‘ปุณศิรา เธียรวร’ บุกเบิกแอปฯ สโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy) ตรวจคัดกรองโรคกระดูกสันหลังคด หวังช่วยผู้ป่วยกว่า 1-2 ล้านคนทั่วประเทศ

ปุณศิรา (เอฎา) เธียรวร นักเรียนไทยจากโรงเรียนโชต โรสแมรี่ ฮอลล์ (Choate Rosemary Hall) รัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐอเมริกา ได้ใช้เวลาช่วงปิดเทอมกลับมาจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้เรื่องสุขภาพที่สำคัญแก่เยาวชนไทย โดยเอฎาได้นำทีมจัดกิจกรรมให้ความรู้ถึง 9 โรงเรียนทั่วกรุงเทพมหานคร ครอบคลุมนักเรียนกว่า 900 คน พร้อมแนะนำแอปพลิเคชัน “สโคลิโอบัดดี้” (ScolioBuddy) ที่ให้บริการฟรี

เนื่องจากในต้นปี พ.ศ. 2568 เอฎาได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการ CRC Coalition Thailand ซึ่งมีเป้าหมายในการส่งเสริมและดำเนินงานตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNCRC) เอฎาได้รับแรงบันดาลใจจากหลักการของ UNCRC ที่ระบุว่าเด็กและเยาวชนทุกคนควรได้รับการพิจารณาเพื่อให้ได้รับผลประโยชน์สูงสุดเป็นลำดับแรก นอกจากที่เอฎาสอน “เกมการยินยอม” ให้กับเด็กประมาณ 700 คนใน 7 โรงเรียน ซึ่งส่งเสริมความปลอดภัยทางกายและใจของเด็กผ่านการเล่นเกมเน้นให้คิดวิเคราะห์ สังเกตแล้ว เอฎายังได้เป็นผู้นำในการจัดการอบรมแนะนำแอปพลิเคชั่น ScolioBuddy และสอนท่าออกกำลังกายสำหรับหลัง เพื่อสนับสนุนสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของเด็กใน 9 โรงเรียนอีกด้วย

จากข้อมูลของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ระบุว่า โรคกระดูกสันหลังคดพบได้ถึงร้อยละ 2-3 ของประชากรไทย แต่ผู้ป่วยจำนวนมากยังไม่ได้รับการวินิจฉัย แอปพลิเคชันนวัตกรรมใหม่นี้จึงถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการตรวจพบโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น พร้อมทั้งติดตามและจัดการอาการของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในการจัดกิจกรรมแต่ละครั้ง มีนักกายภาพบำบัดร่วมสาธิตการตรวจกระดูกสันหลังด้วยแอปพลิเคชัน พร้อมแนะนำท่าออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลัง “เป้าหมายของเราคือการสร้างความตระหนักรู้ในวงกว้าง โดยหวังว่านักเรียนจะนำความรู้เหล่านี้ไปแบ่งปันกับครอบครัว เพื่อน และชุมชนของพวกเขา” เอฎากล่าว

จากโรงพยาบาลศิริราชสู่โรงเรียนทั่วกรุงเทพฯ

แอปฯ ‘สโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy) ‘ สร้างปรากฏการณ์ใหม่วงการแพทย์ไทย

ความสำเร็จของแอปพลิเคชันสโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy) เริ่มต้นจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันรณรงค์ให้ความรู้เรื่องโรคกระดูกสันหลังคดโลก ในวันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2567 ณ ศูนย์นวัตกรรมทางการแพทย์ศิริราช เอช โซลูชันส์ ภายในไอซีเอส ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์ งานนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการต่อสู้กับโรคกระดูกสันหลังคด โดยมีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลัง นักกายภาพบำบัด และบุคลากรทางการศึกษาจากทั่วประเทศเข้าร่วมรับฟังการนำเสนอคุณสมบัติของแอปพลิเคชัน ในงานดังกล่าว เอฎาได้สาธิตความสามารถของแอปพลิเคชันในการวัดความโค้งของกระดูกสันหลังและการติดตามการเปลี่ยนแปลงอาการตามระยะเวลาต่างๆ ที่ต้องการจะบันทึก นอกจากนี้ยังมีนักเรียนและครูจากโรงเรียนวัดสุวรรณและโรงเรียนวัดอินทารามเข้าร่วมงานหลายร้อยคน ซึ่งทุกคนได้ทั้งความสนุกและความรู้จากกิจกรรม

จากความสำเร็จดังกล่าว เอฎาได้ขยายการเข้าถึงแอปพลิเคชันไปยังโรงเรียนต่างๆ สร้างความหวังให้ทั้งนักเรียน ผู้ปกครองและครู “เป้าหมายของเราคือการทำให้การดูแลสุขภาพกระดูกสันหลังเป็นเรื่องที่เราพูดคุยกันได้ในชีวิตประจำวัน” เธอกล่าว “การตรวจพบแต่เนิ่นๆ สามารถช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด และจะช่วยรักษาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้ ด้วยแอปพลิเคชันสโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy) ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ จะเสริมพลังให้เยาวชนและผู้สนใจทุกคนได้ดูแลสุขภาพกระดูกสันหลังได้ด้วยตนเอง”

เอฎาบุกตามโรงเรียน มอบความรู้ และเครื่องมือสู้โรคกระดูกสันหลังคด

ในช่วงปิดเทอม เอฎาได้ใช้โอกาสที่อยู่ในไทยนี้ เยี่ยมโรงเรียนทั่วกรุงเทพฯ เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคกระดูกสันหลังคด

ที่โรงเรียนวัดบุคคโลและโรงเรียนวัดมงคลวราราม เอฎาได้สื่อสารกับนักเรียนด้วยข้อความที่ทรงพลัง: โรคกระดูกสันหลังคดมักเริ่มต้นโดยไม่มีใครสังเกตเห็น แต่การสังเกตและตระหนักรู้แต่เนิ่นๆ สามารถสร้างความแตกต่างได้มาก “เอฎาต้องการให้แม้แต่นักเรียนที่อายุน้อยที่สุดเข้าใจถึงความสำคัญของการยืน เดิน นั่ง ด้วยท่าทางที่ถูกต้อง และการเฝ้าระวังกระดูกสันหลังของตนเอง โดยมีเครื่องมือที่เหมาะสมในการดำเนินการแต่เนิ่นๆ” เอฎากล่าว

ที่โรงเรียนวัดนาคนิมิตร การนำเสนอมุ่งเน้นไปที่การป้องกัน นักเรียนได้ฝึกท่าออกกำลังกายตามคำแนะนำของแอปพลิเคชัน เรียนรู้เทคนิคการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูกสันหลัง “นี่ไม่ใช่แค่เรื่องการตรวจพบ แต่เป็นการเสริมพลังให้นักเรียนจัดการสุขภาพของตนเองอย่างกระตือรือร้น” เอฎาอธิบาย

ที่โรงเรียนบางปะกอกวิทยาคมและโรงเรียนวัดไทร เธอได้พูดคุยกับนักเรียนชั้น ม.1-6 ถึงความสำคัญของการวินิจฉัยแต่เนิ่นๆ และการติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ “วัยรุ่นเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับโรคกระดูกสันหลังคด เพราะเป็นช่วงที่อาการของโรคอาจพัฒนาได้มากที่สุด” เอฎาอธิบาย “ยิ่งเริ่มเฝ้าระวังและดูแลอาการได้ยิ่งเร็วเท่าไหร่ ผลลัพธ์ก็จะยิ่งดีขึ้น นี่คือเหตุผลที่เอฎามุ่งมั่นที่จะทำให้แอปพลิเคชันนี้เข้าถึงได้สำหรับทุกคน”

ประสบการณ์ส่วนตัวของเอฎากับโรคกระดูกสันหลังคดผลักดันให้เธอมุ่งมั่นทำให้การดูแลสุขภาพกระดูกสันหลังเข้าถึงได้มากขึ้น “ดิฉันเข้าใจความรู้สึกท้อแท้กังวลของการไม่มีเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าใจและจัดการอาการตั้งแต่แรก” เธอเล่าระหว่างเยี่ยมโรงเรียน “สโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy)” ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเชื่อมช่องว่างนี้ ทำให้ทุกคนเข้าถึงความช่วยเหลือได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะมีฐานะทางการเงิน หรือ พื้นฐานครอบครัวแบบใดก็ตาม”

ลดช่องว่างของการเข้าถึงการบริการด้านสุขภาพ ‘สโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy)’ สร้างความเท่าเทียมกันในระบบสาธารณสุข

นอกจากการให้ความรู้ ภารกิจของเอฎายังมุ่งแก้ไขอุปสรรคในการเข้าถึงบริการสุขภาพ

ที่โรงเรียนวัดประเสริฐสุทธาวาสและโรงเรียนแจงร้อนวิทยา การนำเสนอของเอฎาเน้นถึงผลกระทบของโรคกระดูกสันหลังคดต่อสังคม โดยชี้ให้เห็นความท้าทายที่ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยต้องเผชิญในการเข้าถึงการรักษาปัญหากระดูกสันหลัง

“การให้บริการแอปพลิเคชันสโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy)โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นการให้คำมั่นสัญญาเรื่องความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการสุขภาพ” เอฎากล่าว นอกจากนี้ แอปพลิเคชันยังรองรับหลายภาษา สะท้อนถึงความตั้งใจของเอฎาที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

เอฎาพาแอปฯ ‘สโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy)’ ขยายโอกาสสู่เด็กพิเศษ ที่งานวิ่งการกุศล Run Together for Autism

เอฎาได้รับเชิญให้นำแอปพลิเคชันสโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy)เข้าไปแนะนำ และตรวจวัดสุขภาพหลังผู้มาร่วมงานรวมทั้งเด็กพิเศษในงานวิ่งการกุศล Run Together for Autism ที่จัดโดยคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ Beyond the Spectrum ซึ่งเป็นงานเพื่อส่งเสริมการยอมรับและเข้าใจบุคคลที่มีอาการออทิสติก งานนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนอย่างกว้างขวาง โดยมีเด็กออทิสติกและครอบครัว และมีผู้สนใจมากมาย มาร่วมงานนับพันคน

ในการนำเสนอ เอฎาได้แนะนำความสามารถของแอปพลิเคชันแก่ผู้เข้าร่วมงาน เน้นย้ำว่าฟีเจอร์ต่างๆ สามารถช่วยให้ทุกคนดูแลสุขภาพกระดูกสันหลังได้ด้วยตนเอง พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงการเข้าถึงที่ง่ายดาย โดยแอปพลิเคชันรองรับ 6 ภาษาและให้บริการฟรี

“สโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy)เป็นมากกว่าแค่แอปพลิเคชัน แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ทุกคนควบคุมดูแลสุขภาพของตัวเองได้” เอฎาอธิบายระหว่างการนำเสนอ “ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีกับการศึกษา เรากำลังทำลายกำแพงที่ขวางกั้นการเข้าถึงการดูแลรักษาโรคกระดูกสันหลังคด และทำให้ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะมาจากพื้นฐานครอบครัว หรือฐานะทางการเงินแบบใดก็ตาม”

ผู้เข้าร่วมงานต่างชื่นชมศักยภาพของแอปพลิเคชัน โดยผู้ปกครองท่านหนึ่งกล่าวว่า “นี่คือนวัตกรรมที่เราต้องการในยุคสมัยนี้ เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยลดช่องว่างในสังคมในการเข้าถึงอุปกรณ์ตรวจสุขภาพและเสริมพลังให้ทุกคนสามารถดูแลตัวเองได้ แม้จะอยู่ที่บ้านก็ตาม”

เสียงตอบรับท่วมท้น นักเรียน-ครูชื่นชมแอปฯ ‘สโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy)’

มีเสียงชื่นชมจากครูและนักเรียนท่วมท้น หลายคนแสดงความตื่นเต้นที่จะสามารถดูแลสุขภาพได้ด้วยตนเองในรูปแบบที่เข้าถึงง่ายและไม่มีค่าใช้จ่าย ด้านคณะครูก็แสดงความชื่นชมถึงศักยภาพของแอปพลิเคชันในการสอนให้นักเรียนดูแลตัวเองและทำให้ตรวจพบอาการได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และครู และพยาบาลประจำโรงเรียนยังสามารถจดบันทึกค่าความคดของเด็กๆ ได้หลายคนจากโทรศัพท์เครื่องเดียว

“ดิฉันเห็นว่าแอปพลิเคชันนี้สามารถเปลี่ยนชีวิตนักเรียนหลายคนที่อาจไม่มีโอกาสเข้าถึงการดูแลสุขภาพ” ครูท่านหนึ่งจากโรงเรียนวัดมงคลวรารามกล่าว “การที่มันใช้งานได้ฟรีและใช้งานได้หลายภาษา เป็นเรื่องที่น่าประทับใจมาก เพราะทำให้คนหลายชาติหลายภาษา สามารถใช้แอปฯนี้ได้จากที่ต่างๆทั่วทุกมุมโลก”

เอฎาแสดงความขอบคุณต่อโอกาสที่โรงเรียนต่างๆจัดให้ได้พบปะกับนักเรียนจำนวนมาก “เอฎารู้สึกซาบซึ้งใจมากที่โรงเรียนต่างๆ เปิดโอกาสให้ได้พูดคุยกับนักเรียน นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น และเอฎาตั้งตารอที่จะเดินหน้าสร้างความตระหนักรู้และมอบเครื่องมือสำหรับการดูแลรักษาโรคกระดูกสันหลังคดต่อไป”

สองพี่น้องร่วมพัฒนานวัตกรรมการแพทย์ ‘น้องทัท’ สร้างอุปกรณ์เสริมด้วยเทคโนโลยี 3D

หนึ่งในความพิเศษของโครงการนี้คือการมีส่วนร่วมของ ชญตว์ (ทัท) เธียรวร น้องชายของเอฎา ที่ได้ออกแบบและผลิตที่จับโทรศัพท์พิเศษด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ เพื่อนำมาใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน ในวัยเพียง 11 ปีในขณะนั้น นวัตกรรมที่น้องทัทคิดค้นนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้แอปฯ วัดความโค้งของกระดูกสันหลังได้อย่างแม่นยำขึ้น

“ความทุ่มเทและพรสวรรค์ของน้องทัทมีส่วนสำคัญมาก ในการทำให้แอปฯนี้ ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น” เอฎากล่าวถึงผลงานของน้องชายด้วยความภาคภูมิใจ “การมีส่วนร่วมของน้องทัทในโครงการนี้เป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นว่า เยาวชนไทยแม้จะอายุยังน้อยนิด ก็สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มีความหมายและสร้างผลกระทบที่แท้จริงได้”

ขยายขอบเขตสู่อาเซียน แอปฯ ‘สโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy)’ เข้าถึงทุกกลุ่มวัย จากโรงเรียนสู่วัด

การนำแอปพลิเคชันสโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy) เข้าสู่โรงเรียนต่างๆ ของเอฎาเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจใหญ่ที่มุ่งสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคกระดูกสันหลังคดให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปัจจุบัน โรงพยาบาลศิริราชได้นำแอปพลิเคชันนี้ไปใช้แล้ว และกำลังจะมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับโรคกระดูกสันหลังคดทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

ที่น่าสนใจคือ แอปพลิเคชันนี้ยังถูกนำไปใช้ในวัดที่จัดกิจกรรมปฏิบัติธรรม โดยผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่วัยกลางคนจนถึงผู้สูงอายุที่ต้องนั่งพับเพียบเป็นเวลานาน ซึ่งอาจทำให้กระดูกสันหลังโค้งไปด้านใดด้านหนึ่ง การสร้างความตระหนักรู้ในกลุ่มนี้จึงมีความสำคัญไม่แพ้กัน

การที่ทั้งโรงพยาบาลศิริราชและวัดต่างๆ นำแอปพลิเคชันไปใช้ สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายในการใช้งาน จากวัยรุ่นไปจนถึงผู้สูงอายุที่เข้าร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรม แอปพลิเคชันสโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy)กำลังเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนในทุกช่วงวัย

ปิดท้ายความสำเร็จ ‘สโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy)’ จุดประกายการเปลี่ยนแปลงวงการแพทย์ไทย

เมื่อการเดินสายให้ความรู้ตามโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศของเอฎาในช่วงปิดเทอมรอบนี้ใกล้สิ้นสุดลง เราเห็นผลกระทบในทางที่ดีได้ชัดเจน และเห็นพลังบวกเกิดขึ้นมากมาย นักเรียน ผู้ปกครอง คุณครู และบุคคลทุกวัยที่ได้ลองใช้แอปพลิเคชัน รู้สึกมีพลังในการดูแลสุขภาพของตนเองและชื่นชอบการเข้าถึงที่ง่ายดายของแอปพลิเคชัน และชุมชนเริ่มมองการดูแลรักษาโรคกระดูกสันหลังคดในมุมมองใหม่

“ผลตอบรับที่ดีมากจากโรงเรียนต่างๆ สร้างกำลังใจให้เอฎามาก” เอฎากล่าว “เอฎามุ่งมั่นมากขึ้นที่จะผลักดันต่อไป เพื่อให้การดูแลรักษาโรคกระดูกสันหลังคดเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะมีพื้นฐานครอบครัวหรือฐานะทางการเงินอย่างไร”

ด้วยความมุ่งมั่น ความคิดสร้างสรรค์ และความทุ่มเทอย่างไม่ย่อท้อ เอฎาไม่เพียงสร้างความตระหนักรู้ แต่ยังเป็นตัวอย่างอันทรงพลังที่แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีและการศึกษาสามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางสังคมได้อย่างไร แอปพลิเคชันสโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy) พร้อมคุณสมบัติที่ล้ำสมัยและการเข้าถึงที่ง่ายดาย เป็นประจักษ์พยานถึงวิสัยทัศน์ของเธอ – ที่ต้องการให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการตรวจคัดกรองกระดูกสันหลังคดแต่เนิ่นๆ และสามารถจัดการโรคกระดูกสันหลังคดอย่างมีประสิทธิภาพได้

ผู้สนใจ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันสโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy) ได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android เพื่อใช้ในการตรวจคัดกรองเบื้องต้นด้วยตนเอง

Written By
More from pp
“ธนกร” อัด “ปิยบุตร” ปกป้องสถาบันเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ถ้าตรรกกะง่ายๆ ยังไม่เข้าใจก็ไม่สมควรเป็นคนไทย
“ธนกร” อัด “ปิยบุตร” ปกป้องสถาบันเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ถ้าตรรกกะง่ายๆ ยังไม่เข้าใจก็ไม่สมควรเป็นคนไทย ย้อน ม. 112 กระทบการแก้ปัญหาให้ประชาชนตรงไหน
Read More
0 replies on “‘ปุณศิรา เธียรวร’ บุกเบิกแอปฯ สโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy) ตรวจคัดกรองโรคกระดูกสันหลังคด หวังช่วยผู้ป่วยกว่า 1-2 ล้านคนทั่วประเทศ”