ผักกาดหอม
กระแสแรงจริงๆ
เรื่อง “ทักษิณ” ยังคงขึ้นเต็มหน้าเว็บไซต์ หน้าเพจ หน้าฟีดข่าว ชนิด “พี่แสตมป์” ต้องขอลี้ภัยเข้าไปรษณีย์ชั่วคราว
มันก็แปลกนะครับ ผู้คนจำนวนหนึ่ง รวมทั้งนักการเมืองในพรรคเพื่อไทย ยังยกย่อง “ทักษิณ” ดุจดังผู้นำทางจิตวิญญาณ
ทั้งๆ ที่มีข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์มากมายว่า “ทักษิณ” โกหกซ้ำซาก จนแทบไม่มีความน่าเชื่อถือหลงเหลืออยู่แล้ว
แต่คนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งตีจาก “ทักษิณ” ไปสักพักหนึ่งแล้ว จากหลายๆ สาเหตุ มีทั้งตาสว่าง และขัดแย้งกันเองภายใน
ไม่นับรวม “จตุพร พรหมพันธุ์” ที่น่าสนใจก็มี “นพ.เหวง โตจิราการ-ธิดา ถาวรเศรษฐ” ดีกรีอดีตแกนนำเสื้อแดงแถวหนึ่งเช่นกัน ที่ถลกหนัง “ทักษิณ” และตระกูลชินวัตรมาพักหนึ่งแล้ว
ในสถานการณ์เดียวกัน วันที่นับถือนายใหญ่เป็นแบบหนึ่ง แต่วันที่ขยะแขยงเป็นอีกอย่างชนิดสุดขั้ว
หากยังจำกันได้วันที่ “ทักษิณ” บอกว่า
“…พี่น้องนี่ทำมาเยอะแล้ว แต่เมื่อทำมาถึงจุดหนึ่ง ก็หมายความว่า เหมือนกับผมจะว่ายน้ำ ผมจะข้ามฝั่ง พี่น้องแจวเรือพาผมข้ามฝั่งมา ถึงฝั่งเรียบร้อยแล้ว ผมต้องเดินทางต่อขึ้นภูเขา พี่น้องจะแบกเรือมาขึ้นภูเขาทำไม ถึงเวลาที่ผมจะขอนั่งรถขึ้นเขา…”
วันนั้นคนเสื้อแดงแทบกราบ “ทักษิณ” ขอให้ขึ้นเขาอย่างปลอดภัย
แต่มาวันนี้ ประจักษ์แล้วกับธาตุแท้
“เหวง-ธิดา” รู้ซึ้งว่าถูกหลอกใช้
คำพูดเดียวกันของ “ทักษิณ” ถูกมองเป็นอีกอย่าง
“…พวกคุณใช้เรือพาผมขึ้นฝั่งแล้ว
ต่อไปนี้ไม่ต้องพาผมไปแล้ว
ผมมีพรรคพวกเอารถมารับ
กำลังจะพาขึ้นเขาครับ
ขอบใจมาก
ผมจะไม่ลืมบุญคุณพวกคุณเลยครับ
ขอให้คนเสื้อแดงทั้งหมดถอดเสื้อแดงได้แล้วครับ
ความจริงทางประวัติศาสตร์
ที่เจ็บปวด ขมขื่น ของประชาชน…”
เป็นโพสต์ในสื่อโซเชียลของ “หมอเหวง”
มันเจ็บปวดครับ ที่ถูกหลอกใช้
ทั้งคู่หนีไปเชียร์พรรคส้มแทน
ส่วนสถานการณ์ของ “ทักษิณ” ในวันนี้คือ เหิมเกริม และย่ามใจ เกินอำนาจและหน้าที่ที่ไม่มีอยู่เลยตามกฎหมาย
เรียกให้ตรงกับสถานการณ์ก็คงจะเป็นอำนาจและหน้าที่ใต้ดิน แต่ใช้อำนาจผ่านลูกสาวและบริวารที่มีอำนาจบนดิน
ซึ่งเข้ากันดีกับนโยบายขุดธุรกิจใต้ดินขึ้นมาไว้บนดินของรัฐบาลแพทองโพย
ทำไม “ทักษิณ” ก้าวร้าวหนักกว่าเมื่อครั้งเป็นนักโทษหนีคุก ร่อนเร่ในต่างประเทศ ทั้งที่จริงเมื่อกลับเข้ามาควรสงบเสงี่ยมเจียมตัว เลี้ยงหลานอยู่กับบ้าน
แต่ “ทักษิณ” ทำในสิ่งตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
ขึ้นเวทีปราศรัย ด่ากราด เป็นคนแก่ขี้หงุดหงิด
จึงไม่แปลกที่ สถานการณ์ของ “ทักษิณ” เริ่มจะเลวลง
ไม่เฉพาะขาประจำเท่านั้น ที่ตามติดทุกเรื่องที่ “ทักษิณ” ทำ
คนเสื้อแดงเองก็เริ่มฉุกคิดแล้วว่า “ทักษิณ” ไม่ใช่ของแท้
เวทีปราศรัยที่มหาสารคาม “ทักษิณ” เจอผลพวงจากปากของตัวเอง
ขวดน้ำบินข้ามหัวขณะปราศรัย โดยฝีมือคนเสื้อแดง
ตามข่าวเขาบอกไว้อย่างนี้ครับ…
ระหว่างที่ ทักษิณ ชินวัตร ไปปราศรัยที่มหาสารคาม มีผู้หญิงคนหนึ่งสวมเสื้อสีแดงขว้างของขึ้นไปบนเวที จนการ์ดต้องเข้าระงับเหตุและพาตัวออกไป
ภายหลังผู้สื่อข่าวไปสอบถามได้ความว่าหญิงสาวชื่ออ้วน มาจาก อ.วาปีปทุม ครอบครัวตนแตกสลายตั้งแต่ปี ๒๕๕๒ แล้ว เป็นคนเสื้อแดง คนไม่ชอบเสื้อแดงก็ไม่มาอุดหนุน ค้าขายไม่ดี เสื้อเหลืองก็ไม่มาซื้อ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถามว่า เดินทางมาอย่างไร หญิงดังกล่าวจึงตอบว่า ไม่มีรถมาไม่มีรถกลับ
ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า “รู้สึกอย่างไร จึงได้โยนของขึ้นไปบนเวที”?
ป้าอ้วนกล่าวว่า “โมโหมาก ไม่ได้ตั้งใจ จะทำแต่นั่งฟังแล้ว พอนึกถึงแล้วมันไม่ใช่ เพราะนานๆ เขามาเหยียบบ้านเราที ต้องจัด”
จากนั้นตำรวจได้ปลอบใจว่าเหตุการณ์มันหลายปีแล้ว ป้าอ้วนจึงตอบกลับว่า “หลายปีแต่มันไม่ดีขึ้น มานี่ ๒๐๐ ไม่ได้ บอกเรามาเกิน”
จากนั้นตำรวจได้พาขึ้นรถบอกว่าจะไปส่งบ้าน…
ในเนื้อข่าวมีอะไรซ่อนอยู่เยอะนะครับ
ประเด็นแรกความขัดแย้งทางการเมือง ที่แบ่งประชาชนออกเป็นสีเสื้อนั้น มันกระทบกับการดำรงชีวิตของผู้คนจำนวนมาก
โดยเฉพาะการทำมาหากิน
“ป้าอ้วน” เก็บกดมาหลายปี
เพิ่งได้ระบาย
แต่วันนี้ “ทักษิณ” ก็ยังไม่หยุดแบ่งแยกประชาชน
ผุดแต่ละนโยบายสร้างโอกาสให้เป็นวิกฤตทั้งสิ้น
ส่วนเรื่อง ๒๐๐ ก็เป็นที่เข้าใจได้
มันคือวงจรอุบาทว์การเมืองไทย
ครับ… “ทักษิณ” เก็บกด ด่ากราด ขาประจำ ยันรัฐประหาร
คนเสื้อแดงก็แค้นใจ อยากชำระ ได้ปาขวดน้ำใส่ “ทักษิณ” ก็ยังดี
ไม่ทราบว่าคนในรัฐบาลสังเกตเห็นหรือเปล่า ตั้งแต่ “ทักษิณ” ออกจากโรงพยาบาลตำรวจ ความขัดแย้งทางการเมืองทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ
เหมือนฝีระยะแรกเจ็บๆ คันๆ
จากนั้นหนองก็มา เจ็บอย่างเดียวไม่มีคัน
สุดท้ายฝีแตกหนองทะลักแล้วปลอดโปร่ง
“ฝีทักษิณ” เจ็บๆ คันๆ แต่ไม่นานหรอก
หนองจะระเบิดในปีนี้แน่นอน
เพราะกรรมที่ “ทักษิณ” ก่อเอาไว้ เริ่มโอบล้อมรอบทิศทางแล้ว
