“สามเส้า-เราสามคน” #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

วันนี้-พรุ่งนี้ “๑๓-๑๔ กุมภา.”
รัฐสภาจะประชุม “แก้เพื่อฉีก” รัฐธรรมนูฉบับปัจจุบันทิ้ง
หรือ ประชุมเพื่อล้มแผนกบฎรัฐธรรมนูญของ “เพื่อไทย+ประชาชน”?
อดใจซักครู่…เดี๋ยวก็รู้!

เมื่อวาน “อนุทิน ชาญวีรกูล” ประมุขพรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำจริง ว่า

“ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแต่ปี ๒๕๖๔ “หากต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ต้องทำประชามติถามประชาชนก่อน”
ซึ่งในขั้นตอนปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินการตามเงื่อนไขดังกล่าว พรรคภูมิใจไทยจึงมองว่า

“การเข้าร่วมพิจารณาอาจสุ่มเสี่ยงขัดต่อคำวินิจฉัยของศาล”

ได้แจ้งเรื่องนี้ให้นายกฯ และแกนนำพรรคเพื่อไทย เช่น นายชูศักดิ์ ศิรินิล และนายภูมิธรรม เวชยชัย ทราบแล้ว ซึ่งได้รับคำตอบว่า “ให้รอดูสถานการณ์”

“แม้พรรคจะไม่ร่วมพิจารณาวาระนี้ แต่สมาชิกพรรคจะยังคงเข้าห้องประชุมตามปกติ จะเซ็นชื่อแสดงตัวว่าเข้าร่วมประชุม แต่ “จะไม่อภิปราย” หรือ “มีส่วนร่วม” ในวาระดังกล่าว”

ทางวุฒิสภา “นายมงคล สุระสัจจะ” ประธานวุฒิสภา แจ้งต่อ “นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานรัฐสภาไปแล้วว่า

“ตามความเห็นของสำนักกฎหมายฯ ระบุว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ต้องผ่านกระบวนการประชามติ ๓ ครั้ง ได้แก่

ครั้งที่ ๑ ถามประชาชนก่อนว่า “ต้องการให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่”

ครั้งที่ ๒ หากประชาชนเห็นชอบในครั้งแรก ให้รัฐสภาพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ก่อนนำไปทำประชามติอีกครั้ง

ครั้งที่ ๓ เมื่อร่าง รธน.ฉบับใหม่เสร็จ ต้องให้ประชาชนโหวตเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบอีกครั้ง

ความเห็นดังกล่าว อ้างอิงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๕๕ และ ๒๕๖๔ ที่ระบุว่า

“การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ต้องให้ประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ”

แบบนี้ สรุปล่วงหน้าได้เลย….
พรรคส้มจะไม่ “ว่าว” เดียวดาย อีกต่อไป

จะมี “แดง-เพื่อไทย” เป็น “ว่าวคู่” เคียงบ่า-เคียงไหล่ในวีรกรรมอาศัยรัฐสภาก่อการ “กบฎรัฐธรรมนูญ”!

พูดถึงท่านประธานวันนอร์ เมื่อวานตกเป็นข่าวเคล้าคละกับ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” หรือ “บิ๊กโจ๊ก”

พูดได้คำเดียว “สงสาร” ท่านวันนอร์ ที่ “เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แต่ต้องถูกเขาเอากระดูกมาแขวนคอ”

ส่วน “บิ๊กโจ๊ก” ก็อยากบอก “ทุกปัญหาล้วนมีทางออก”

เปลี่ยน “แค้น-คุคลั่งในอก” เป็น “ปล่อยวาง-ว่างในทรวง” กระตุกสติ ตีคำว่า “รักยาวให้บั่น-รักสั้นให้ต่อ” ให้แตก
แล้วเดินไปตามทางนั้น…..

โอกาส “คืนอำนาจ-คืนสถานะ” มีมากกว่า “คิดแค้น-เครียดคลั่ง” แต่ในเส้นทาง “ล้างแค้น-เอาคืน”

เรือ-มีหางเสือ รถ-มีพวงมาลัย คน-มีสติ

ถ้าขาดหางเสือ ขาดพวงมาลัย ขาดสติ ทั้งเรือ ทั้งรถ ทั้งคน จุดหมายไปไม่ถึงหรอก ฉิบหาย-ตายโหงก่อน!

วานซืน บิ๊กโจ๊กไปปฎิบัติการจองเวร โดยร้องทุกข์-กล่าวโทษ ผบ.ตร. “พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร” ที่สน.ปทุมวัน ว่าผิดตามมาตรา ๑๕๗

และเมื่อวาน “นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข” ก็ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็น “ประธาน ป.ป.ช.”

ก็มีคลิปถูกปล่อยเผยแพร่ ซึ่งอาจทำให้ท่านประธานวันนอร์และท่านประธานป.ป.ช.เสียหายจากความเข้าใจผิดของประชาชนได้

เรื่องอะไร จะไม่บอก ให้ประธานวันนอร์บอกเอง โดยท่านให้สัมภาษณ์ “เนชั่นทีวี” เมื่อวาน จะถอดคำมาให้อ่าน
……………………

วันนอร์ : ผมจำได้ว่าเป็นช่วงใกล้วันปีใหม่ น่าจะหลังปีใหม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้ติดต่อมา แจ้งว่าจะขอเข้าพบเพื่ออวยพรปีใหม่

ผมบอกว่าไม่จำเป็นต้องมาพบ เพราะไม่ค่อยให้ใครเข้าอวยพร แต่ทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อ้างว่า
“จะมาคุยเรื่องสมาคมปักษ์ใต้และเรื่องการเมือง”

ผมยังถามกลับไปว่า การเมืองเรื่องอะไร เพราะผมเป็นกลางทางการเมือง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อ้างว่า ตัวเขาจะลงเล่นการเมือง เพราะถูกกลั่นแกล้งมาก

ผมเห็นเป็นคนรู้จักกัน และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พยายามย้ำว่าจะมาคุยเรื่องสมาคมปักษ์ใต้ ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นนายกสมาคมฯ อยู่ และผมก็เป็นคนปักษ์ใต้ จึงนัดกัน

แต่ครั้งแรก ผมไม่ว่าง ทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ขอนัดครั้งที่สอง ผมยังถามว่า “มาถูกหรือ” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์บอกว่าจะให้ “ตำรวจบางใหญ่” พาไป

สุดท้าย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มาพบถึงบ้าน ………

“ตอนนั้น มาเกือบ ๑ ทุ่มแล้ว แต่พอมาถึง ไม่ได้มาคนเดียว พาอีกคนมาด้วย บอกว่าอยากให้รู้จัก “ท่านสุชาติ”

ผมยังถามว่า “เป็นอย่างไรกัน ตกลงกันได้แล้วหรือ?”

เพราะทราบดีว่า มีเรื่องที่บิ๊กโจ๊กยื่นถอดถอนคุณสุชาติเอาไว้ ปรากฏว่าทางบิ๊กโจ๊กบอกว่า “มาขอถอนเรื่อง”

ผมบอก “ถอนลำบาก” เพราะตรวจสอบรายชื่อประชาชนที่เข้าชื่อเรียบร้อยแล้ว แต่ผมดูแล้วรู้สึกเรื่องมันไม่มีมูล
ทางบิ๊กโจ๊กยังบอกว่า… ดีๆ ส่วนทางท่านสุชาตินั่งเฉยๆ”

หลังจากคุยเรื่องนายสุชาติจบก็คุยกันเรื่องอื่นๆ เช่น จะเลือกประธาน ป.ป.ช.กันเมื่อใด กรรมการมีกี่คนแล้ว จากนั้นก็ลากลับ ผมยังอวยพรปีใหม่ ขอให้มีสุขภาพดี

เรื่องมีแค่นี้ นั่งกันอยู่มี ๓ คน ไม่รู้ใครอัดเทป นั่งกันที่ห้องรับแขก มี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ท่านสุชาติ และผม

ท่านสุชาติคงไม่ได้อัดและหน้าตาท่านก็ไม่ได้อยากมาเท่าไหร่ ดังนั้น คนที่อัดเทป ก็ต้องเป็น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์”

นักข่าว : มีความรู้สึกอย่างไรที่ถูกแอบอัดเทป?

นายวันนอร์ : ไม่น่าจะ…เสียมารยาทลูกผู้ชาย ไปอัดเทป พล.ต.อ.สุรเชษฐ์มาขอพบเพื่ออวยพรปีใหม่และไม่ได้บอกว่านัดให้ท่านสุชาติมาพบ

จริงๆ ผมเป็นคนมีอำนาจที่จะตรวจสอบข้อกล่าวหาที่มีต่อกรรมการองค์กรอิสระ ขณะที่ ป.ป.ช. มีอำนาจตรวจสอบผมเช่นกัน

ดังนั้นท่านสุชาติก็คงไม่อยากมา แต่บิ๊กโจ๊กจะมาพบ ผมคิดว่าใช้ไม่ได้ ตรงที่มาอัดเทป แล้วตัดคลิปไปส่งไปให้สื่อ วันนั้น นั่งกันอยู่ ๓ คน จะมีใครที่ทำ

ผมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รู้จักกันมา แต่ทำเรื่องแบบนี้ไม่ถูกต้อง มาขอพบแล้วอัดเทป แอบส่งเทปให้สื่อมวลชน ไม่น่ากระทำ”

ประเด็น รับเรื่องร้องเรียนแล้ว ทำไมประธานรัฐสภาไม่ส่งเรื่องให้ศาลฎีกา นายวันนอร์ชี้แจงในประเด็นนี้ว่า

“เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ ขณะที่รัฐธรรมนูญระบุไว้ว่า ถ้ามีผู้ร้อง ผู้ร่วมลงชื่อ ๒ หมื่นรายชื่อ ให้ประธานรับเรื่องไว้
ถ้าตรวจสอบแล้วเห็นว่า “มีเหตุอันควรสงสัย” ให้ประธานรัฐสภา “ส่งให้ศาลฎีกา”

“ศาลฎีกา” มีหน้าที่ตรวจสอบ โดยตั้ง “คณะไต่สวนอิสระขึ้นมา”

ดังนั้น หากประธานสภาตรวจสอบแล้ว “ไม่มีเหตุอันควรสงสัย” ก็ไม่ต้องส่งให้ศาลฎีกา”

“เรื่องนี้ เราตรวจสอบแล้ว เป็นเรื่องเก่า ไม่มีมูลโดยสัตย์จริง เมื่อเรื่องไม่มีมูล แล้วเราไปส่งศาลฎีกาทุกเรื่อง แบบนี้องค์กรอิสระทำงานยาก แต่ถ้าตรวจสอบแล้วมีมูล ก็ต้องส่งให้ศาลตามขั้นตอน”

นี่คือจากปากท่านวันนอร์ ซึ่งผมเชื่อในเกียรติ “ประมุขฝ่ายนิติบัญญติ” ว่าข้อเท็จจริงเป็นไปตามนั้น

แต่วันเดียวกัน “เนชั่นทีวี” ก็สัมภาษณ์ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” ด้วย แล้วสิ่งที่ “คาดไม่ถึง” ก็เกิดขึ้น

คืออย่างไร จะถอดคำสัมภาษณ์บิ๊กโจ๊กมาให้อ่าน
…………………………

บิ๊กโจ๊ก : ผมไม่ทราบเรื่องที่อาจารย์วันนอร์ให้สัมภาษณ์ ยืนยันว่าผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตามปรากฎในคลิป
ฉะนั้น ผมจึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบันทึกภาพตามคลิปที่เผยแพร่ทางสื่อมวลชน

ผมเคยไปบ้านอาจารย์วันนอร์จริง แต่เป็นช่วงก่อนหน้านั้น โดยไปกราบท่าน เพราะเคยรู้จักกัน

ส่วนเหตุการณ์ที่อาจารย์วันนอร์ได้พบกับนายสุชาติที่บ้านส่วนตัว ผมไม่ทราบมาก่อน และไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย

แต่ผมยอมรับว่ามีผู้ใหญ่ ๒ คนมาขอให้ผมถอนเรื่องที่ไปร้องถอดถอนนายสุชาติ จากตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช.

แต่ผมแจ้งกับผู้ใหญ่ ๒ คนนั้นไปว่า ผมถอนเรื่องไม่ได้ เพราะมีประชาชนถึง ๒๒,๐๐๐ รายชื่อ ร่วมลงชื่อให้ถอดถอน

ผมไม่รู้สึกติดใจอะไร ที่อาจารย์วันนอร์​ให้สัมภาษณ์ตำหนิผม ขอยืนยันว่าไม่ได้ไปบ้านอาจารย์วันนอร์ในวันที่ปรากฏภาพในคลิป จึงไม่เกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับคลิปที่ออกมา

แต่มีข้อน่าสังเกตว่า การพูดคุยกันระหว่างนายสุชาติ กับอาจารย์วันนอร์ มีความพยายามหาช่องทางที่จะตีตกคำร้องถอดถอนจริง

ทั้งๆ ที่อาจารย์วันนอร์ ในฐานะประธานรัฐสภา ไม่มีอำนาจตีตกคำร้อง

เนื่องจากรัฐธรรมนูญเขียนเอาไว้ชัดเจนว่า เมื่อรับเรื่องมาแล้ว ต้องส่งเรื่องไปยังศาลฎีกา เพื่อตั้งคณะไต่สวนอิสระเท่านั้น

เหตุนี้ เมื่อภายหลังมีการตีตกคำร้องจริงๆ โดยที่ อาจารย์วันนอร์ก็ให้สัมภาษณ์เอง ว่ามีการพบปะกับนายสุชาติจริงตามคลิป

จึงน่าคิดว่าการกระทำลักษณะนี้ถือว่าเข้าข่ายกระทำผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่?

และเข้าข่ายละเมิดจริยธรรมหรือไม่ รวมถึงประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗ ว่าด้วยการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตด้วยหรือไม่?

เช่นเดียวกับนายสุชาติ ซึ่งเพิ่งได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นประธาน ป.ป.ช.คนใหม่ แต่กลับมีความพยายามไปพบประธานรัฐสภา

และพูดคุยเรื่องที่ตนเองถูกยื่นคำร้องถอดถอน การกระทำลักษณะนี้ เข้าข่ายละเมิดจริยธรรมด้วยหรือไม่

ฉะนั้น ในวันพรุ่งนี้ เวลา ๑๐.๐๐ น. ผมจะเดินทางไปที่อาคารรัฐสภา เพื่อยื่นคำร้องแสดงเจตนารมณ์ให้ถอดถอนนายสุชาติ ในข้อกล่าวหาใหม่ คือ ขาดจริยธรรมในการดำรงตำแหน่งประธาน ป.ป.ช.

เพราะมีพฤติกรรมเข้าข่ายวิ่งเต้นต่อรองไม่ให้ถูกถอดถอนจากตำแหน่งเมื่อครั้งเป็นกรรมการ ป.ป.ช.
………………………………….

“วันนอร์-บิ๊กโจ๊ก” ใครพูดจริง-พูดเท็จ มีบุคคลที่สามคือ นายสุชาติ “ประธานป.ป.ช.” เป็นผู้ยืนยัน-ชี้ขาด
ถ้าไม่เคลียร์คัท ประมุขรัฐสภา, ประมุขป.ป.ช.จะด่างพร้อย ส่วนบิ๊กโจ๊ก เขาไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว

เรื่องนี้ ต้องจบด้วยพุทธภาษิต “อเสวนา จะ พาลานัง”

“ไม่คบคนพาล เป็นมงคลชีวิตอย่างหนึ่ง” จริงแท้!

เปลว สีเงิน
๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ

 

Written By
More from plew
ตายตั้งแต่ไม่ทันได้เกิด-เปลว สีเงิน
คลิกฟังบทความ…? เปลว สีเงิน “แดง” เปรียบ “ส้ม” “เป็นพระบวชใหม่ อย่าริอ่านมาเป็นเจ้าอาวาส” “ส้ม” สวนกลับ “แดง” “วัดมึงก็มีแม่ชีบวชใหม่มาเป็นหัวหน้าครอบครัวนะ”
Read More
0 replies on ““สามเส้า-เราสามคน” #เปลวสีเงิน”