ โรงแรมเซ็นจูนี่ พาร์ค ถนนราชปรารภ เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร

โดยการประชุมเชิงปฏิบัติการนี้เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่จะร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการสืบสวนสอบสวน และขยายผลการจับกุมเครือข่ายการค้ายาเสพติด เพื่อนำไปสู่เป้าหมายการทำลายเครือข่ายและตัดวงจรทางการค้ายาเสพติดที่อยู่เบื้องหลัง และนำไปสู่การยึด อายัด ทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งจะเป็นการตัดรากถอนโคนนักค้ายาเสพติด เพื่อมิให้มีทุนหรือทรัพย์สินที่จะนำมาใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอีกในภายหลัง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นประสบการณ์ในการดำเนินคดี ปัญหาอุปสรรค ตลอดจนแนวทางการรวบรวมพยานหลักฐาน และการพิจารณาคำขออนุมัติแจ้งข้อหา และยังได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิของศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมเป็นวิทยากรอภิปรายด้วย

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า ผู้บงการการค้ายาเสพติดส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่อยู่ในประเทศ และข้อมูลจากกรมราชทัณฑ์ในปัจจุบันพบว่า มีผู้ต้องราชทัณฑ์คดียาเสพติดอยู่ประมาณ 200,000 คน โดยร้อยละ 77 เป็นผู้ต้องหาคดีจำหน่ายยาเสพติด ร้อยละ 18 เป็นผู้เสพยาเสพติด แต่ทั้งนี้ผู้เสพยาเสพติดส่วนใหญ่ไปอยู่ในสถานที่คุมประพฤติหรือชุมชน และหลังจากมีกฎหมายประมวลยาเสพติด จะมีการเปลี่ยนวิธีการมองผู้เสพยาเสพติดใหม่ให้มองว่าเป็นผู้ป่วยและเข้าสู่กระบวนการรักษาจากแพทย์มากกว่ากระบวนการยุติธรรม และเน้นไปที่การจัดการกับทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดของผู้ค้ายาเสพติด

จากนั้น พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เป็นประธานพิธีลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน และปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติด้วย สำหรับหน่วยที่ลงนาม ประกอบด้วย สำนักงานอัยการสูงสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ กองบัญชาการกองทัพไทย (ศูนย์รักษาความปลอดภัย) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด) และ สำนักงาน ป.ป.ส.

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้เป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญที่เราจะร่วมกันแก้ปัญหายาเสพติดที่เป็นวาระแห่งชาติ เราจะพุ่งเป้าไปที่ผู้บงการ ผู้ใช้ ผู้จ้างวาน ผู้ผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพิธีลงนาม 5 หน่วยงานในวันนี้ จะเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน ปราบปรามยาเสพติด และองค์กรอาชญากรรมชาติ เราตระหนักดีว่า ยาเสพติดและองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นภัยต่อประชาชนคนไทย และเนื่องจากความเข้มแข็งของการแก้ปัญหาในประเทศ ยาเสพติดจึงถูกผลิตที่ต่างประเทศ และการก่ออาชญากรรมที่เราพบได้ เช่นผู้ต้องหาที่มีหมายจับก็จะหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน ฉะนั้นเนื่องจากความผิดนอกราชอาณาจักร ท่านอัยการสูงสุดจะเป็นพนักงานสอบสวน ในทางปฏิบัติก็จะร่วมกับตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และหน่วยงานต่างๆ เราจะจำเป็นต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการสืบสวนสอบสวนนอกราชอาณาจักร ถึงมีที่มาที่ได้มาลงนามในวันนี้

ประเทศไทยมีงานการข่าวในต่างประเทศที่ค่อนข้างมั่นคง และเราต้องพัฒนาการข่าวให้มาเป็นพยานหลักฐานเพิ่ม ส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ บช.ปส. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ รวมถึง ป.ป.ส. ก็ยกระดับที่จะแก้ปัญหายาเสพติด ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องยกระดับของหน่วยงานทั้ง 5 เพื่อต่อสู้กับปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมข้ามชาติ เช่นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการค้ามนุษย์ หรือการฉ้อโกงผ่านทางต่างประเทศ

“ต่อไปนี้จะมีการทำงานร่วมกัน จะมีโต๊ะข่าวการปฏิบัติการจะเกิดความเข้มแข็ง และทาง ป.ป.ส. ได้เพิ่มประสิทธิภาพบุคคลในกระบวนการยุติธรรม ทั้งตำรวจ อัยการ ฯลฯ ดำเนินคดีเกี่ยวกับผู้สนับสนุน ผู้ช่วยเหลือหรือผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ ด้วย มาตรการสำคัญของเรา คือ มาตรการการติดตามทรัพย์สิน เนื่องจากสำหรับผู้ค้ายาเสพติด สิ่งที่เขากลัวที่สุด คือ การถูกยึดทรัพย์สิน เราจึงยกระดับให้กระบวนการดังกล่าวมีประสิทธิภาพ อยู่ภายใต้หลักนิติธรรม แต่ต้องเข้มแข็ง รวดเร็ว และสามารถที่จะเกิดความยับยั้งยาเสพติดให้ได้ผลอย่างจริงจัง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว

Written By
More from pp
ฮาโลวีนปีนี้ไม่ต้องกลัว เพราะมีแต่ของอร่อย
หวนกลับมาอีกครั้งกับช่วงเวลาแห่งความครึกครื้นตื่นเต้นแบบตะวันตก โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ขอส่งท้ายปลายเดือนตุลาคมในวันฮาโลวีนแบบหวานอร่อยแปลกตา ด้วยหลากเมนูของหวานรายการใหม่จากซิงก์เบเกอรี่ที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษเพื่อมอบความอร่อยแบบเขย่าใจ ถูกตาต้องใจทุกวัยอย่างแน่นอน
Read More
0 replies on “มุ่งตัดรากถอนโคนนักค้ายาเสพติด “ทวี” บูรณาการ 5 หน่วยงาน เร่งเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินคดีความผิด ฐานสนับสนุน ช่วยเหลือ หรือสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด”