เปลว สีเงิน
คำว่า “หน้ามืด”….
ผมว่าเหมาะกับรัฐบาลเพื่อไทยที่ “ปล้ำผีลุก-ปลุกผีนั่ง” โครงการ “กาสิโนคอมเพล็กซ์” นี้มากที่สุด!
หรือไม่อีกที ก็บ่งบอกลักษณะ “รีบกิน-รีบไป”
เพราะเห็น “รีบ” จน “ล่ก”!
คือหลังจากครม.อุ๊งอิ๊งเห็นชอบ “ร่างพ.ร.บ.เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”
หรือพูดแบบไม่ดัดจริต “ร่างกฎหมายให้ประเทศไทยมีกาสิโนถูกกฎหมาย”
แล้วโยนร่างดิบๆ เปลือยตัณหาเถื่อนนั้น ……
ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปใช้ถ้อยคำร้อยเรียงกลบความหื่นกระหายให้ดูสอดคล้องข้อกฎหมายและคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของรัฐบาล
ขีดเส้นใต้ “ต้องเสร็จ” ภายใน ๕๐ วัน
ทำไมต้องภายใน ๕๐ วัน ก็เร่งให้มันทันก่อนสภา “ปิดสมัยประชุม” ตอนต้นเดือนเมษา.๖๘ น่ะซี
ไม่งั้น จะ “ผิดคิว” ตามตารางที่ดิวไว้กับพวกนายบ่อน!
คณะกรรมการกฤษฎีกา ก็ต้อง “กระหืด-กระหอบ” ทำให้เสร็จทันเพื่อ “สนองอยาก” รัฐบาลพ่อเลี้ยง
“คุณปกรณ์ นิลประพันธ์” เลขาฯกฤษฎีกา บอกเมื่อวาน คณะแต่งองค์ทรงเครื่องร่างพรบ.กาสิโนคอมเพลกซ์ มี “นายวิษณุ เครืองาม” เป็นประธาน
คณะกรรมการก็บิ๊กเนมทั้งนั้น เช่น นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ, นายธงทอง จันทรางศุ, นายไพโรจน์ วายุภาพ
ทางรัฐบาลส่ง นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ, นายฉัตริน จันทร์หอม เป็นตัวแทนฝ่ายการเมือง
คอยชี้แจง “หลักการ-แนวคิดรัฐบาล” ที่ใช้คำว่าเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แต่งหน้าเค้กกาสิโน
ประชุมกันสัปดาห์ละ ๒ ครั้งเป็นอย่างน้อย เห็นเรียกหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงคลัง-รัฐมนตรีจุลพันธุ์ และมหาดไทยไปชี้แจง
ดูท่าคณะกรรมการกฤษฎีกา จะทำคลอดพรบ.กาสิโนส่งให้รัฐบาลได้โลมลูบจูบฟัดบน-ฟัดล่างได้ทันตามกำหนด ในต้นเดือนมีนา.นี้แน่!
“เป็นที่ยอมรับของสังคมหรือไม่เป็น “คนละประเด็น” สิ่งที่เราทำคือ ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
เรื่องนี้ ต้องถามสังคมจะว่าอย่างไร ถึงจะมาทำให้สอดคล้องกับความต้องการ แต่ตอนนี้ ยังไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร
เมื่อนโยบายมาแบบนี้ แถลงต่อรัฐสภาไปแล้ว….
สิ่งที่เราต้องทำให้สอดคล้องกับนโยบาย การทำความเข้าใจกับประชาชน เป็นเรื่องรัฐบาลต้องชี้แจง และดำเนินการอยู่ และเรา (กฤษฎีกา) เป็นเหมือนพ่อครัวที่คอยปรุงใส่วัตถุดิบตามที่ลูกค้าต้องการ
แต่ถ้ามีบางอย่างที่เขาไม่ต้องการ เราก็ทักท้วง แต่ถ้ายืนยันจะเป็นแบบนั้น ก็ต้องตามใจลูกค้า”
“เลขาฯกฤษฎีกา” ท่านอุปมา-อุปมัยแบบนี้
ฟังแล้วเห็นหัวอกคนที่ถูก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” จับแล้วบังคับให้โทรหลอกชาวบ้าน ยังไง-ก็ยังงั้น!
แล้วรัฐบาลเขาต้องการแบบไหน?
เท่าที่ฟังนายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แม่งานทำท้องกาสิโนเคยพูดไว้ประมาณว่า
“ยืนยันว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ไม่ใช่ร่างกาสิโน เป็นไปในแนวทางนโยบายแห่งรัฐ
นโยบายนี้คือ องค์ประกอบของธุรกิจหลายรูปแบบ โดยรัฐบาลสามารถกำหนดได้ ซึ่งกาสิโนเป็นเพียงส่วนหนึ่ง
สำหรับ “สัดส่วนกาสิโน” ไม่ได้เขียนในกฎหมายตั้งแต่ต้น
แต่อยู่ที่เจตจำนงของผู้กำหนดนโยบายแต่ละช่วงเวลา คือ “เปิดกว้าง” เอาไว้ แต่หากต้องกำหนด เช่น “ไม่เกิน ๑๐%” ก็สามารถดำเนินการได้
ไม่ได้ส่งผลกระทบแต่อย่างใด เพราะเชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะสามารถบริหารจัดการได้
เพราะนโยบายนี้ “ไม่ใช่เรื่องกาสิโน” รายละเอียดของสถานที่ ก็จะยังไม่เขียนในรายละเอียดของร่างกฎหมาย
เนื่องจากเป็นอำนาจของ “คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร” ในอนาคต
เพราะไม่รู้ว่าในอนาคต “ใครจะมาเป็นผู้บริหาร” ซึ่งตามหลักโมเดลธุรกิจไม่เกิน ๑๐% เพราะมาตรฐานทั่วโลก ไม่เกิน ๕% เช่น สิงคโปร์ มีสัดส่วนกาสิโน ๓%”
เอาละ.. “พรบ.เอนเทอร์เมนท์คอมเพล็กซ์” จะเป็นไร ช่างหัวมัน สรุปว่า เซ็นเช็กเปล่าให้ “คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร” ไปกรอกตัวเลขกันเอาเอง นั่นละลงตัว
ไม่ต้องเถียงกันหรอกว่า “กระต่ายมีกี่ขา”
กับคนที่ “ยืนกระต่ายขาเดียว” จริงมั้ย ท่านรัฐมนตรี!?
และเรื่องพื้นที่กาสิโนมี ๕%…๑๐% หรือกี่เปอร์เซ็นต์ นั้น มันไม่ใช่เนื้อหาของประเด็นที่ยกอ้างทางสังคม
ดื่มนมทั้งขวด คนก็ไม่โตเป็นวัว-เป็นควายในทันที
แต่ยาพิษ แค่ติดปลายขี้เล็บ ใส่ให้คนกิน ตายทันที!
“อบายมุข” คือเหตุแห่งความฉิบหาย ก็เช่นนั้น มันไม่เกี่ยวพื้นที่มากน้อย
แค่เปอร์เซ็นต์เดียว มันก็เป็นสื่อนำความฉิบหายหลากหลายรูปแบบ “ฆ่าคนทั้งประเทศ” ทางสังคมได้แล้ว
จำไว้คำ…ถ้าประเทศไหนคิดทำกาสิโน
ในขณะที่การบริหารและการบังคับใช้กฎหมายในบ้านเมือง ยังคละคลุ้งด้วย “คอร์รัปชัน” ตั้งแต่หัวหน้ารัฐบาล ยันหัวหน้ายาม
และคนใน “สังคมชาติ” ยังบูชาคนมีเงิน โดยไม่สนใจที่มา ทั้งเชิดชูทุรชนคนจัญไร ว่ามีคุณวิเศษ “คุยกับพระเจ้าได้”
มีกาสิโนวันไหน “วิบัติ-ฉิบหาย” วอดวายประเทศวันนั้น!
การแก้เศรษฐกิจประเทศ ด้วยคิดจะได้เงินจากกาสิโน รัฐบาลไหนคิดแบบนี้ เรียก “รัฐบาลสิ้นคิด”
มีประเทศไหนในโลกบ้าง บอกมาซิ ที่เศรษฐกิจสังคมชาติ ยั่งยืนได้ด้วยกาสิโน?
จำไว้อีกคำ “ความชั่วหัดง่าย-ติดง่าย” สำหรับมนุษย์ขี้เหม็นทุกคน ฉะนั้น อย่าริ
และอย่าใช้ความคิดใต้ส้นเกือกที่ว่า “ยกใต้ดินขึ้นมาบนดิน เพื่อจะได้ภาษี”
“ภาษีเข้ารัฐ” มันแค่เศษเงินจาก “ปากหมา” ที่งับไปแบ่งกันล่วงหน้าแล้วมันหกหล่นให้แค่นั้นแหละ!
และ “ไหนคน-ไหนหมา” สังเกตง่าย
หมาจะเห่าถอดรหัสออกมาได้ว่า “กาสิโนและการนำพนันออนไลน์ขึ้นมาให้ถูกกฎหมาย จะสร้างรายได้เข้ารัฐ เพื่อนำเงินส่วนนั้น ไปช่วยเหลือสังคมและการศึกษา”!
เชื่อหมาไปสิ ส่วนผมเป็นคน…ไม่เคยเชื่อ ตั้งแต่สมัยมันทำหวย ๒ ตัว ๓ ตัว บนดินโน่นแล้ว
พูดแต่ “รัฐได้เงิน”
เงินน่ะ เอามาทำอะไร นอกจากเอามาแดกแบ่งกัน
สังคมและคนในชาติตะหากที่เสีย “ยับเยิน-แตกแยก”
แล้วกับเงินที่ได้จากกาสิโน….
มันคุ้มกันมั้ย ที่จะนำมาฟื้นฟูรักษา ก่อนที่จะพากันล่มจมฉิบหายกันไปทั้งสังคมชาติ!?
คิดสิ…คิด เอาสมองคิด อย่าเอาส้นเกือกคิด!
ขนาดอยู่ใต้ดิน ทุกวันนี้ แค่วันหวยออก ตั้งแต่คนในทำเนียบ ในสถานศึกษา คนในตลาด ยันคนในป่า-ในทุ่ง
หายใจ ยังแทบจะลืม จดจ่อรอแต่เลขท้าย ๒ ตัว และรางวัลที่ ๑ จะออกเลขอะไร?
วัยรุ่น-วัยดึก ไม่เว้นตามโรงเรียน ผีแทงบอล-ผีแทงพนันออนไลน์ยัง “เข้าสิง” ขนาดนี้
แล้วจะยก “พนันออนไลน์” ขึ้นมาให้เล่นถูกกฎหมาย ก็ไม่ต้องรอเลือกตั้งหวังมีรัฐบาลใหม่หรอก
พินาศ-วอดวายกันไปทั้งชาติในยุครัฐบาลเพื่อไทยนี้แล้ว ไม่เหลืออะไรให้ต้องไปคิดถึงเรื่องอนาคต!
มัน “รีบกิน-รีบเผ่น” จริงแน่ ใครจะมาเป็นเจ้าของกาสิโนตรงไหน เขาลงตัวกันหมดแล้ว
ที่ดินริมเจ้าพระยาตรง “ท่าเรือคลองเตย” ครม.เพื่อไทยแก้กฎหมาย “การท่าเรือฯ” เตรียมให้เป็นที่ตั้ง “กาสิโนคอมเพล็กซ์” ไว้เรียบร้อย
ให้การท่าเรือฯ เพิ่มวัตถุประสงค์จากกิจการท่าเรือ “ไปเป็นทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้ทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ”
ตั้ง “บริษัทมหาชน” สามารถออกพันธบัตรหรือตราสารหาเงินใช้ในกิจการได้เอง โดยให้ต่างชาติร่วมทุนได้ถึง ๔๙%
นี่…รัฐบาลเพื่อไทย เขาแก้ทั้งรัฐธรรมนูญ ปูทางเปลี่ยนอำนาจใหม่คุมประเทศ ออกและแก้พรบ.ต่างๆ ปูทาง “แปลงประเทศเป็นทุนธุรกิจครบวงจร” ถึงขนาดนี้แล้ว
คนไทยเอ๋ย…
ไปไหนมากันเป็นแถวๆ กินข้าวกันแล้วหรือยัง ถ้ายัง ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวแม้วจะคาบกระดูกมาคลุกข้าวให้ เคล้าแข้ง-เคล้าขาไว้ คนไทยฉลาด ชาติเจริญ นะจ๊ะ!
ที่พูดทั้งหมดนี้ เข้าใจให้ตรงกันก่อน “ผมไม่ปฎิเสธ” ที่จะมีกาสิโนในไทย
เพียงแต่มีข้อแม้ว่า ต้องพัฒนาจิตสำนึกคนในชาติและการศึกษาให้ได้มาตรฐานมากกว่านี้ก่อน
หัวต้องไม่ส่าย คือรัฐบาล-คนระบบรัฐ “คอร์รัปชัน” ต้องน้อยกว่านี้
และควรใช้กาสิโนทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจ-สังคมในบางพื้นที่เท่านั้น ไม่ใช่ให้ตั้งในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา ซึ่งกาสิโนเป็น “ส่วนเกิน” ไปแล้ว
ถ้าจำเป็นต้องมี แค่ ๓ แห่งก็มากเกินแล้ว
ถ้าจะตั้งจริงๆ พื้นที่ “ยะลา-นราธิวาส-ปัตตานี” ตอบโจทย์เศรษฐกิจ-สังคม เหมาะสมที่ทำ “สถานบันเทิงครบวงจร แมนเมด” มากที่สุด
หลักคณิตศาสตร์ประถม ๔ ตามที่ผมเคยเรียน + + = – และ – – = + ตั้งสถานบันเทิงครบวงจร แบบแมนเมด ที่ ๓ จังหวัดใต้ คำตอบคือ – – = +
ไม่เชื่อ ลองไปทำ “ประชามติ” ชาวบ้านใน ๓ จังหวัดใต้ ผนวกหาดใหญ่บางอำเภอดูก็ได้
ถ้าคณะกรรมการกฤษฎีกาปรับแต่งร่างพรบ.สถานบันเทิงครบวงจร มุ่งไปทางนั้น ผมว่าประชาสัมคมจะเห็นด้วย
เมื่อรัฐบาล “กลัวประชามติ” เหมือนหมากลัวเสียง “จุดประทัด” ผมก็แนะวิธีลดโทนเสียงประทัดให้แล้ว
“เชื่อ-ไม่เชื่อ” เรื่องของรัฐบาล
“ล้ม-ไม่ล้ม” รัฐบาล เรื่องของประชาชน!
เปลว สีเงิน
๓๐ มกราคม ๒๕๖๘